ชุดนักศึกษา: ความหมายทางสัญลักษณ์ในเสื้อผ้า!
ชุดนักศึกษา: ความหมายทางสัญลักษณ์ในเสื้อผ้า! : ธาม เชื้อสถาปนศิริ
ในฐานะศิษย์เก่าคนหนึ่ง - เห็นด้วยว่า คุณจะใส่ชุดอะไรมาเรียนก็ตามใจเถิด
แต่การแต่งกาย คือ การ "ให้เกียรติตนเอง และให้เกียรติผู้อื่น"
เครื่องแต่งกาย คือ "อวัจภาษา" อย่างหนึ่งในการสื่อสารกับสังคม
คุณอยากใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม มานั่งเรียนไหม?
ถ้าคุณฉลาดพอที่จะเรียนหนังสือได้ คุณก็ควรจะรู้ว่า เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ มันมี "ความหมายสัญญะของมันเอง!"
การสวมเสื้อผ้า คือ การสวมใส่ความหมายสัญลักษณ์ ทางสังคม ถ้าคุณจะแต่งตัวเซ็กซี่ โป๊เปลือย มาเรียน มันไม่มีปัญหาหรอก เพราะเสื้อผ้าเหล่านั้น จะกำหนดความหมายให้ตัวคุณเอง ผู้คนก็จะมองมาที่คุณในอีกความหมายหนึ่ง
ในทางเดียวกัน ถ้าคุณใส่ชุดนักศึกษา ที่ไม่เรียบร้อย กระโปรงสั้น รัดติ้ว รัดนม รัดเป้า หรือผู้ชายสวมใส่เสมือนเป็นแฟชั่น ขาเดฟ ลอยชาย
- มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะ "เสื้อผ้ามีความหมายเชิงสัญลักษณ์"
และมันก็มีความหมายเชิงดูหมิ่น ดูแคลนจากคนรอบข้าง ว่าคุณเป็นปัญญาชน เรียนหนังสือ แต่ไม่ยอมใช้สมองแต่งตัวให้ดีเพราะนับถือตนเอง
เสื้อผ้ามันมีความหมายขึ้นมาได่ ไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่เพราะคนที่สวมใส่เสื้อผ้านั้น สร้างพฤติกรรมเชิงสัญลักษณ์รองรับกับความหมายของเสื้อผ้านั้นด้วย
คนดูเรียบร้อย เพราะพฤติกรรมเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ทำให้คนเรียบร้อย และ คนก็ทำให้เสื้อผ้าเรียบร้อยด้วย
เสื้อผ้า จึงมีความหมายมากกว่าตัวมันเอง และผู้กำหนดความหมายทางสังคม คือ เราทุกคนที่เป็นสมาชิกสังคมหนึ่งๆ ร่วมกัน
(วิชาสังคมศาสตร์ ไม่แน่ใจว่าเรียนกันบ้างไหม?)
ในเมื่อเสื้อผ้าเป็นสัญญะ (sign) ดังนั้นมันจึงมีความหมายเชิงสัญญะด้วย (signified) ซึ่งความหมายสัญญะนี้ สังคมเป็นผู้กำหนดความหมายร่วมกัน (แน่นอน คุณก็ด้วย เขาก็ด้วย เราก็ด้วยทุกๆ คน)
และความหมายเชิงสัญลักษณ์นี้ "ผู้ใส่ และ ผู้ชม มีสิทธิตีความหายได้แตกต่างกัน"
ทีนี้, ในทางการสื่อสาร มันก็ขึ้นอยู่กับว่า "คุณจะให้สังคม ผู้คน มองและตีความหมายมาที่คุณอย่างไร"
ความหมายของเสื้อผ้า คือ ความหมายทางสังคม คุณไม่ได้สวมเสื้อผ้าเพื่อปกปิดร่างกายเพียงเท่านั้น แต่คุณใส่เสื้อผ้า เพราะคุณต้องการเข้าสังคม เข้ารหัส จารีต ประเพณีทางสังคม หรือเพื่อแสดงความหมายทางสังคม
ก็ไม่งั้นคุณจะมี "แฟชั่นไปทำไม"
แฟชั่นก็คือ รหัสทางสังคมแบบหนึ่งเช่นกัน คุณเลือกสรรซื้อสวมใส่เสื้อผ้าแตกต่างกัน เพราะเสื้อผ้าแต่ละุชุด แต่ละแบบ แต่ละสีนั้น มีความหมาย มีรหัสที่แตกต่างกันในตัวของมันเอง เวลาคุณไปเที่ยว คุณก็แต่งชุดไปรเวท มันก็ถูกต้องแล้ว เวลาคุณไปทำงาน คุณก็แต่งชุดสุภาพ อาจมีสูท หรือแบบฟอร์มของมันเพราะคุณต้องเจอคนอื่นๆ
ลองคิดดูว่าถ้าคุณมีลูกๆ คุณก็คงอยากให้ลูกๆ เด็กๆ แต่งตัวดี สุภาพเรียบร้อยใช่ไหม เสื้อผ้า ทำหน้าที่บอก "กาละเทศะ" ของมัน ความหมายของมันที่แสดงออก คือ "พื้นที่ เวลา" รวมกันแล้ว คือ "หน้าที่และการแสดงออกของผู้สวมใส่" ที่ต้องกลายเป็น "ร่างทรง" ของเสื้อผ้านั้น
โสเภณี และ อันธพาล กระทั่ง พระสงฆ์ องค์กษัตริย์ ยังมีเครื่องแบบประจำอาชีพ? แล้วกะชุดนักศึกษา มันถึงเรียกว่าเป็นเครืองแบบ!
