- Home
- Investigative
- การทำผิดของเอกชน
- ข้อมูลใหม่!“สาวสูงวัย”ผู้รับมอบอำนาจบริษัท“สุรพล-สุวัฒน์”
ข้อมูลใหม่!“สาวสูงวัย”ผู้รับมอบอำนาจบริษัท“สุรพล-สุวัฒน์”
พบข้อมูลใหม่“สาวสูงวัย”เจ้าของบริษัทส่งออก 4 แห่งที่แท้เป็นคนรับมอบอำนาจจาก“สุรพล”ผู้สอบบัญชีเครือ“วีรยุทธ”ในบริษัทดีร้อยฯ เจ้าตัวบอกไม่เกี่ยวข้องเครือข่ายคืนภาษี
น.ส.ภัทรภร (ขอปิดนามสกุล) ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บี.เอส.จิตดี จำกัด และเป็นเจ้าของธุรกิจการ 4 แห่งตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้ ล่าสุดพบข้อมูลดังนี้
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนบริษัท ดีร้อย แวลูเออร์ จำกัด พบว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 นางสาวภัทรภร อยู่บ้าน (ขอปิดเลขที่บ้าน) ใน ซอยคู้บอน 27 แยก 42 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เป็นผู้รับมอบอำนาจจากนายสุรพล เมฆะอำนวยชัย กรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท ดีร้อย แวลูเออร์ จำกัด ให้เป็นผู้มายื่นขอจดทะเบียน แก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการออกจากตำแหน่งและกรรมการเข้าใหม่ ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร (เปลี่ยนกรรมการ จากนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ลาออกจากตำแหน่ง เป็น นางสาวนพรดี จารุมณีโรจน์ เข้าเป็นกรรมการแทน)
ในการมอบอำนาจดังกล่าว นายสุรพลได้ทำเป็นหนังสือมอบอำนาจ ระบุเขียนที่บ้านเลขที่ 742/6 หมู่ที่ 1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ มีนายนที สายเสนีย์ ลงลายมือชื่อ พยาน
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า น.ส.ภัทรภร ปัจจุบันอายุ 42 ปี ปรากฏชื่อลงลายมือชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท บี.เอส.จิตดี จำกัด ร่วมบุคคลชื่อนายพงศ์ปณต บัญชาจารุภรณ์ และ เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.เรียม กลิ่นขำ กรรมการบริษัท บี.เอส.จิตดี จำกัด ให้เป็นผู้มายื่นขอจดทะเบียนบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัทต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555
และยังพบด้วยว่า ปัจจุบัน น.ส.ภัทรภร เป็นเจ้าของธุรกิจ 4 แห่ง ประกอบธุรกิจส่งออก นายหน้า รับจ้างประชาสัมพันธ์ จดทะเบียนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ส่วน 3 แห่งหลังจดทะเบียนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556
อย่างไรก็ตาม น.ส.ภัทรภร ได้ปฏิเสธกับสำนักข่าวอิศรา ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับขนวนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
อ่านประกอบ:
เปิดบ้าน“สาวใหญ่”โยงเครือข่าย“คืนภาษี”-เพิ่งตั้งบริษัทใหม่ 4 แห่งรวด
ประมวลภาพ“ที่ตั้ง”บริษัทเครือข่ายคืนภาษี 4.2 พันล้าน “ห้องร้าง”อื้อ