- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- บ.ระยอง รับงานลอกคลอง นนทบุรี 29 ล. "หนี้เพียบ"-สรรพากร ไล่บี้ภาษี
บ.ระยอง รับงานลอกคลอง นนทบุรี 29 ล. "หนี้เพียบ"-สรรพากร ไล่บี้ภาษี
แกะละเอียด บ.ระยอง พบมีปัญหาสถานะการเงินอย่างหนัก “หนี้เพียบ” ก่อนโผล่รับงานขุดลอกคลอง จ.นนทบุรี 29 ล้าน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อดีตพนักงานระบุตั้งขึ้นมาเพื่อรับงานแทนบริษัทแม่ หลังถูกเจ้าหนี้หลายรายฟ้องร้อง - สรรพากร ไล่บี้เก็บภาษี
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บริษัท เอสพีจีเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เข้ามารับงานว่าจ้างขุดลอกคูคลอง ในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 4 สัญญา วงเงิน 29,572,000 บาท ซึ่งใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ โครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) พื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัย ตามนโยบายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท มาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการนำส่งงบดุลแสดงสถานะทางการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบแต่อย่างใด
ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องสถานะทางการเงิน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงเรื่องความสามารถในการดำเนินงานโครงการขุดลอกคูคลอง ว่า ทำได้จริงหรือไม่
(อ่านประกอบ : บ.ระยอง “โผล่” รับงานขุดลอกคลอง จ.นนทบุรี 29 ล. – ส่อพิรุธซ้ำรอย หจก.“ร้าง" http://www.isranews.org/ข่าว/item/21097-บ-ระยอง-“โผล่”-รับงานขุดลอกคลอง-จ-นนทบุรี-29-ล-–-ส่อพิรุธซ้ำรอย-หจก-“ร้าง”.html)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสพีจีเอส (ไทยแลนด์) จำกัด พบว่าจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 ทุน 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 36/9 ถนนเสม็ดแดง ตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง แจ้งประเภทธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
ปรากฏชื่อ นายพันธ์ศักดิ์ แสงประเสริฐ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ต่อมาวันที่ 26 พฤษภาคม 2553 บริษัทฯ แจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการ โดยนายพันธ์ศักดิ์ แจ้งลาออก ปรากฏชื่อ นายพารค ซา เกียง สัญชาติเกาหลีใต้ เข้าเป็นกรรมการแทน
ต่อมาวันที่ 12 กรกฎาคม 2553 บริษัทฯ แจ้งเปลี่ยนตัวกรรมการอีกครั้ง นายพารค ซา เกียง แจ้งลาออกนายภควัต ศรีวิสุทธิธรรม เข้าเป็นกรรมการแทน
สำหรับโครงการผู้ถือหุ้น มีการเปลี่ยนแปลง 3 ครั้ง คือ ในช่วงก่อตั้งบริษัท มีผู้ถือหุ้น 3 ราย คือ นายพันธ์ศักดิ์ แสงประเสริฐ ถือหุ้นใหญ่สุดจำนวน 6,800 หุ้น นางสาวจันทร์เพ็ญ ชัยปัญญา และนางพยุงศักดิ์ ชัยศิริประเสริฐ ถืออยู่คนละ 6,600 หุ้น
ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 มีผู้ถือหุ้น 4 ราย คือ บริษัท ซองโป จำกัด จากเกาหลีใต้ ถือหุ้นใหญ่ 9,600 หุ้น บริษัทจีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ถือรองลงมา 9,200 หุ้น บริษัท ท็อปแลนด์ เอ็นจิเนียริ่งจำกัด ถืออยู่ 1,000 หุ้น และนายพารค ซา เกียง ถืออยู่ 200 หุ้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2553 นายภควัต ศรีวิสุทธิธรรม ถือหุ้นใหญ่ 10,000 หุ้น นายพารค เจเกียง ถืออยู่ 9,800 หุ้น และนายพันธ์ศักดิ์ แสงประเสริฐ ถืออยู่ 200 หุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 หลังจากที่บริษัทได้แจ้งเปลี่ยนตัวกรรมการและปรับโครงการผู้ถือหุ้นใหม่ บริษัทฯ ไม่ได้แจ้งข้อมูลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้รับทราบอีก รวมถึงงบดุลแสดงสถานะทางการเงินด้วย
อดีตพนักงาน บริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การปรากฏรายชื่อบริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด เข้าเป็นผู้รับงานขุดลอกคูคลอง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 29 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทฯ แห่งนี้ ไม่ได้รับงานอะไรมานานแล้ว เนื่องจากบริษัทปัญหาทางการเงินอย่างหนัก โดยเฉพาะในส่วนของบริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ปัจจุบันมีคดีความถูกฟ้องร้องเรื่องหนี้สินหลายคดี
