วิชิต สุพงษ์ชัย : เหรียญสองด้านของ "ทรงกลด" กับความอึดอัดของไทยพาณิชย์

"..บางครั้งมีการถอนเงินที่ลายเซ็นต์อาจไม่ครบถ้วนได้ แต่เราเชื่อใจกัน กับลูกค้าที่เราคิดว่ามีความตรงไปตรงมา ผมยอมรับครับ ว่าไม่ได้มีแค่ไทยพาณิชย์นะครับ เรื่องของการที่เรียกว่าใช้ ‘เฟลเวอร์ส’ ( Flavors )ให้ลูกค้า เกิดขึ้นในบางครั้ง บางที คนเซ็นต์ไม่อยู่ ไปต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด ต้องการใช้เงิน ก็อาทิตย์หน้าค่อยมาเซ็นต์ให้ครบ ตรงนี้ก็ต้องเป็นชื่อของลูกค้าที่เครดิตดีมาก.."

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมต่อจุดยืนและการทำงานของธนาคารไทยพาณิชย์ในคดีการยักยอกเงินฝากของสถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จำนวน 1,600 ล้านบาท ส่งผลให้เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 58 นายวิชิต สุพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ต้องออกมาแถลงข่าวด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายวิชิต ยืนยันจุดยืนว่า ธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคดีนี้ โดยเฉพาะขั้นตอนการส่งมอบเอกสารและหลักฐานต่างๆ ไม่เคยมีนโยบายปกปิด หรือปกป้องคนทุจริต และตอนนี้ สจล. ก็ยังเป็นลูกค้าของธนาคาร เพราะธนาคารไม่ได้ปิดบัญชี สจล.

ส่วนกรณีที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมตอนนั้นธนาคารไทยพาณิชย์ ไม่ดำเนินการเฉียบขาดกว่านั้นกับนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ ขอชี้แจงว่าไม่เคยปกป้องคนทุจริต แต่กรณีที่เกิดกับนายทรงกลด คือปฏิบัติไม่ตรงตามระเบียบ

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ในช่วงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยิงประเด็นคำถามและข้อสังเกตหลายประการ อาทิ การถอนเงินแล้วให้ลูกค้าทำบัญชีย้อนหลัง เป็นเรื่องปกติของธนาคารไทยพาณิชย์หรือไม่, นายทรงกลดถูกให้ออกด้วยสาเหตุใด, ใครคือผู้บังคับบัญชาของนายทรงกลดที่เดินทางไปยืนยันยอดเงินกับผู้บริหาร สจล. และวงเงินที่นายทรงกลดมีการเบิกถอนไปนั้น เป็นวงเงินเท่าไหร่กันแน่

ถ้อยคำจากนี้ไป คือ คำตอบจากนายวิชิต ซีอีโอของธนาคารไทยพาณิชย์ สถาบันการเงินที่ถูกสังคมจับจ้องมากที่สุดในเวลานี้!

@ การถอนเงินและให้ลูกค้าทำรายการย้อนหลัง เป็นเรื่องปกติของธนาคารไทยพาณิชย์หรือไม่ ?

วิชิต : คือคำว่าปกติไหม ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ถามว่าเคยเกิดขึ้นไหม เคยเกิดขึ้น คือเราไม่ได้ทำเป็นกิจลักษณะนะครับ มีครับ บางครั้งมีการถอนเงินที่ลายเซ็นต์อาจไม่ครบถ้วนได้ แต่เราเชื่อใจกันกับลูกค้าที่เราคิดว่ามีความตรงไปตรงมา

ผมยอมรับครับ ว่าไม่ได้มีแค่ไทยพาณิชย์นะครับ เรื่องของการที่เรียกว่าใช้ ‘เฟลเวอร์ส’ ( Flavors ) ให้ลูกค้า เกิดขึ้นในบางครั้ง บางที คนเซ็นต์ไม่อยู่ ไปต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด ต้องการใช้เงิน ก็อาทิตย์หน้าค่อยมาเซ็นต์ให้ครบ ตรงนี้ก็ต้องเป็นชื่อของลูกค้าที่เครดิตดีมาก  

คือกรณีที่เกิดขึ้นนี้ คือ สจล. นี่ เป็นสถาบันที่ โอ้โห พระจอมเกล้า, ลาดกระบัง คือไม่มีใครตั้งข้อสังเกต คือเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ทุกคนรู้จักดี คือคำถามที่ถามมา มันเคยเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่วิธีปฏิบัติทั่วไป เป็นบางครั้ง

@ กรณี ที่นายทรงกลดต้องถูกให้ลาออก การออกของนายทรงกลดเกี่ยวกับการปล่อยให้ถอนเงินและทำรายการย้อนหลัง หรือไม่ ?

