เปิดชื่อ 3 บริษัทไทย จ่ายเช็ค "China Marine"ซื้อแป้งมันจีทูจีเก๊ 1.4 พันล.
เปิดชื่อ 3 บริษัทไทย รับซื้อแป้งมันจีทูจี เก๊ 1.4 พันล้าน ต่อจาก "China Marine" สตง. ระบุพฤติการณ์ชัด สั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คตามสัดส่วนสินค้า ก่อนรับมอบใบมอบอำนาจบริษัทจีน นำของออกจากคลังอคส. ปรับปรุงคุณภาพบรรจุถุงใหม่ส่งออกขายเอง
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในรายงานการสอบสวนกรณีการซื้อขายแป้งมันสำปะหลัง ระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับ บริษัท China Marine Shipping Agency Lianyungang Co.,Ltd ตัวแทนจากจีน จำนวน 1.4 แสนตัน วงเงินรวม 1,460 ล้านบาท ในยุคที่นางพรทิวา นาคาศัย ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชน์ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปผลการสอบสวนว่ากระบวนการซื้อขายสินค้าดังกล่าวว่าไม่ใช่การซื้อขายสินค้าแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีจริง
เพราะภายหลังจากการลงนามในสัญญาซื้อขายกับกรมการค้าต่างประเทศแล้ว บริษัท China Marineฯ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้บริษัทเอกชนไทย 3 ราย เป็นผู้รับมอบแป้งมันสำปะหลังจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) แทน โดยมีการนำเงินตามสัดส่วนของแต่ละบริษัทจ่ายให้แก่ บริษัท China Marine ฯ ไปจ่ายต่อให้กรมการค้าต่างประเทศ เป็นค่าซื้อแป้งมันสำปะหลังอีกครั้ง ขณะที่บริษัท China Marineฯ ไม่มีใบอำนาจอำนาจจากรัฐบาลจีน และไม่ได้ทำธุรกิจด้านการเกษตรแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ: เปิดหลักฐานมัดระบายแป้งมันฯ1.4 พันล. ต้นแบบข้าวจีทูจีเก๊ รบ."ยิ่งลักษณ์")
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในรายงานการสอบสวนกรณีการซื้อขายแป้งมันฯ ดังกล่าว พบว่า บริษัทเอกชน 3 ราย ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้รับมอบซื้อแป้งมันฯ แทน บริษัท China Marineฯ คือ บริษัท ชัยภูมิ สตาร์ซ จำกัด , บริษัท เอเชีย ฟรุคโตส และบริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรม จำกัด
ทั้งนี้ ในรายงานการสอบสวน สตง. ระบุว่า ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2553 (วันถัดจากวันลงนามในสัญญามูลค่า 1,460,359,443.05 บาท) บริษัท China Marine ฯ ได้มอบอำนาจให้บริษัทตามกฎหมายไทย รวม 3 บริษัท เป็นผู้รับมอบแป้งมันจาก อคส. โดยบริษัท ชัยภูมิ สตาร์ซ จำกัด ได้รับมอบอำนาจให้รับมอบแป้งมันจำนวน 40,000 ตัน มูลค่า 426,400,000 บาท บริษัท เอเชีย ฟรุคโตส จำกัด ได้รับมอบอำนาจให้รับมอบแป้งมัน จำนวน 23,544,672 ตัน มูลค่า 250,986,203.52 บาท และบริษัท สงวนวงษ์ อุตสาหกรรมจำกัด ได้รับมอบอำนาจให้รับมอบแป้งมัน จำนวน 73,449.647235 ตัน มูลค่า 782,973,239.53 บาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ชัยภูมิ สตาร์ซ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2544 มีทุน 300 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 50 หมู่ที่ 11 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ แจ้งประกอบธุรกิจขายแป้งมันสำปะหลังและผลพลอยได้ - ส่งออก,ผู้ผลิต
ปรากฎชื่อ นาง อัมพร แซ่เฮง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2517 มีทุน 140 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 120 หมู่ที่ 4 ถนนราชสีมา-โชคชัย ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา แจ้งประกอบธุรกิจ ผลิตแป้งมันสำปะหลังและแป้งแปรรูป - ผู้ผลิต
ปรากฎชื่อ นาย ทศพล ตันติวงษ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
บริษัท เอเซีย ฟรุคโตส จำกัด แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2539 มีทุน 175 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 9/5 ถนนเดโช แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจผลิต-ส่งออกแป้งมันสำปะหลัง/แป้งโมดิไฟด์ เช่าโกดัง - ส่งออก,ผู้ผลิต
ปรากฎชื่อนาง ศิริวรรณ ทรัพย์ส่งแสง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย พงศ์ภัค ทรัพย์ส่งแสง ถือหุ้นใหญ่
ทั้งนี้ สตง.ระบุในรายงานการสอบสวนว่า จากการเชิญกรรมการผู้จัดการของบริษัททั้ง 3 พร้อม หลักฐาน คือ หลักฐานการส่งออกแป้งมัน และแคชเชียร์เช็คการจ่ายเงินให้แก่ บริษัท China Marine ฯ ได้ข้อเท็จจริงตรงกันว่า ทั้ง 3 บริษัท ได้ซื้อแป้งมันสำปะหลังจาก บริษัท China Marine ฯ โดยนำเงินตามสัดส่วนของแต่ละบริษัท จ่ายให้แก่ บริษัท China Marine ฯ เพื่อนำไปจ่ายให้กับกรมการค้าต่างประเทศเป็นค่าซื้อแป้งมันสำปะหลัง
จากนั้น บริษัท China Marine ฯ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ทั้ง 3 บริษัท นำไปใช้เป็นหลักฐานเพื่อรับแป้งมันจากอคส. และเมื่อได้รับสินค้าแล้ว บริษัทแต่ละแห่งจะนำสินค้ากลับมาที่โรงงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงคุณภาพจากนั้นนำไปบรรจุถุงใหม่และส่งออกในนามของแต่ละบริษัทเอง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการขนส่ง ส่งออก และปรับปรุงคุณภาพแปง้มัน แต่ละบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกับ บริษัท China Marine ฯ แต่อย่างใด
การซื้อขายแป้งมัน ระหว่าง บริษัท China Marine ฯ และ กรมการค้าต่างประเทศ จึงไม่ใช่การทำสัญญาซื้อขายแป้งมัน แบบจีทูจี ตามที่มีการกล่าวอ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณผู้บริหารบริษัทเอกชนไทยทั้ง 3 แห่งแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้