“ในช่วงที่บริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ถูกฟ้องร้องเรื่องหนี้สินอย่างหนัก ผู้บริหารของบริษัท ได้ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อออกหน้ารับงานแทน แต่ก็ไม่ค่อยได้งานอะไรมากนัก”
อดีตพนักงานรายนี้ กล่าวยืนยันว่า หลังจากบริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ประสบปัญหาเรื่องหนี้สินอย่างหนัก พนักงานบริษัทจำนวนมากได้ยื่นเรื่องขอลาออกจากบริษัท บางคนถึงขนาดยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทแห่งนี้อีกแล้ว
“ทราบว่าปัจจุบันสำนักงานเลขที่ 36/9 ถนนเสม็ดแดง ตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสถานที่ตั้งบริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ถูกบริษัทเอกชนอื่นเข้ามา ใช้ประโยชน์แทนตั้งแต่เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว และปัจจุบันก็ไม่มีใครรู้ว่า บริษัททั้งสองแห่งนี้ ย้ายไปอยู่ที่ไหนกันแน่ การปรากฏชื่อเป็นผู้รับงานว่าจ้างขุดลอกคลอง ที่จังหวัด นนทบุรี จึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ว่าบริษัทมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำงานได้จริงหรือ”
นายพันธ์ศักดิ์ แสงประเสริฐ อดีตกรรมการบริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า บริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อออกหน้ารับงานแทนบริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด หลังจากที่ประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมาก จริง แต่นับตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อปี 2553 ก็ไม่ค่อยได้รับงานมากนัก
“บริษัท จีเอสไอไทยแลนด์ จำกัด ถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องจำนวนมาก ส่วนผมก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องศาล เพื่อขอให้ออกคำสั่งว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทนี้ รวมถึงบริษัทลูกด้วย ดังนั้น เขาไปทำอะไรกัน ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม” นายพันธ์ศักดิ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยังบริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท จี เอส ไอ ไทยแลนด์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 7 มีนาคม 2549 มีทุน 40 ล้านบาท แจ้งที่ตั้งสำนักงานไว้ที่เดียวกับบริษัท เอส พี จี เอส (ไทยแลนด์) จำกัด คือ 36/9 ถนนเสม็ดแดง ตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ประกอบธุรกิจการจำหน่ายการบริการออกแบบและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ปรากฏชื่อ นายพารค ซา เกียง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าจากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า บริษัท เอสพีจีเอส (ไทยแลนด์) จำกัด อาจจะมีปัญหาเรื่องการจ่ายภาษีต่อกรมสรรพากรด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า สำนักงานสรรพากรพื้นที่ระยอง ได้ทำหนังสือแจ้งถึงสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดระยอง จำนวน 2 ฉบับ คือ หนังสือเลขที่ กค 0709.08/12869 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2555 และหนังสือเลขที่ กค 0709.08/4496 ลงวันที่ 23 เมษายน 2556 เพื่อขอคัดข้อมูลหนังสือรับรองการจดทะเบียนของ บริษัท เอสพีจีเอส (ไทยแลนด์) จำกัด และหลักฐานการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน
พร้อมระบุว่า “หากนิติบุคคลดังกล่าว ได้ขอจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดระยอง เมื่อใด หรือได้ขอจดทะเบียนเลิกแล้ว แต่อยู่ระหว่างการชำระบัญชีก็ขอทราบชื่อและที่อยู่ของผู้ชำระบัญชีหรือกรรมการหรือผู้มีอำนาจลงนามแนวนิติบุคคลนั้น ๆและขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีไว้ชั่วคราวก่อน หากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทเสร็จสิ้นแล้วเมื่อใด จะได้เรียนมาเพื่อทราบต่อไป”
(ดูเอกสารประกอบ)