ถึงคิว! เปิดคำให้การ 'พงษ์เกษม' ผู้ร่วมทริปไปจีน-ยันรู้จัก 'เจ้าของบ.ยา' สวนทาง 'ณรงค์'

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 15 กรกฎาคม 2561 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าวบุคคลดัง | Isranews | Investigative | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

"...ในระหว่างให้การต่อศาล ทนายจำเลย ได้ให้นายแพทย์พงษ์เกษม อธิบายลักษณะของคณะที่ไปแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า เหตุใดมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมคณะไป นายแพทย์พงษ์เกษม ได้อธิบานว่า ตั้งแต่รัฐบาลสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีความสัมพันธ์กับประเทศจีน ในการแลกเปลี่ยนวิชาการเกี่ยวกับสุขภาพ และการค้า การสาธารณสุข และมีการแลกเปลี่ยนกันเรื่อยมา โดยผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยติดต่อกับข้าราชการของฝ่ายจีน คือ บิดา ของนายบุศรินทร์ ลักษณะครอบครัวของนายบุศรินทร์เป็นคนคอยดูแลและประสานงานให้ ตนจึงเข้าใจว่าเป็นที่มาของการร่วมคณะไปของนายบุศรินทร์ด้วย..."

picponggg15 7 18

ในรายชื่อพยานที่ขึ้นให้การในคดีที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นโจทก์ ฟ้องหมิ่นประมาท กลุ่มแพทย์ชนบท 9 ราย กรณีทำหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คัดค้านการกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่ถูกออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงเดือนมิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุถึงพฤติการณ์ นพ.ณรงค์ ในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมสุขภาพจิตว่า เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งในยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง

นอกเหนือจากคำให้การของ นายแพทย์พรเทพ ศิรินารังสรรค์ และ นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายละเอียดมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบไปก่อนหน้านี้แล้ว (อ่านประกอบ : ร่วมอธิฐานได้เป็นปลัดสธ.ที่ภูฏาน! เปิดคำให้การ 'พรเทพ-ยงยศ' กรณี 'ณรงค์' เซ็นใบลาออกล่วงหน้า)

ยังมีพยานสำคัญอีก 1 ปาก คือ นายแพทย์พงษ์เกษม ไข่มุกด์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ที่ปรากฏชื่อเป็น 1 ใน 12 บุคคลที่ร่วมคณะเดินทาง กับ นพ.ณรงค์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปปฏิบัติภารกิจที่เมืองหูหนาน ประเทศจีนตามโครงการ Hunan Department of Health ระหว่างวันที่ 16 -22 มิ.ย. 2555 ก่อนที่จะปรากฏข้อมูลใน 2 กรณี คือ 1. เรื่องเดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับอดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อขอตำแหน่ง โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านโครงการความร่วมมือกับ Hunan Provincial Department of Health เมื่อวันที่ 15-21 มิ.ย.2555 โดยเดินทางจากประเทศไทยถึงกวางโจว แล้วได้เดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT เข้าฮ่องกงโดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 2. ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีนดังกล่าว ได้มีการขออนุมัติให้เจ้าของบริษัทยาด้านจิตเวชเดินทางไปพร้อมคณะเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง ขึ้นให้การต่อศาลด้วย

น่าสนใจว่า นายแพทย์พงษ์เกษม ไข่มุกด์ ให้ขึ้นให้การต่อศาลอย่างไรบ้าง?

นายแพทย์พงษ์เกษม ให้การต่อศาลว่า รู้จักกับจำเลยทั้ง 9 รายมาก่อน พร้อมระบุว่า "บางท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงมากครับ" และจำได้ว่าชมรมแพทย์ชนบทเคยดำเนินการจนสามารถให้ดำเนินคดีกับผู้ทุจริตในกระทรวงสาธารณสุขได้ คืออดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายรักเกียรติ สุขธนะ

นายแพทย์พงษ์เกษม ยังให้การต่อศาลว่า ในระหว่างเกิดเหตุคดีนี้ ตนเองมีตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในคณะผู้ร่วมเดินทางไปดูงานกับ นพ.ณรงค์ ที่เมืองหูหนาน ประเทศจีน เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาการด้านสุขภาพจิตกับคณะแพทย์ของจีน โดยเดินทางออกจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2555 ระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนทางวิชาการถึงวันที่ 22 มิ.ย. 2555 แต่มีภารกิจด่วนจึงเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 21 มิ.ย. 2555

