- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- “ผู้พิพากษา” นิสิต ป.โท ม.บูรพา ออกโรง จี้มหาวิทยาลัย เปิดผลสอบดูงาน “ลม” เชียงใหม่
“ผู้พิพากษา” นิสิต ป.โท ม.บูรพา ออกโรง จี้มหาวิทยาลัย เปิดผลสอบดูงาน “ลม” เชียงใหม่
“ผู้พิพากษา” หนึ่งในนิสิต ป.โท คณะนิติฯ ม.บูรพา ออกโรงจี้ มหาวิทยาลัย เปิดเผยความคืบหน้าผลสอบโครงการดูงาน “ลม” จ.เชียงใหม่ ระบุโดนเองกับตัวถูกปลอมลายมือชื่อทั้งที่ไม่ได้ไป คกก.สอบข้อเท็จจริงเชิญไปให้ปากคำตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ใครทำ-ทำไปทำไม? ลูกศิษย์ติดปัญหาค้างจบเพียบ!!
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ผู้พิพากษารายหนึ่ง ซึ่งเป็นนิสิตปริญญาโท หลักสูตรนิติศาตรมหาบัณฑิต รุ่น 2 คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isrsanews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ทำหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ผ่านคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการศึกษาดูงานของหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต และผลการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากต้องการทราบความชัดเจนว่า ปัจจุบันเรื่องไปอยู่ในขั้นตอนไหน และผลสรุปออกเป็นอย่างไร
ผู้พิพากษารายนี้ ระบุว่า เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในฐานะนิสิตคนหนึ่ง ที่ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อ เพื่อนำไปใช้ในการตั้งเรื่องเบิกเงินงบประมาณโครงการศึกษาดูงานด้านกฎหมายนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และถูกเชิญตัวจากคณะกรรมการสอบสวนไปให้ปากคำเรื่องนี้ด้วย และก็ทราบในเวลาต่อมาว่า มีอีกหลายโครงการ ที่ส่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นเช่นกัน
“ หลังจากให้ปากคำเสร็จแล้ว ก็ไม่เคยได้รับทราบข้อมูลอะไรอีก โดยเฉพาะผลการตรวจสอบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งที่ ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงในฐานะผู้เสียหาย ล่าสุดได้ยินมาว่า เรื่องนี้มีการสอบสวนเสร็จแล้ว แต่จู่ๆ เรื่องก็หายไปเลย”
ผู้พิพากษา รายนี้ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่มหาวิทยาลัยควรมีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้นิสิตได้รับทราบ เพราะระยะมันผ่านมานานพอสมควรแล้ว และผลจากการที่เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ก็ส่งผลทำให้นิสิตหลายคนได้รับผลกระทบในเรื่องการเรียนตามไปด้วย
“ขณะนี้มีนิสิตหลายคน ที่อยู่ระหว่างการสอบ เพื่อเปิดเล่มทำวิทยานิพนธ์ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดปัญหาระบบของคณะที่มีปัญหาตามมาหลังจากที่เรื่องการปลอมแปลงลายมือ และเอกสารการไปดูงานที่จังหวดเชียงใหม่ แดงออกมา และมีการตั้งกรรมการสอบสวนอาจารย์และเจ้าหน้าที่ภายในคณะเกิดขึ้น บางวิชาเกรดยังไม่ออก ทั้งที่ อาจารย์เจ้าของวิชาส่งเกรดไปแล้ว ยังทำเรื่องจบไม่ได้”
ผู้พิพากษารายนี้ ยังระบุด้วยว่า ในช่วงที่เกิดเหตุใหม่ๆ เคยมีคนแนะนำให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ตนเห็นว่าในเมื่อมหาวิทยาลัยมีระบบการตรวจสอบภายในอยู่แล้ว ก็ควรที่จะใช้ระบบนี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อน แต่เหตุการณ์ปัจจุบันก็ชี้ให้เห็นชัดเจนว่ากระบวนการตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยมีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะต้องไปหาทางแก้ไขโดยด่วน
ผู้พิพากษา ยังย้ำว่า ต้องการให้เรื่องนี้ยุติลงโดยเร็ว อาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง จะผิดหรือไม่ผิด มหาวิทยาลัยก็ควรจะมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา เพราะถ้ามีผลออกมาชัดเจน มันจะมีคำตอบชัดเจนในตัวของมันเองว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร และจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรชัดเจนออกมาเลย เรื่องมันก็เลยไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ ความขัดแย้งในมหาวิทยาลัยก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
“สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน และเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวเอง คือ ถูกปลอมลายมือ เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการตั้งเบิกเงินงบประมาณ แต่คำตอบที่ยังไม่ได้รับขณะนี้ คือ ใครเป็นคนปลอม และทำเรื่องนี้ทำไม"
"โดยส่วนตัวมองว่า ถ้าข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การกระทำของอาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน แต่เป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยรับทราบด้วย เพราะเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะนำเงินออกมาใช้บริหารงานของมหาวิทยาลัย นิสิตหลายคนก็จะได้เข้าใจ แต่ตอนนี้ มันไม่มีอะไรชัดเจนออกมาเลย มันก็เลยเป็นปัญหาอยู่แบบนี้” ผู้พิพากษารายนี้ระบุ