บ.คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง" โชว์ผลประกอบการธุรกิจข้าวล่าสุด รายได้ดอกเบี้ยโผล่ร้อยล.

บ.คนสกุล"เสียเปี๋ยง" โชว์ผลประกอบการธุรกิจข้าวล่าสุด รายได้ดอกเบี้ยโผล่ร้อยล้าน พ่วงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราหลายล้าน เพิ่งส่งงบดุลสองปีรวด วันเดียวกัน ที่อยู่เดียว "สยามอินดิก้า"

ชื่อของ "นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร" คนนามสกุลเดียวกับ "นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร" หรือ "เสี่ยเปี๋ยง"  อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) อยู่ในขณะนี้ กำลังถูกจับตามอง

เมื่อ บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจข้าว และปรากฎชื่อนาย สรวิศ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ เพิ่งนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุดในปี 2557 แจ้งว่ามีรายได้จากการขายข้าวนับร้อยล้านบาท

(อ่านประกอบ: ดูชัด ๆ ป.ป.ช.ปอกเปลือกคดีจีทูจีเก๊เชือดยกเข่ง“บุญทรง-บิ๊กขรก.-เสี่ยเปี๋ยง”)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2558 บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด ได้นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุดปี 2557 ระบุว่า มีรายได้รวม 132,213,457.79 บาท แยกเป็นดอกเบี้ยรับ 122,807,100.16 บาท กำไรจากการขายเงินลงทุน 9,406,357.63 บาท

มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 251,302.50 บาท ขาดทุนสุทธิ  68,037,844.71 บาท 

เปรียบเทียบผลประกอบการธุรกิจปี 2556 แจ้งว่ามีรายได้รวม 74,320,486.39 บาท แยกเป็นดอกเบี้ยรับ 64,353,742.91 บาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 9,301,771.24 บาท กำไรจากการขายเงินลงทุน 664,972.24 บาท 

มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 269,100 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,476,531.17 บาท 

ชี้ให้เห็นว่าผลประกอบการดีขึ้น มีรายได้เกือบเท่าตัว 

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 195/ หมู่ที่ 6 ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง (ที่อยู่เดียวกับบริษัทสยามอินดิก้าในปัจจุบัน) แจ้งประกอบธุรกิจส่งออกข้าวสารและสินค้าเกษตร

ปรากฎชื่อ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร ถือหุ้นใหญ่สุด  9,998หุ้น มูลค่า  999,800 บาท นาย จิรพันธ์ สาโส และนาย ชูวัส แสงเปล่งปลั่ง ร่วมถือหุ้นอยู่คนละ 1 หุ้น มูลค่ารวม 200 บาท 

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นายสรวิศ  ปรากฎรายชื่อเป็นเจ้าของเงินจำนวนกว่า 779,647,500 บาท จากจำนวนเงินกว่า 2,200 ล้านบาท ที่นำไปใช้ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท สิราลัย จำกัด ก่อนที่เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร๊อพเพอร์ตี้ส์ จํากัด และถูกบริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดซื้อต่อกิจการไป ก่อนบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ ADAM จะเข้ามาซื้อกิจการต่ออีกครั้งในราคา 800 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัท สิราลัย จำกัด หรือ บริษัท กีธา พร๊อพเพอร์ตี้ส์ จํากัด และนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีจีทูจี

ขณะที่ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ไม่ถูกระบุว่า มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อย่างใด และไม่มีการยืนยันข้อมูลชัดเจนว่า เงินลงทุนหุ้นจำนวน 700 กว่าล้านบาท ของนายสรวิศ ไปอยู่ที่ไหน?

(อ่านประกอบ : เปิดหลักฐาน คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง"ขนเงินสด2.2พันล.ลงขันธุรกิจ ก่อนเจอคดีข้าว , หลักฐานครบชุด"คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง ขนเงินสด 2.2 พันล.รอผลป.ป.ช.ชี้คดีข้าว , 3คำถาม!เส้นทางเงินบ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"คดีข้าวจีทูจี ก่อน-หลังโอนหุ้นเกลี้ยง 2.2 พันล.)

ขณะที่ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ยังปรากฎชื่อเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ กับ นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง เจ้าของบริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ซึ่งปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มูลค่า 655 ล้านบาท ในช่วงเดือน พ.ย.56 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โครงการระบายข้าวจีทูจี ถูกตรวจสอบพบปัญหาการทุจริต

ขณะที่ บริษัท คาล เอเซียฯ แจ้งประกอบธุรกิจ นำเข้าเครื่องมือและสว่านไฟฟ้า - นำเข้า ไม่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจข้าวแต่อย่างใด

โดยบริษัทที่นายสรวิศ ร่วมทำธุรกิจกับ นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง ชื่อว่า บริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ทุน 25 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 999 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านเป้า อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง แจ้งประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง

รายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด ณ วันที่ 17 มีนาคม 2556 มีจำนวน 3 ราย นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง ถืออยู่จำนวน 360,000 หุ้น มูลค่า 36,000,000 บาท นางพูนศรี เมืองตั้ง ถืออยู่ 60,000 หุ้น มูลค่า 6,000,000 บาท

ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด คือ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่จำนวน 780,000 หุ้น มูลค่า 78,000,000 บาท

การที่ บริษัท คาล เอเซีย ฯ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ในบริษัทสยามอินดิก้าฯ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องความบังเอิญ?

(อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่!สัมพันธ์ลับ"บ.ขายสว่าน-ญาติเสี่ยเปี๋ยง"ก่อนโผล่หุ้นใหญ่สยามอินดิก้า)

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ บริษัทสยามอินกิด้า ถูกตรวจสอบพบว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการระบายข้าวจีทูจี เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ นายสรวิศ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัททำธุรกิจค้าข้าวขึ้นใหม่ ใช้ชื่อว่า "บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด"

และเพิ่งนำส่งงบการเงินปี 2556 และ 2557 ให้กรมพัฒนาธุรกิจในวันเดียวกัน คือ วันที่ 2 มิถุนายน 2558

ขณะที่ในงบการเงินทั้ง 2 ปี ไม่ได้แจ้งว่า มีรายได้จากการซื้อขายสินค้า ข้าว แต่อย่างใด แต่รายได้ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับเงินฝากและจากการขายเงินลงทุน เป็นหลัก 

น่าสนใจว่า บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด แท้จริงแล้ว จัดตั้งขึ้นมาทำธุรกิจอะไรกันแน่?

(อ่านประกอบ : เปิดตัว"คิงดอมไรซ์ไซโล"ธุรกิจข้าวใหม่คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง"กู้เงินลงทุนร้อยล.)