สอบผ่านแค่ประถม...สอบตกมัธยม...แต่จะเอางบอุดมศึกษา...500
ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ กำลังทำให้ประชาชนคนไทยต้องลำบากหลายล้านคน และพี่น้องไทยทั้งประเทศต้องเป็นห่วงและกังวล แน่นอน...ยิ่งปัญหาหนัก ก็ยิ่งอยากให้คนไทยรักกัน และร่วมมือกัน
ไทยทนยังเชื่อว่า ปัญหายิ่งหนัก ผู้บริหารก็ใหม่ คนไทยยิ่งต้องเข้มแข็ง อดทน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ช่วยให้ชาติพ้นภัยครั้งนี้ เตือนสติผู้บริหารบ้านเมือง อย่าให้ต้องประสบกับวิกฤตหรือวิบัติในยุคนี้อีกเลย
รัฐบาล “ปู” ชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงท่วมท้น นายกฯปูก็ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน ที่พิจิตร ก่อนการเลือกตั้งด้วยแคมเปญ “แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก” แต่เท่าที่ไทยทนสังเกตการทำงานและผลงานดู ขอสรุปว่า สอบผ่านแค่ประถม...สอบตกมัธยม...แต่จะเอางบอุดมศึกษา...500
1. สอบผ่านแค่ประถม สิ่งที่นายกฯ ปู ทำได้ดีคือ หาเสียง แบบ “พูดคนเดียว”พูดต่างไม่ได้ พูดขัดไม่ได้ เกรงว่าจะรู้ว่ารู้จริงแค่ไหน ? จนบัดนี้ ได้รับตำแหน่งแล้ว สิ่งที่ทำได้ดี ก็ยังดูจะเป็นเพียงการพูดหาเสียง เอาเพียงแค่ภาพ หาแพะรับบาปความล้มเหลว ไม่มีอะไรที่ไปได้มากกว่านั้น
·เน้นแค่ภาพ สิ่งที่เห็น เป็นงานถนัดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือ การสร้างภาพ ไม่ว่าจะเป็น “แคมเปญให้รัฐมนตรี ลงพื้นที่นอน พักค้างกับพี่น้องน้ำท่วม” “จัดประชุมบางระกำโมเดล” “ทีวีเรียลลิตี้ถ่ายทอดการประชุม” หรือ “งานอีเวนท์ รวมพลเรือคนไทยใช้เรือดันน้ำ” ทำสถิติเพื่อลงหนังสือกินเนสท์บุ๊ค ยิ่งทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ตกลงจะมาเอาแต่ภาพส่วนตัว หรือจะมาอาสาแก้ไขปัญหาประชาชนจริงๆกันแน่
·มุ่งแค่เสียง ช่วงต้นๆของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แทนที่จะประเมินว่าสถานการณ์จะหนักเพียงใด จะแก้ไขปัญหาให้เสียหายน้อยได้อย่างไร จะป้องกันส่วนที่ป้องกันได้อย่างไรบ้าง กลับเน้นเพียง “ให้รัฐมนตรีหลายๆคนแบ่งกันลงไปพื้นที่น้ำท่วม ไปพักค้าง (เอาคะแนน) กับประชาชน” ก็ดูจะเป็นวิธีได้คะแนนเสียง แต่ปัญหาหนักจริงๆกลับไม่ได้รับการป้องกันแก้ไข นิคมอุตสาหกรรมจมน้ำถึง 7 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากการเน้นแต่แคมเปญหาเสียงร่วม 2 สัปดาห์
·เพียงหาแพะ เมื่อมีปัญหา ก็ทำได้แต่สิ่งที่ถนัดคือ การหาแพะมาใส่ร้าย ล่าสุด หนังสือสำหรับกลุ่มคนเสื้อแดง ถึงกับกล่าวหาเขื่อนภูมิพล และ เขื่อนสิริกิติ์ ทั้งที่ รัฐบาลก็น่าจะติดตามข้อมูล และอยู่ในวิสัยที่จะรู้เรื่องสำคัญๆอยู่แล้ว (ถ้าจะบอกว่า “เห็นใจหน่อย มือใหม่” ก็น่าแปลกใจว่า รู้เช่นนั้น แล้วส่งมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีทำไม ??) โดยมีหลักฐานที่ออกมาตามข่าวว่า นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2554 ระบุว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานประสานกับ กฟผ. ให้ลดการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพล และหน่วงน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้ไหลผ่านมากเกินไป เพื่อให้ชาวนาในพื้นที่เขตลุ่มเจ้าพระยาเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จก่อนก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่ความผิดของเขื่อน หรือชื่อเขื่อนแต่อย่างใด