สมัยผมเรียนธรรมศาสตร์ ผมก็แทบไม่ใส่ชุดนักศึกษาเลย ใส่เฉพาะตอนสอบเท่านั้น แต่ผมแต่งตัวสุภาพพอที่จะเข้าเรียนและทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยให้เกียรติและเข้าใจรหัสทางสังคมในการอยู่ร่วมกัน
ผมก็ไม่ได้ยอมรับ หรือต่อต้านอะไร ด้วยเข้าใจกฎเกณฑ์ กติกา ในการเป็นสัตว์สังคมอยู่ร่วมกัน
ถ้าไม่ใช่สัตว์สังคม ก็ไปอยู่ในป่าดีไหม? อ้อ คนป่า ยังมีวัฒนธรรมและชุดประจำชนเผ่า และสัญลักษณ์ของเสื้อผ้า ก็แสดงสถานะ ชนชั้นทางสังคมเลยนะ
ป่วยคนคิด - เอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่าไหม นับวัน มันจะยิ่งบ้าไปกันใหญ่แล้ว ไอ้ลัทธิคลั่งสิทธิและเสรีภาพสุดวายป่วงนี่!
ผมก็ไม่เห็นด้วยนะ ถ้าจะให้เหตุผลของการใส่ชุดนักศึกษาเพราะมันเป็นกฎระเบียบ มันก็เชยและเก่าเกินไปในเหตุผลนี้
แต่ของพวกนี้้ "คุณควรคิดเองได้ใช่ไหม?" ทีนี้พออาจารย์มาสอนคุณ มาออกกฎระเบียบคุณ (ซึ่งมันคือการบังคับ คุณก็คัดค้าน) คุณไม่ชอบให้ใครมาบังคับ - นั่นสะท้อนว่า คุณขบถ คุณเทห่์ คุณนอกกรอบ
คิดนอกกรอบนะมันเท่ห์ - แต่กรุณาใช้สมองใคร่ครวญไตร่ตรองให้มันลึกๆ ด้วยครับ
เพราะเหตุผลเชิงสัญลักษณ์ ควาหมายสัญญะวิทยา มันก็ยังต้องคงใช้อยู่ เพราะคนเป็นสัตว์สื่อสาร สัตว์ที่ใ้ช้ภาษาในการสื่อความหมาย -- ขนาดลัตว์ สิงโต ลิง มันยังรู้ลำดับชั้นศักดิ์ ความเป็นใหญ่ เป็นรอง ในฝูงมันเลย ด้วยแผงขน หรือสีขนเข้มอ่อน
นับประสาสัตว์อะไรกับสัตว์เดรัจฉานที่มันยังใช้สีขนในการเข้ารหัสทางกลุ่มและฝูง! กระทั่ง "ล่อเหยื่อ ล่อตัวผู้ตัวเมีย"
หรือคุณคิดว่าแต่งชุดนักศึกษา "มายั่วตัวผู้ตัวเมีย" กัน เลยออกมาในทางเซ็กซี่และทำพฤติกรรม "ตรงข้ามกับความหมายที่ชุดนักศึกษาตีกรอบ?"
นี่คุณเป็นมนุษย์ มีระดับมันสมองและสติปัญญาฉลาดกว่าสัตว์มากมาย แต่ไฉนไม่เข้าใจรหัสทางสังคมของส่วนรวม
งงเป็นบ้า!
.....
ผมเริ่มไม่เข้าใจ และเบื่อเล็กน้อย เวลาที่เจอเหตุการณ์แบบนี้
"ดีแต่ขบถ ดีแต่ค้าน ดีแต่นอกกรอบ!"
เค้าถึงบอกว่า พวกเด็กรุ่นใหม่ คิดแต่เรื่องปรุงแต่งอัตลักษณ์ตนเอง หลงตนเอง ทำอะไรตามใจตนเอง และคิดมากๆ เรื่องสิทธิ เสรีภาพนิยม จนลืมปัญหาบ้านเมือง ความรับผิดรับชอบ
ชอบเอาแต่ชอบ ไม่ชอบเอาผิดเลย!
ให้คุณรู้ว่า การเรียนในมหาวิทยาลัย คุณกำลังเรียนวิชาทางสังคม เรียนวิชาสื่อความหมายสัญญลักษณ์ทางสังคม ด้วยกรอบคิดใดกรอบคิดหนึ่ง
อย่าไปใส่ใจมันมากเลย เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม คุณมาเรียนไม่ใช่เหรอ ที่คุณต้องสนใจ คือ "ความรู้ ความคิด ปัญญาและสังคม" และการแต่งกาย ก็เป็นวิชาหนึ่งที่คุณจะเรียนรู้ โดยที่คุณไม่ต้องลงวิชาเรียน!
คุณกำลังถูกฝึกสอนให้เป็นผู้มีความคิด พฤติกรรม เป็นมนุษย์ผู้สามารถเข้ารหัสและสื่อรหัสทางสังคมอยู่นะครับ
เด็กไทยรุ่นใหม่ อะไรกันนักหนา!
ใช่ ธรรมศาสตร์ใช่ มีสิทธิและเสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่คุณคิดบ้างไหม ว่าเขาให้สิทธิเสรีภาพคุณ ในการคิดเพื่อคนอื่น! เพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่สิทธิเสรีภาพเพื่อตนเอง แบบนั้นเขาเรียกว่า คนเห็นแก่ตัวเอง เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน
สิทธิ เสรีภาพ ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง คือสิทธิเสรีภาพที่คุณคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวคุณเอง!
ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์..