เงิน...เงิน...เงิน (3) : เงิน เป็น การทดลองใจ
ผมขอกลับมาถ่ายทอดคำเทศนาเรื่อง “เงิน เงิน เงิน” ต่อเนื่องจากที่ผ่านมาที่ว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ เงินซื้อบ้านได้ แต่ซื้อครอบครัวที่อบอุ่นไม่ได้ เงินซื้อหนังสือได้ ซื้อความรู้ไม่ได้ เงินซื้อสิ่งต่างๆได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้ ฯลฯ
และในครั้งต่อมา ก็ยังยอมรับบทบาทของเงินว่า บางครั้ง เงินก็ยังเป็นพระพร เช่น โยเซฟ แก้ปัญหาให้ชาวอียิปต์ และชาวอิสราเอล ให้พ้นวิกฤตกันดารอาหารถึง 7 ปีต่อเนื่อง (น่าจะหนักไม่น้อยกว่าน้ำท่วมบ้านเรา) เป็นวีรกรรมยิ่งใหญ่ และได้รับตำแหน่งยิ่งใหญ่เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทนฟาห์โรห์ในยุคนั้น มีอำนาจและทรัพย์สินมากมาย
แต่สิ่งที่น่าระวังคือ เงินเป็น “การทดลอง (ใจ)” ตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละ จึงทำให้บางคนห่างไกลจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์”
เมื่อมองเรื่องการทดลองแล้ว บทเรียนคลาสสิค คือ การทดลองที่มารซาตานมาทดลองพระเยซูคริสต์ มี 3 ประการ
1.การทดลอง...บาปในยามอดอยากลำบาก ครั้งนั้น พระวิญญาณทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อมารจะได้มาผจญ และพระองค์ทรงอดพระกระยาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงอยากพระกระยาหาร ส่วนผู้ผจญมาหาพระองค์ทูลว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นพระกระยาหาร” ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”
คำสอนนี้ก็ชัดเจนว่า แม้ยามหิวโหย ที่พระองค์ทรงอดพระกระยาหารมา 40 วัน 40 คืน ก็ยังไม่ทรงทอดทิ้งพระวจนะพระธรรมคำสอน ชีวิตนี้มิได้อยู่เพื่อกิน (แต่กินเพื่ออยู่ และ เพื่ออร่อย) แต่ควรเป็นชีวิตที่มีพระวจนะเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณ
คนเราอาจจะยอมมีข้ออ้างทำบาปว่า ลำบากอดอยากถึงที่สุดแล้ว ก็อาจจะหลงไปในทางบาปได้ แต่หากเราสามารถมีใจสู้ แม้ลำบากเพียงใด รักษาจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ มุ่งกระทำดีต่อไป มีอาชีพอย่างสุจริต เราก็จะมีจิตใจที่ชื่นชมยินดี และภาคภูมิใจในชีวิตเสมอ ผมนึกถึงแม่ผมที่เด็กๆก็เกือบถูกขายไป เพราะพ่อแม่ก็ฐานะยากจน ขอขอบคุณคุณลุงพี่ชายคุณแม่ที่ท้วงไว้ ไม่ยอม แม่ทำงานหนัก เสริฟอาหาร เสริฟน้ำแข็ง เรียนกวดวิชา สอบเทียบ ต่อมาแต่งงานกับคุณพ่อ เลี้ยงดูลูกๆ 5 คน แต่ลูกเพิ่งเข้าปี 1 ปี 2 คุณพ่อผมก็เสียชีวิต 3 ปีต่อมาบ้านไฟไหม้ แม่ก็ต้องเลี้ยงดูลูกๆ 5 คนด้วยลำพังตัวคนเดียว จนลูกจบ วิศวฯจุฬาฯ 3 คน และ แพทย์จุฬาฯ 2 คน มีชีวิตที่บริสุทธิ์ ลำบากแค่ไหนก็อดทน...จนลูกไม่ทันรู้ด้วยซ้ำ ว่าแม่ต้องอดทนแค่ไหน เพราะกับลูก ท่านจะไม่บ่นถึงความเหนื่อยยากเลย คุณแม่ก็เป็นแบบอย่างของการรักษาชีวิตที่บริสุทธิ์ผ่านความลำบากยากจนจริงๆ
2.การทดลอง...ว่า “ถ้าพระเจ้ามีจริง ก็ต้อง...” แล้วมารก็นำพระองค์ไปยังนครบริสุทธิ์ และให้พระองค์ประทับที่ยอดหลังคาพระวิหาร แล้วทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงโจนลงไปเถิด เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า พระเจ้าจะรับสั่งให้เหล่าทูตสวรรค์ ของพระองค์รักษาท่าน และเหล่าทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ มิให้เท้าของท่านกระทบหิน” พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่า อย่าทดลองพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน”
พระเจ้าทรงสร้างชีวิตเรามาอย่างดี ชีวิตที่สัมผัสได้ว่า พระเจ้าทรงสร้าง “เราให้เป็นตัวเรา” มาอย่างดี “ขอบคุณพระเจ้า” ในทุกเงื่อนไขของชีวิตได้เสมอ ก็จะเป็นคนที่มีความสุขได้แม้ในเรื่องเล็กๆ และจะมีความสุขถาวร
แต่คนที่หลงไปว่า พระเจ้าไม่มีจริงหรอก ชีวิตนี้ ไม่เห็นน่าจะต้องขอบคุณพระเจ้าเลย ก็ต้องทนทุกข์ลำบากในชีวิตไป ถ้ารวยเหมือนคนนั้น...ฉันถึงจะมีความสุข ถ้าหล่อสวยเหมือนคนนั้น...ฉันถึงจะมีความสุข ก็จะมีแต่ความทุกข์
3.การทดลอง... “ก้มหัวให้มาร...จะได้ครอบครองนคร” อีกครั้ง มารได้นำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาอันสูงยิ่งนัก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งเรืองของราชอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์ทอดพระเนตร แล้วได้ทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านจะกราบลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน” พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “อ้ายซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า จงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว”
มีคนบอกว่า ทุกคนจะมีราคา ถึงจุดหนึ่ง จะยอมโกง บางคน 3-4 แสนบาท ไม่โกงหรอก 1-2 ล้านบาท ยังรักษาใจได้ แต่ถ้าโกง หรือช่วยคนโกง แล้วรวยเป็นสิบๆล้าน ก็ไม่แน่ แล้วแบ่งส่วนไปทำความดีก็ได้ ! ก็จะหลงไปทางบาปได้
เราจึงควรเรียนรู้และระวังว่า “เงินคือการทดลองใจ” มันสามารถเป็นรากแห่งความบาปทั้งมวล และทบทวนจิตสำนึกในชีวิตมากๆ ไม่ต้องรวยมาก จริงๆแล้ว ไม่ต้องรวยก็มีความสุขได้ หากรักษาใจในทางชอบธรรม
ผมจึงให้พร “ขอให้รวย ขอให้รวย” ไม่ได้ เพราะผมไม่เห็นความหมาย ผมจะให้พรเพียง “ขอให้มีความสุข ขอให้มีความสุข” และขอให้ท่านผู้อ่านมีความสุขเช่นเดียวกันครับ
สัปดาห์ต่อไป จะต่อกันในช่วงสุดท้าย “อย่าให้เงินอยู่ที่ใจ...แต่ให้ใจอยู่กับทางชอบธรรม” ครับ
มนตรี ศรไพศาล ([email protected]; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)
ที่มาภาพ : http://www.smilinginthailand.com/financial/banking_cash_access.htm