- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- ชง รมว.มหาดไทย สั่งระงับโครงการปรับปรุงห้องเรียน เออีซี -ยอดหัวคิวพุ่ง 45%
ชง รมว.มหาดไทย สั่งระงับโครงการปรับปรุงห้องเรียน เออีซี -ยอดหัวคิวพุ่ง 45%
สตง.ร่อนหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ชงสั่งระงับเบิกจ่ายเงิน โครงการปรับปรุงห้องเรียน เออีซี หลังพบข้อมูลทุจริต ยอดหัวคิวพุ่ง 45% แบ่งจ่ายล่วงหน้า 30% ผู้ประสานงานรับ 5-15% กำหนดตัวคนขายเรียบร้อย
โครงการปรับปรุงห้องเรียนให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน ก้าวสู่โรงเรียนมาตรฐานสากล พัฒนานักเรียนสู่ประชาคม ASEAN 2015 (WORLD-CLASS STANDARD SCHOOL & ASEAN CENTER SCHOOL 2015) ไม่ว่าจะเป็นโครงการ ปรับปรุง ห้องเรียน ASEAN SCHOOL Online และโครงการห้อง E-Classroom หรือโครงการห้อง E-Library และห้องเรียนที่มีชื่ออย่างอื่น ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำลังถูกตรวจพบว่า มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นครั้งมโหฬาร
เนื่องจากได้รับข้อมูลว่า ในการดำเนินการจัดหาพัสดุอุปกรณ์ตามโครงการดังกล่าว มีการตั้งราคาค่าวัสดุ ค่าครุภัณฑ์ที่มีจำนวนเงินสูงเกินกว่าราคาในท้องตลาดค่อนข้างมาก และยังมีการจัดสรรงบประมาณค่าครุภัณฑ์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องฉายภาพ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ กล่องวงจรปิด ชุดครุภัณฑ์ของโรงเรียนที่มีอยู่แล้ว จึงอาจเป็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณในลักษณะฟุ่มเฟือยและก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
สตง.ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีการหักค่าใช้จ่ายไว้เป็นการล่วงหน้าในอัตราร้อยละ 30 ของวงเงินแต่ละโครงการ และจ่ายให้ผู้ประสานงานอีกร้อยละ 5-15 รวมทั้งได้มีการกำหนดตัวผู้ประกอบการ (ผู้ขาย) ไว้เพื่อการนี้แล้ว ซึ่งหากเป็นจริงตามข้อมูลที่ สตง.ได้รับอาจเป็นการหลีกเลี่ยงการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ นอกจากการแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ระงับการดำเนินการรวมไปถึงการเบิกจ่ายเงินในโครงการปรับปรุงห้องเรียนเหล่านี้แล้ว
"ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบรายละเอียดโครงการอย่างเคร่งครัด แยกในส่วนครุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นออกจากการจัดซื้อโปรแกรมสื่อการเรียนการสอน ซึ่งควรเปรียบเทียบราคากับโครงการ E-Learning เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 80 โรงเรียนทั่วไทยของมูลนิธิ 5 ธันวาคมมหาราช ซึ่งมีราคาเพียงชุดละ 35,000 บาท พร้อมขอให้แจ้งผลการดำเนินการทั้งหมดให้ สตง.รับทราบภายใน 60 วันด้วย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สตง. ได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลการดำเนินการโครงการปรับปรุงห้องเรียนดังกล่าวด้วยเช่นกัน พร้อมแจ้งเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เข้ามาตรวจสอบข้อมูลด้วย