- Home
- Investigative
- บัญชีทรัพย์สิน
- คำต่อคำ“ก่อแก้ว”รับโอนหุ้นให้“นอมินี”เสื้อเหลือง –ใช้เอ 4 ทำสัญญากันถูกเบี้ยว
คำต่อคำ“ก่อแก้ว”รับโอนหุ้นให้“นอมินี”เสื้อเหลือง –ใช้เอ 4 ทำสัญญากันถูกเบี้ยว
เปิดคำต่อคำ“ก่อแก้ว พิกุลทอง”รับวางแผนโอนหุ้นให้“นอมินี”กลัวถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานช่วงชุมนุมกลุ่ม นปช. ไว้ใจเพื่อน“เสื้อเหลือง” คิดขายทิ้งแต่ไม่มีคนซื้อ ใช้กระดาษ เอ 4 ธรรมดาทำสัญญากันถูกเบี้ยว อัด กม.บ้าบอคอแตกบีบนักการเมืองซุกทรัพย์สิน
การที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชี รายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่อสาธารณะชนในการเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง โดยการแจ้งข้อมูลในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกอบไปด้วย
1. การโอนหุ้นบริษัท นิวสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 112,500 หุ้นรวมมูลค่า 56,458,612.78 บาท ให้หุ้นส่วนธุรกิจสองราย คือ นายประคัลภ์ ธวัชปีดิพงษ์ และ นายพงศ์ศักดิ์ วิญญูตระกูล ถือครองแทน
2. หนังสือสัญญาการถือหุ้นบริษัท นิวสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 112,500 หุ้น แทนกัน ระหว่าง นายก่อแก้ว ในฐานะ “ผู้ถือหุ้น” กับ นายประคัลภ์ และนายพงศ์ศักดิ์ ในฐานะ “ผู้ถือหุ้นแทน” ลงวันที่ 15 มกราคม 2553
3. หนังสือรับรองหนี้ จำนวน 1,159,461 บาท ระหว่าง นายก่อแก้ว ในฐานะ เจ้าหนี้ กับ นายประคัลภ์ และนายพงศ์ศักดิ์ ในฐานะ “ลูกหนี้” ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2554 (วันเดียวกับที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง เข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย)
หลายคนสงสัยว่า นายก่อแก้ว มีเหตุผลอะไรถึงต้องเปิดเผยข้อมูลเรื่องหนี้สินแบบละเอียดยิบ?
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจโอนหุ้น บริษัท นิวสตาร์ฯ ให้หุ้นส่วนทั้งสองคนดูแลแทน เป็นแนวทางการป้องกันไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากฝ่ายตรงข้าม ในช่วงที่ตนร่วมขับเคลื่อนทางการเมืองร่วมกับกลุ่ม นปช. ส่วนการยื่นข้อมูลทั้งหมดต่อ ป.ป.ช. ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด
“ช่วงนั้นการเมืองมันแรงมาก มีการยัดข้อหาใส่ร้ายป้ายสีกันเยอะแยะไปหมด ผมเองไม่ได้บริหารบริษัทให้เพื่อนบริหารแทน .. ผมก็กลัวเขาจะเดือดร้อนก็เลยตัดสินใจโอนหุ้นออกไป ไม่อยากให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะทางฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมือง เดี๋ยวเขามากลั่นแกล้งผม เพื่อนผมเขาจะเดือนร้อน”
นายก่อแก้ว ขยายความต่อไปว่า ในข้อเท็จจริงตนกับหุ้นส่วนธุรกิจบางคน แม้จะมีความขัดแย้งทางการเมือง แต่ก็อยู่ร่วมกันได้
“หุ้นส่วนของผม..คือเราอยู่กันแบบผมแดง หุ้นส่วนบางคนเขาก็เหลือง.. (หัวเราะ) เราก็อยู่กันแบบสบายๆ แต่ว่า ตอนนั้น ผมโดนเล่นหลายเรื่อง กลัวเขาเดือนร้อนก็เลยโอนหุ้นออก”
