- Home
- Isranews
- เวทีทัศน์
- เปิดหีบสมบัติ “ไร่ส้มสรยุทธ์” 5 ปี กำไร 559ล้าน ป.ป.ช.แจ้งข้อหา เงินโฆษณา อสมท.
เปิดหีบสมบัติ “ไร่ส้มสรยุทธ์” 5 ปี กำไร 559ล้าน ป.ป.ช.แจ้งข้อหา เงินโฆษณา อสมท.
เปิดหีบสมบัติ”ไร่ส้ม-เสี่ยสรยุทธ์” 5ปีรายได้เกือบ1300ล้าน ฟันกำไร 559ล้าน สอบนาน4 ปี อนุ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาคดี“ไร่ส้ม-สรยุทธ์”เงินโฆษณา อสมท138ล้าน
หลังจากที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)ร้องทุกข์กล่าว โทษต่อ สน.ห้วยขวางเมื่อปลายปี 2550 ให้ดำเนินคดีพนักงาน อสมท. 2 คนในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและกรรมการบริษัทไร่สัม รวมทั้งนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธิกรชื่อดังในฐานะผู้สนับสนุน ทำให้ อสมท ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาทและ สน.ห้วยขวางได้ส่งสำนวนทั้งหมดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ(ป.ป.ช.)เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ปรากฏว่า แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 4 ปี แต่คดีมีความคืบหน้าช้ามาก ทั้งๆที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ที พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานไว้เป็น จำนวนมาก
ล่าสุดนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกและกรรมการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ว่า นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการไต่สวนคดีดังกล่าวได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า อนุกรรมการไต่สวนฯได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกกล่าวหลายคนแล้วทั้งในส่วนที่เป็นอดีตพนักงาน อสมท.และไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้น ผู้ที่ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรืออาจทำเป็นหนังสือชี้แจง จากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปความเห็นเพื่อเสนอต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่วินิจฉัยต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าว คณะกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีมติและคำสั่งลงวันที่ 21 ธันวาคม 2549 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ทีพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตหรือ การบริหารงานบกพร่องกรณีรายการ’คุยคุ้ยข่าว’รวมทั้งธุรกิจอื่น ตลอดจนการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท อสมท
จากการสอบสวนของคณะกรรมการมีมติให้กล่าวหาพนักงาน บริษัท อสมท และบุคคลภายนอกทั้งทางวินัย อาญาและทางแพ่งกับบุคคลทั้ง 12 รายแตกต่างกันไปได้ แก่
1.นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายบริการลูกค้า 2.น.ส.อัญญา อู่ไทย หัวหน้าส่วนธุรการระดับ 6 ฝ่ายบริการลูกค้า
3.นายประทีป ศรีมณฑล พนักงานธุรกิจระดับ 7 งานคิวโฆษณา
4.นายธนะชัย วงศ์ทองศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายธุรกิจ และเลขานุการบริษัท
5.นางเบจมาศ นนท์วงศ์ พนักงานธุรกิจระดับ 5
6.นายวัลลพ ม่วงกล่ำ พนักงานตัดต่อระดับ 5
7.น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด 1
8.บริษัทไร่ส้ม จำกัด รวมทั้งกรรมการบริษัท คือ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา,น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม และน.ส.มณฑา ธีรเดช
อย่างไรก็ตามเมื่อฝ่ายบริหารพิจารณาสำนวนของคณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่า ให้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่พนักงานของบริษัท อสมท.จำนวน 2 คน โดยกล่าวหาว่าทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 คือ 1.นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาดซึ่ง เป็นผู้แลเวลาโฆษณาของบริษัทไร่ส้ม ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ในการปลอมแปลงเอกสารและทำลายเอกสาร รวมทั้งรับสินบนจากบริษัทไร่ส้ม และ 2.นางเบจมาศ นนท์วงศ์ ซึ่งเป็นผู้ส่งโฆษณาให้แก่นางนางพิชชาภาและบริษัทไร่ส้มและกรรมการบริษัทไร่ส้ม ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
ส่วนพนักงาน อสมท. ที่เหลือ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป ยกเว้นพนักงานบางคนที่ลาออกไปแล้ว เช่น น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน และบางคนถูกไล่ออก เช่น นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด
สำหรับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐฯเป็นโทษที่หนักมาก มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี 5-20 ปีหรือตลอดชีวิต แล้วแต่เป็นความผิดในฐานไหนหรือประหารชีวิตในกรณีเรียกรับสินบน นอกจากนั้นยังเป็นความผิดอาญาแผ่นดินซึ่งไม่สามารถยอมความได้ แม้จะมีการคืนเงินค่าโฆษณาที่บริษัทไร่ส้มได้รับเกินไปกว่าสัญญาหรือรับไป โดยมิชอบแล้วก็ตาม
สำหรับบริษัท บริษัทไร่ส้มขณะที่ถูกกล่าวนั้น มี นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธิกรชื่อดังและ น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัท
กรรมการประกอบด้วย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม
จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ประกอบธุรกิจ ผลิตและสร้างสรรค์งานภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ในทุก ๆ รูปแบบ
ส่วนรายได้ของบริษัทไร่ส้มนั่น จากการตรวจสอบงบการเงินในปี 2548 และ ปี 2549 พบว่า มีรายได้ 251,801,969 บาทและ 323,062,245บาทและ มีกำไร132,702,177 บาทและ 86,023,228 บาท ตามลำดับ
ขณะที่มีข่าวว่า อนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในคดี ที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)ร้อง ทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีพนักงาน อสมท. 2 คนในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และบริษัท ไร่ส้ม จำกัดที่มีนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธิกรชื่อดังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในฐานะผู้สนับสนุน ทำให้ อสมท ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาทได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกกล่าวหลายคนแล้วทั้งในส่วนที่เป็นอดีตพนักงาน อสมท.และไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐนั้น
จาการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทไร่ส้มจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ขณะที่ถูกกล่าวนั้น มี นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา และ น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัท กรรมการประกอบด้วย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม
จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ประกอบธุรกิจ ผลิตและสร้างสรรค์งานภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ในทุกๆ รูปแบบ
สำหรับรายรายได้ของบริษัทในช่วง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2548 -2552 พบว่า
ปี 2548 มีรายได้ 251,801,969 บาท มีกำไร 132,702,177 บาท
ปี 2549 มีรายได้ 323,062,245 บาท มีกำไร 86,023,228 บาท
ปี 2550 มีรายได้ 207,885,412 บาท กำไร 99,353,033 บาท ,
ปี 2551 มีรายได้ 242,734,870 บาท กำไร 118,064,507 บาท
และปี 2552 มีรายได้ 253,100,843 บาท กำไร 123,119,081 บาท
รวมรายได้ทั้ง5 ปี ประมาณ 1,278.5 ล้านบาท มีกำไร รวมประมาณ 559.1 ล้านบาทหรือกว่า 43.7 % ซึ่งถือว่าสูงมาก
ปัจจุบันบริษัทไร่ส้มเป็นผู้ผลิตรายการทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ได้แก่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ร่วมผลิตกับบริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน)ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก
รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ร่วมผลิตกับบริษัท เสิร์ช เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด และรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งยังเป็นผู้ขายเวลา วางสื่อโฆษณาและจ้างประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่วนคดีที่อนุกรรมการ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น สืบเนื่องจากบริษัทไร่ส้ม จำกัด ทำสัญญาแบ่งผลประโยชน์โฆษณากับ อสมท ในยุคที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งจากผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพกล่าวหาว่า บริษัทไร่ส้มได้หาโฆษณาเกินจากขอบเขตที่กำหนดไว้ในสัญญาปี 2547, 2548 และมกราคม-มิถุนายน 2549 แต่มิได้นำผลประโยชน์แบ่งให้แก่ อสมท ตามที่ควรจะเป็นโดยเฉพาะในช่วงปี 2549 มีโฆษณาเกินมามากถึง 150 กว่าครั้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 98,790,000 บาท และเมื่อรวม ปีแรกเป็นมูลค่าถึง 138,790,000 บาท โดยบริษัทไร่ส้มได้จ่ายเงินให้แก่ บมจ.อสมท เพียง 770,000 บาทเท่านั้น