“เพื่อไทย”เปรียบรธน.สายล่อฟ้าชนวนก่อวิกฤติเปิดช่อง“นายกฯคนนอก”

“เพื่อไทย” เปรียบ ร่าง รธน.ใหม่ เหมือนสายล่อฟ้า ทำให้เกิดวิกฤติ เปิดช่องให้มี “นายกฯคนนอก” ยันในระบอบประชาธิปไตยมีทางออกอยู่แล้ว “ประชาธิปัตย์” ระบุไม่ยอมจำกัดเวลา เป็นได้ครบเทอม เกินเงื่อนไขสังคมที่ตกลงไว้แต่ต้น

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะตัวแทนพรรคฯ กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนา “การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมืองเพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ” ถึงกรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เห็นด้วยกับที่มาของนายกรัฐมนตรี ตามร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอมา เพราะผู้ร่างอ้างว่า ให้เลือกนายกฯในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็คาดว่าผู้จะดำรงตำแหน่งนายกฯก็น่าจะเป็น ส.ส. ด้วย ไม่ได้บัญญัติชัดเจนว่า ไม่ต้องเป็น ส.ส. เพราะหากเกิดวิกฤติจะได้หาทางออก

“หากเกิดวิกฤติในระบอบประชาธิปไตยจริง ก็ย่อมมีทางออก ถ้าทุกฝ่ายยอมรับกติกา เช่น นายกฯลาออก หรือนายกฯยุบสภา เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนเลือกมาใหม่ ก็ทำตามกติกา ก็ไม่มีวิกฤติ แต่ถ้าเขียนแบบนี้ ถือว่าเป็นการเขียนแบบสายล่อฟ้าทำให้เกิดวิกฤติ” นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวอีกว่า ภาพรวมรัฐธรรมนูญที่ร่างมา คือวางแผนให้เกิดวิกฤติได้ง่าย ไม่ให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ให้มีกลุ่มการเมืองเข้ามา พอเข้ามาก็มาล่าลายเซ็นว่าใครจะได้เป็นนายกฯ และใช้เสียง 2 ใน 3 จากสภา ก็สามารถนำคนนอกมาเป็นนายกฯได้ทันที หรืออาจจะมี ส.ส. มาเป็นนายกฯ แต่หลังจากนี้มีการจับขั้วใหม่ โค่นล้มกัน ก็เอาคนอื่นเข้ามาอีก ก็อ้างวิกฤติมากมาย ดังนั้นต้องป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติในระบอบประชาธิปไตย เขียนให้ชัดเจน และให้กลไกในประชาธิปไตย กลไกในรัฐธรรมนูญแก้ไขเอง ถ้ามีอำนาจยุบสภาก็ยุบ หรือถ้านายกฯมีความผิดร้ายแรงก็เปลี่ยนตัวภายในสภาผู้แทนฯก็ได้

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนพรรคฯ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หลักการที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 2535 คืออยากเห็นนายกฯที่แสดงตนเบื้องต้นกับประชาชน ไม่เหมือนก่อนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใคร ท้ายสุดคนนอกกก็มาเป็นนายกฯ ซึ่งเราต่อสู้จนได้รัฐธรรมนูญที่ระบุว่า นายกฯต้องมาจาก ส.ส.

นายจุรินทร์ กล่าวว่า แต่หลังวิกฤติก่อนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ เกิดปัญหา สุดท้ายมีการคุยให้ได้นายกฯคนนอก แต่พอเขียนรัฐธรรมนูญกลับเขียนลึกลงไปในรายละเอียด ปรากฏว่าไม่ได้สนองตอบโจทย์เดิม คือ นายกฯต้องมาจากประชาชน ยกเว้นในภาวะวิกฤติ ที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติในระยะเวลาจำกัด ก็ควรเปิดโอกาสให้คนนอกแก้วิกฤติได้ หลังจากนั้นก็คืออำนาจให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง แต่พอดูเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งหมด สุดท้ายไม่ได้ตอบโจทย์นี้

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังไม่ได้จำกัดระยะเวลาของนายกฯคนนอกอีกด้วย เป็นได้ครบเทอม 4 ปี 2 วาระก็ 8 ปี เพราะฉะนั้นคิดว่าเกินเงื่อนไขที่สังคมตกลงกันไว้เบื้องต้น ว่าหลักนายกฯควรมาจากการเลือกตั้ง ยกเว้นภาวะวิกฤติที่มีช่วงระยะเวลาจำกัด ซึ่งมันเกินหลักการนั้นไปแล้ว

อ่านประกอบ :
พท.-ปชป.ประสานเสียงค้าน! เลือกตั้ง “โอเพนลิสต์”-ซัดจำกัดอำนาจปชช.
ปชป.ไม่เห็นด้วยกลุ่มการเมืองลงเลือกตั้ง-ชี้ย้อนยุคสู่ประชาธิปไตยครึ่งใบ

หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสามารถ จาก tnews