เมื่อถามว่า หุ้นส่วนธุรกิจคนไหนที่เป็นเสื้อเหลือง นายก่อแก้วตอบว่า คุณประคัลภ์ เป็นเสื้อเหลือง คุณพงศ์ศักดิ์ เป็นกลางๆ ส่วนผม เป็นแดง
นายก่อแก้ว ระบุด้วยว่า เดิมมีความคิดจะขายหุ้นบริษัท นิวสตาร์ฯ ไปทั้งหมด แต่ติดขัดว่าไม่สามารถหาคนมาซื้อต่อได้เลยต้องถือไว้เอง ก่อนจะโอนต่อให้หุ้นส่วนธุรกิจของตนดูแลอีกครั้ง
“จริงๆ อยากจะขายหุ้นนั่นแหละ อยากขายไปเลย แต่ยังหาคนซื้อไม่ได้ ก็เลยต้องโอนหุ้นไปให้เพื่อนถือแทนไว้ ”
เมื่อถามถึง เงื่อนไขจำนวนมาก ที่ระบุในหนังสือรับถือครองหุ้นแทน อาทิ ห้ามขาย ห้ามโอน ห้ามเปลี่ยนมือ ร่วมถึงการฟ้องร้อง นายก่อแก้ว ตอบว่า “ก็ต้องทำซิครับ ต้องทำ..ต้องป้องกัน เพราะถ้าเกิดเขาเอาหุ้นไปทำอย่างอื่น ผมก็ซวยซิ”
ส่วนเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับหุ้นส่วนทั้งสองคน ในการเข้ามาดูแลหุ้นแทน นายก่อแก้ว ย้ำว่า “จะไปจ่ายทำไม ก็เพื่อนฝูงกันทั้งนั้น อย่าลืมว่าเขารับไป เพราะผมไม่อยากให้เพื่อนผมเดือนร้อน เพราะเขาทำอาชีพสุจริต ถูกไหม ผมเองก็อยากขายหุ้นออกไป แต่มันขายไม่ได้”
ส่วนข้อสังเกตเรื่องกระบวนการจัดทำหนังสือสัญญารับถือครองหุ้นแทน ว่า ทำจากกระดาษ A4 ธรรมดา ไม่มีตราบริษัทนิวสตาร์ฯ ประทับอยู่ด้วย นั้น นายก่อแก้ว ชี้แจงว่า “ก็เราเป็นเพื่อนกันนะ”
ก่อนจะขยายความต่อว่า “เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ก็เราเป็นหุ้นส่วนกันรู้จักกันมาสิบๆ ปี ตั้งแต่ปี 2536 นี่ก็เกือบยี่สิบปี ผมไม่รู้ข้อกฎหมายนะ แต่กระดาษธรรมดาก็น่าจะใช้ได้ และกระดาษใบมอบอำนาจที่ผมเคยใช้ก็ปริ้นท์ ออกมาจากจากเว็บไซต์ หรือใช้กระดาษธรรมดาในการมอบอำนาจให้คนอื่นก็เยอะ ไม่เห็นมีปัญหาหาอะไร”
ส่วนข้อสังเกตเรื่องการไม่มีตราบริษัทนิวสตาร์ฯ ประทับในหนังสือรับรองการถือครองหุ้นแทนนั้น นายก่อแก้ว ตอบว่า “มันเป็นเรื่องบุคคล ต่อ บุคคล ไม่ใช่เรื่องของบริษัท... คือหุ้นมันเป็นหุ้นของผม ไม่ใช่หุ้นบริษัท ผมจะทำสัญญาอะไรกับใคร ก็ไม่น่าจะต้องมีโลโก้อะไรนี่ เป็นเรื่องบุคคลต่อบุคคล”
เมื่อถามย้ำว่า สรุปว่าเจตนาในการโอนหุ้นให้เพื่อนถือครองแทนไว้ เพื่อป้องกันปัญหาทางการเมืองใช่หรือไม่ นายก่อแก้วระบุว่า ขนาดวางไว้แล้วยังโดนเลย
“แม้ผมจะวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ตอนชุมนุมก็มีการอายัดบัญชีผม และลามไปอายัดบัญชีบริษัทด้วย ผมก็โดนเพื่อนด่าตะเหลิดเปิดเปิงอยู่ คือ คุณเข้าใจไหม อายัด(เงิน)ผม บริษัทไม่เกี่ยวเขาไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยเลย หุ้นส่วนผมคนหนึ่งเสื้อเหลือง เวลามีชุมชนเขาก็ไปชุมชนด้วย แต่เขาก็มาโดนด้วยเขาก็เซ็ง ไม่มีเงินเดือนจ่ายลูกน้อง ถูกอายัดหมด มันเดือดร้อนกันไปหมด”
ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยกู้เงินให้กับเพื่อนทั้งสองรายไปลงทุน นั้น นายก่อแก้ว ปฏิเสธที่จะชี้แจงรายละเอียด โดยระบุว่า “โอ้ยๆๆๆ อันนี้มันเรื่องส่วนตัวระหว่างกัน หุ้นส่วนมันก็มียืมกันไปยืมกันมา โอ้ย...อยู่กันมา 20 ปี”