วิชิต : ใช่ แล้วกรณีนี้เมื่อมันเกิดขึ้น แบงค์เอง ไม่ใช่คุณทรงกลดคนเดียวนะครับ คณะผู้บริหารอื่นๆ  ก็ไปหาทาง สจล. เขาก็เซ็นต์ให้เรียบร้อย แถมมีหนังสือมาบอกด้วยว่า ‘ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีความเสียหายในกรณีใดๆ  กับสจล.’ เป็นการยืนยันมาจากลูกค้าด้วย ก็ยิ่งทำให้เราเองจะพูดยังไงออก เขาเองยังชื่นชมด้วยซ้ำว่าคุณทรงกลดบริการลูกค้าดีมาก เมื่อมารู้วันนี้ ก็คนละเรื่องเลย ถึงบอกว่า ในวันนั้นไม่มีเหตุการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องทุจริต

@ : ใครเป็นผู้บังคับบัญชาของนายทรงกลด ที่ไปพบกับผู้บริหาร สจล. เพื่อให้มีการยืนยันยอดเงิน ?

วิชิต : ก็เป็นผู้บังคับบัญชาเขาไงครับ เพื่อต้องการให้ชัดเจนว่ามีพยานหลักฐานว่า สจล. มีผู้มีอำนาจจริงๆ มาเซ็นต์ และเพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่า นายทรงกลดไม่ได้เอาไปให้หลังบ้าน ให้คนรถเซ็นต์ เพื่อต้องการให้แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ มีพยานหลักฐานว่า สจล. เขารับรู้นะ ถ้าเขาไม่รับรู้เขาก็ไม่เซ็นต์ แถมยังมีจดหมายบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย จากลูกค้าที่เราให้ความสำคัญ เป็นลูกค้าชั้นดี ติดต่อกันมาหลายปี มายืนยันกับผู้ใหญ่ของเขานี่  

แล้วที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาของทรงกลดไป นี่คือวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันว่านายทรงกลดเอง เพราะตอนนั้นไม่สบายใจแล้ว แต่เมื่อนายทรงกลดบอกว่าไม่มีอะไรครับเรียบร้อย ก็กำกับอีกชั้นหนึ่ง และคนพวกนี้เป็นพยานหลักฐานว่ามีหลักฐานว่าผู้ใหญ่ ของ สจล. เซ็นต์ให้อีกชั้นเรียบร้อย แล้วเมื่อลูกค้าบอกว่าเขาไม่เสียหายเลย เราจะตั้งประเด็นตรงนี้ยังไง

@ : การให้ผู้บังคับบัญชาของนายทรงกลด ไปพบผู้บริหารของ สจล. เพื่อยืนยันยอดเงิน หมายความว่า ธนาคารไทยพาณิชย์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ หรือไม่ และเหตุใด เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติจึงไม่แจ้งให้ สจล. ทราบ ?

วิชิต :  คือ ถามว่าเราไม่สบายใจไหม เราไม่สบายใจ เพราะถ้าทุกอย่างเราสบายใจ นายทรงกลดเราคงไม่ให้เขาออก  แต่เราไม่มีหลักฐาน ว่าเขาทุจริต เราเพียงแต่พบว่าผิดระเบียบ และเราต้องการรู้ว่า เรื่องนี้ สจล. มีปัญหาไหม เสียหายไหม และถ้าการที่เขามาลงนามทีหลังนี่ เขาติดใจหรือเปล่า สจล. ก็ไม่ติดใจอะไรเลย ลงนามให้ครบถ้วน แถมมีมาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย ชมเชยด้วยว่าทุกอย่างดำเนินการดี

@ : กรณีนายทรงกลด มีกระแสข่าวว่าถอนเงินออกไปมากกว่าพันล้านบาท จริงๆ แล้วถอนไปกี่ครั้ง ถอนออกไปเมื่อไหร่ วงเงินเท่าไหร่แน่ ?

วิชิต : ตัวเขาเหรอ ตัวเขาผมไม่รู้

@ ไม่ทราบตัวเลขแน่ชัด?

วิชิต : ผมไม่ทราบจริงๆ 

...

ทั้งหมดนี่คือคำตอบจากประธานกรรมการบริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีต่อคดียักยอกเงินฝาก สจล. หนึ่งในคดีทุจริตที่มีคนในสถาบันการศึกษาและสถาบันการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และถูกสังคมตามองมากที่สุดในเวลานี้

อ่านประกอบ :

"วิชิต"ออกโรงเอง ยันพร้อมร่วมมือสอบคดี สจล. ไม่มีนโยบายปกป้องคนทุจริต

แกะรอย"สจล.VSไทยพาณิชย์"ใครพูดจริง-เท็จ ปมไอ้โม่งฉากหลัง"ทรงกลด"

5 เหตุผล "สจล."ไม่ไว้วางใจ"ไทยพาณิชย์"ประกาศทบทวนธุรกรรมการเงิน!