นายแพทย์พงษ์เกษม ให้การยืนยันว่า ขณะที่คณะเดินทาง และ นพ.ณรงค์ อยู่ที่เมืองหูหนานนั้น ไม่ได้เดินทางออกนอกเขตเมืองหูหนานเลย

นายแพทย์พงษ์เกษม ให้การยืนยันยอมรับว่า รู้จักกับ นายบุศรินทร์ วนาสวัสดิ์ ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะฯ ด้วย โดยรู้จักว่าเป็นเจ้าของบริษัทผลิตยา น่าจะเป็นกรรมการบริษัท

ทั้งนี้ ในระหว่างให้การต่อศาล ทนายจำเลย ได้ให้นายแพทย์พงษ์เกษม อธิบายลักษณะของคณะที่ไปแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า เหตุใดมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมคณะไป นายแพทย์พงษ์เกษม ได้อธิบายว่า ตั้งแต่รัฐบาลสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีความสัมพันธ์กับประเทศจีน ในการแลกเปลี่ยนวิชาการเกี่ยวกับสุขภาพ และการค้า การสาธารณสุข และมีการแลกเปลี่ยนกันเรื่อยมา โดยผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยติดต่อกับข้าราชการของฝ่ายจีน คือ บิดา ของนายบุศรินทร์ ลักษณะครอบครัวของนายบุศรินทร์เป็นคนคอยดูแลและประสานงานให้ ตนจึงเข้าใจว่าเป็นที่มาของการร่วมคณะไปของนายบุศรินทร์ด้วย

อย่างไรก็ดี นายแพทย์พงษ์เกษม ให้การยืนยันว่า บุคคลที่จะร่วมคณะในการเดินทางไปแลกเปลี่ยนทางวิชาการดังกล่าว นั้นเป็นอำนาจของนพ.ณรงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิตขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการและเป็นผู้ขออนุมัติจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ คำให้การของ นายแพทย์พงษ์เกษม เกี่ยวกับข้อมูลของ นายบุศรินทร์ สอดคล้องกับคำชี้แจงของ นายบุศรินทร์ ที่ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา ก่อนหน้านี้ ว่า "ความเป็นไปเป็นมาของทริปนี้ต้องย้อนไปเมื่อช่วง 30 ปีก่อน บิดาของตนเคยได้รับหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลจีนกับรัฐบาลไทย เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวประเทศจีนยังค่อนข้างปิดประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขจีนกับไทย ยังไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งบิดาของตนได้เข้าไปในประเทศจีนในช่วงเวลาดังกล่าวพอดี และด้วยความที่รู้จักกับหน่วยงานสาธารณสุขของจีน ก็เลยประสานหน่วยงานสาธารณสุขทั้งไทยและจีนได้มาเจอกัน จึงทำให้เกิดทริปแลกเปลี่ยนกันระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขไทยและจีนขึ้น ทำให้ตนมีโอกาสไปร่วมทริปเหล่านี้ด้วยทุกครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 เป็นต้นมา ซึ่งทางหน่วยงานสาธารณสุขประเทศจีนก็บอกว่าถ้าบิดาของตน หรือว่าตนไปร่วมทริป จะยินดีต้อนรับ"

ขณะที่ นพ.ณรงค์ ให้การต่อศาลว่า มีนายบุศรินทร์ วนาสวัสดิ์ ปรากฏชื่อร่วมคณะทำงานเดินทางไปจีนด้วย แต่ยืนยันว่า ไม่รู้จัก นายบุศรินทร์ และจำไม่ได้ว่าได้สอบถามนายบุศรินทร์ หรือไม่ว่าเดินทางไปทำอะไร และไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจยาด้านจิตเวชซึ่งมีขนาดใหญ่หรือไม่

ส่วนข้อมูลที่มีการระบุว่า นายบุศรินทร์ เดินทางไปพร้อมคณะเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง นั้น นพ.ณรงค์ ให้การยืนยันว่า นายบุศรินทร์ ไม่ได้เป็นผู้ช่วยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าตีกอล์ฟให้ตนในการเดินทางดังกล่าว

คำให้การของ นายแพทย์พงษ์เกษม และ นพ.ณรงค์ เกี่ยวกับ นายบุศรินทร์ จึงดูเหมือนจะสวนทางกันอยู่บางส่วน?