เมื่อถามย้ำว่า เงินที่กู้ไปมีการลงทุนจริงหรือเปล่า นายก่อแก้ว ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม บอกแต่เพียงว่า “อย่าไปรู้เลย มันเรื่องส่วนตัวๆ”
เมื่อถามว่า ทำไมหนังสือรับสภาพหนี้ ต้องทำวันเดียวกับวันที่เข้ารับตำแหน่ง ส.ส. คือ วันที่ 2 สิงหาคม 2554 นายก่อแก้ว ตอบว่า “มันต้องแจ้งอยู่แล้วว่าใครเป็นหนี้ใคร มันต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ถ้าผมเป็นหนี้ใครผมก็ต้องลงแจ้งไป แค่นั้นเอง คือ มันเป็นเรื่องที่มีมาก่อน จะทำวันไหนก็ได้”
ส่วนประเด็นการเข้าไปรับงาน ปตท.จำนวนมาก ของบริษัท นิวสตาร์ฯ นั้น นายก่อแก้ว ชี้แจงว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเนื่องจากตนและหุ้นส่วน มีความเชี่ยวชาญงานด้านนี้ มาก่อน จึงทำให้รับงานหลายโครงการ และเข้าร่วมประมูลงานตามระเบียบที่กำหนดไว้ทั้งหมด
“ผมเป็นวิศวกร เป็นผู้จัดการคลังน้ำมัน ผมอยู่ในสายนี้ อาชีพของผมทำงานรับเหมาในอุตสาหกรรม พวกโรงงานน้ำมัน ผมทำมาหมด เอสโซ่ผมก็ทำ มันอยู่ในฟิวส์ผม หุ้นส่วนผมก็เคยทำงานด้านนี้มาก่อน เป็นผู้จัดการคลังน้ำมัน บริษัทของสหรัฐ เราอยู่ในฟิวส์นี้กันหมด การได้รับงานมาจำนวนมากจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ”
เมื่อถามว่า บริษัทเครือข่ายของบริษัท นิวสตาร์ฯ มีจำนวนมากหรือไม่ นายก่อแก้ว ตอบว่า “ไม่เยอะ แต่อย่าให้ผมบอกข้อมูลเลย แค่นี่พวกคุณก็เปิดๆ ไป ผมก็ซวยอีก หุ้นส่วนผมก็ด่าผมอยู่เนี่ย”
เมื่อถามย้ำว่า นอกเหนือหุ้นบริษัท นิวสตาร์ ที่โอนไปให้เพื่อนสองคนถือแทน ยังมีบริษัทอื่นอีกหรือไม่ นายก่อแก้ว ระบุว่า “ผมให้สองคนนั้นถือหุ้นแทนแล้วไม่มีอะไรอีกแล้ว ก็มีแต่ถือหุ้นนิวสตาร์แทน มันเป็นหุ้นของผมเขาถือหุ้นแทน
เมื่อถามย้ำคำถามเดิม ว่ายังมีบริษัทอื่น ที่โอนหุ้นไปให้เพื่อน หรือคนอื่นถือแทนหรือไม่ นายก่อแก้ว ยืนยันว่า “ไม่มี มีนิวสตาร์อันเดียว หุ้นในตลาดก็ไม่มี ...ไม่กล้าถือเพราะกลัวโดนเหมือนพวก ส.ส.ที่โดนถอดถอนไป”
ยืนยันว่าแจ้งข้อมูลให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับทราบทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่ นายก่อแก้ว ตอบว่า “ต้องแจ้งซิ มีอะไรผมต้องแจ้งหมด ไม่แจ้งเขาก็เล่นผมนะซิ”
นายก่อแก้ว ยังกล่าวทิ้งทายด้วยว่า “คุณเข้าใจไหมผมอึดอัดมาก เราประกอบอาชีพสุจริต เราจะทำอะไร หนึ่งกลัวถูกกลั่นแกล้ง สองกลัวถูกกฎหมายบ้าบอคอแตก คุณประกอบอาชีพสุจริต มันทำตัวลำบากเวลามาเล่นการเมือง มันอะไรก็ไม่รู้ คุณต้องอย่ามีอาชีพ ต้องไปรวยโดยไปฝากคนโน่นคนนี่ คุณถึงจะอยู่วงการทางเมืองได้ ทุกวันนี้ ผมเห็นเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นายประคัลภ์ และนายพงศ์ศักดิ์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการรับโอนหุ้นบริษัท นิวสตาร์ ฯ ดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยนายประคัลภ์อยู่ระหว่างเดินทางไปทำธุระที่ประเทศลาว