- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- “เบญจา” ลั่นเงินคดีภาษีมูลค่าเพิ่ม 4 พันล.ไม่สูญ ตามเจอไม่ครบ ต้องมีคนชดใช้คืน!!
“เบญจา” ลั่นเงินคดีภาษีมูลค่าเพิ่ม 4 พันล.ไม่สูญ ตามเจอไม่ครบ ต้องมีคนชดใช้คืน!!
“เบญจา” ลั่นเงินคดีภาษีมูลค่าเพิ่ม 4 พันล.ไม่สูญ ตามเจอไม่ครบ ต้องมีคนชดใช้คืน!! รอฟังผลสอบข้อเท็จจริง ก.คลัง เจ้าหน้าที่คนไหนมีเอี่ยว รับผิดทางแพ่งด้วย ยันเงินหลวงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ - เผยสั่งหน่วยงานดูแลรายได้ ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศภาพรวม ดูข้อครหาตัวเลขบิดเบือนแล้ว
กรณีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุในระหว่างการแถลงข่าวผลการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีกรมสรรพากรคืนภาษีมูลค่าเงิน จำนวน 4 พันกว่าล้านบาท ให้กับบริษัทเอกชนกลุ่มหนึ่ง ระหว่าง ดีเอสไอ กระทรวงการคลัง และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ว่า "ให้ทำใจยอมรับว่า คงไม่สามารถติดตามเงินคืนกลับมาได้ทั้งหมด แต่จะทำเท่าที่ทำได้นั้น"
(อ่านประกอบ : ดีเอสไอ เตรียมสั่งอายัดบัญชี ขรก.สรรพากร เอี่ยวคดีคืนเงินภาษี 4.2 พันล้าน)
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสรรพากร และกรมศุลกากร ให้สัมภาษณ์ยืนยัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เงินภาษีที่ถูกบริษัทกลุ่มนี้ นำออกไป หากติดตามกลับคืนมาได้ไม่ครบถ้วน จะต้องมีบุคคลรับผิดชอบ ชดใช้เงินคืนให้หลวงอย่างแน่นอน เงินภาษีไม่สูญหายแน่
นางเบญจา กล่าวว่า ภายหลังจากที่ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ในส่วนของกระทรวงการคลัง มีสรุปผลการสอบสวนออกมาอย่างเป็นทางการ หากพบว่าเจ้าหน้าที่คนใด มีส่วนเกี่ยวข้อง กระทำความผิดชัดเจน จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ขึ้นมาดำเนินการด้วย
" หลังพบผู้กระทำผิดชัดเจน คงจะมีการแบ่งส่วนความรับผิดชอบทางแพ่งออกมาอีกครั้งว่า ใครบ้างจะต้องรับผิดชอบกับเงินที่เสียหายไป จะแบ่งสัดส่วนชดใช้คนละเท่าไร เพราะเงินหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้อยู่แล้ว"
สำหรับความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีนี้ ของกระทรวงการคลัง นั้น นางเบญจา ระบุว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก นายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ว่า ภายในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 นี้ ผลการสอบสวนน่าจะพอเห็นข้อมูลคราวๆ แล้วว่า เป็นอย่างไร ใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง
“ เท่าที่ทราบในขั้นตอนการสอบสวนของคณะกรรมการ จะดูรายละเอียดทั้งหมด มีการเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมด ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาอีกครั้ง ใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ปล่อยไป ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่”
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแล กรมสรรพากร และกรมศุลกากร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มครั้งนี้ โดยตรง ได้ให้นโยบายกับสองหน่วยงานถึงแนวทางการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกอย่างไร
นางเบญจา ตอบว่า “ได้มอบนโยบายให้ทั้งสองหน่วยงาน ไปจัดทำแผนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดขึ้นอีกมานำเสนอแล้ว"
"ในส่วนกรมศุลกากร แม้จะได้รับรายงานว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากขั้นตอนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ เพราะมีสินค้าส่งออกจริง แต่ปัญหาเกิดขึ้นในขั้นตอนการมาขอคืนภาษี ที่มีการสำแดงราคาสินค้าเกินความจริง แต่เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปด้วยความโปร่งใสมากที่สุด ได้สั่งการให้กรมศุลกากร ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานในส่วนของตัวเองให้ชัดเจนอีกครั้งด้วย" รมช.กระทรวงการคลังระบุ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า คดีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบทำให้การคำนวณตัวเลขการส่งออกของประเทศ ในช่วง ปี 2555-2556 บิดเบือนไปจากความเป็นจริง ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศภาพรวม ที่ออกมาไม่ถูกต้องนั้น
รมช.กระทรวงการคลัง ระบุว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณตัวเลขรายได้ของกระทรวงการคลัง รับข้อสังเกตนี้ไปพิจารณาแล้ว ว่า ตัวเลขการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบการคำนวณตัวเลขทางเศรษฐกิขของประเทศในภาพรวมอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้