- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- หน.สรรพากร สมุทรปราการ สู้!! ขู่ฟ้องกลับ หากถูกออกคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝาก
หน.สรรพากร สมุทรปราการ สู้!! ขู่ฟ้องกลับ หากถูกออกคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝาก
หน. สรรพากร สมุทรปราการ สู้!! ประกาศใช้สิทธิตามกระบวนการทางกฎหมาย ขู่ฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้อง หากถูกออกสั่งอายัดบัญชีเงิน ฐานมีเอี่ยวคดีคืนภาษี 4.2 พันล้าน ลั่นยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ทำแบบนี้ไม่ได้ - ยืนยันความบริสุทธิ์คืนภาษีให้เอกชนไม่เร็ว ทำตามระเบียบทุกประการ
กรณีกระทรวงการคลัง จะส่งข้อมูลเจ้าหน้าที่สรรพากร ที่เกี่ยวข้องกับคดีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับบริษัทเอกชน จำนวน 4.2 พันล้านบาท เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ประกอบการออกคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝาก ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 นี้ นั้น
(อ่านประกอบ : ดีเอสไอ เตรียมสั่งอายัดบัญชี ขรก.สรรพากร เอี่ยวคดีคืนเงินภาษี 4.2 พันล้าน)
นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการส่งข้อมูลของกระทรวงการคลังให้ดีเอสไอครั้งนี้ หากมีชื่อตนร่วมอยู่ด้วย ตนคงไม่มีทางเลือกที่จะใช้สิทธิตามขั้นตอนทางกฎหมายฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง
“ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากจะมีคำสั่งอายัดบัญชีของผม เพราะขณะนี้ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่ออกมา ถึงจะบอกว่าการอายัดบัญชีครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบ แต่มันก็ไม่ถูกต้อง เพราะผมยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดอะไรเลย จะมีสั่งอายัดบัญชีไม่ได้”
นายพายุ ยังกล่าวต่อไปว่า “ก่อนหน้านี้ ผมถูกออกคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่เข้ามาช่วยงานที่ส่วนกลาง ในระหว่างที่มีการสอบสวน ก็พอที่จะยอมรับได้ ว่าเป็นไปตามหลักสากล เมื่อมีการสอบสวนเกิดขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องย้ายผู้เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวน แต่ตอนนี้จะมาออกคำสั่งอายัดบัญชีอีก มันไม่ถูกต้อง”
นายพายุ ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า การสั่งอนุมัติคืนภาษีของตน และเจ้าหน้าที่สรรพากรสมุทรปราการทุกคนเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนทุกประการ ไม่ได้คืนให้เร็ว 2 วัน 3 วัน หรือ 7 วัน ทุกคนทำงานตามระเบียบกำหนดไว้อย่างไรก็เป็นแบบนั้น
“ ผมและลูกน้องที่รับผิดชอบเรื่องการคืนภาษีทุกคน เรายืนยันในความบริสุทธิ์ของเรา แต่เราพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะสรรพากร มีกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม ม.10 แห่งประมวลรัษฎากร เรื่องการห้ามเปิดเผยข้อมูลผู้เสียภาษี และลำพังเงินเดือนข้าราชการ ในบัญชีก็มีกันอยู่ไม่เท่าไร ถ้าโดนสั่งอายัดจะอยู่กันยังไง” นายพายุระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ และพื้นที่บางรัก เป็นพื้นที่ที่ถูกระบุว่ามีปัญหาเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทเอกชน จำนวน 4.2 พันล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เพิ่งมีคำสั่งย้าย นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 และ นายศุภกิจ ริยะการ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 (บางรัก) ข้าราชการระดับ ซี 9 เข้ามาช่วยราชการ ที่กรมสรรพากรชั่วคราว ระหว่างรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการคืนภาษีดังกล่าว