2.สอบตกมัธยม เมื่อวิเคราะห์ดูการบริหารงาน กลับล้มเหลวหลายด้าน
·ปัญหาแท้ของประชาชน ไม่มีคนป้องกันแก้ไข นิคมอุตสาหกรรมถูกน้ำท่วมติดๆกันถึง 7 แห่งประมาณ 2 สัปดาห์ต่อจากแคมเปญหาเสียง กิจการอุตสาหรรมบ่นอุบว่า น้ำท่วมครั้งนี้ยอมรับว่าใหญ่ แต่ไม่ได้มาแบบสึนามิ น้ำมาอย่างชนิดรู้ตัวได้ คำนวณวิเคราะห์คาดเดาได้บ้าง กลับไม่มีข้อมูลใดๆที่เชื่อถือได้ นายกฯได้แต่ยืนยัน “เอาอยู่ ๆ” แต่นิคมอุตสาหกรรมกลับจมน้ำแบบป้องกันแก้ไขสถานการณ์โรงงานกันไม่ทัน จนสร้างปัญหาลามไปถึงหลายๆกิจการของญี่ปุ่น และกระทบอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ และอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก กว่าประเทศไทยจะสร้างสมฐานะมาเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมของโลก ต้องใช้เวลามาหลายสิบปี นึกไม่ถึงว่า ด้วยการบริหารที่ไร้ทิศทางเวลาเพียงไม่นาน ก็เสียหายหนักได้ถึงขนาดนี้
·เรื่องประโยชน์พวกพ้องนำหน้าประโยชน์ของแผ่นดิน ข่าวกักน้ำไว้ก่อน เพื่อให้เกี่ยวข้าวได้ในหลายพื้นที่ เป็นเหตุสำคัญหนึ่งให้ปริมาณน้ำที่ต้องระบายในเวลาสั้นๆมีมากเกินไป จริงๆแล้วถ้าปล่อยให้ระบายได้ตามปรกติ ไม่เก็บไว้มากเกินไป น้ำก็น่าจะระบายไปตามระบบได้มากกว่านี้ และปัญหาน้ำส่วนเกินบนแผ่นดินในเวลาสั้นๆก็ลดลงไปได้มาก ปัญหานี้สะท้อนว่า ถ้าฐานเสียง อย่างเช่นชาวสุพรรณบุรี ต้องเกี่ยวข้าวให้ได้ก่อน จนทำให้บริหารน้ำผิดพลาด น้ำจำนวนมากต้องลงมาพร้อมกันในเวลาสั้นไป น้ำที่แบ่งไปแม่น้ำท่าจีนน้อยไป ฯลฯ ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ นี่ยังไม่รวมการผูกโยงว่า มีการร่วมลงทุนกับของเศรษฐีไทยที่ไปดูไบ กับเศรษฐีตะวันออกกลางหรือไม่ จึงรอเก็บเกี่ยวข้าว ขายแพง เอาเข้ากระเป๋าส่วนตัวมหาศาล บนความเดือดร้อนของคนไทยทั้งชาติก็ยิ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ
3.จะเอางบอุดมศึกษา...500 ทั้งๆที่ผ่านอย่างมากก็ประถม สอบตกมัธยม แต่อยากได้งบ 9 แสนล้านบาท
·รู้ปัญหาแล้วหรือ จึงมีตัวเลข 9 แสนล้านบาทออกมาได้ ?
·รัฐบาลแก้ไขปัญหาวันต่อวัน จนประชาชนส่ายหัวว่า ตกลงรู้เรื่องหรือไม่ ?
·ความมือใหม่จะเป็นข้อแก้ตัวและให้โอกาสได้อีกนานแค่ไหน ?
·การลงพื้นที่ก็ได้รับความเห็นใจ แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาแท้จริงได้ทันสถานการณ์อยู่บ่อยๆ ? การระบายน้ำด้านตะวันออกไม่ใช้เต็มกำลัง หวังให้ระบายทิศตะวันออกไปไกลถึงบางปะกงแต่ก็ย่อมไปได้น้อย เพราะชันน้อย และทางไกล ก็ทำให้น้ำสะสมด้านเหนือสูงกว่าปรกติ จนต้องถูกตามจี้ให้ระบายน้ำลงพื้นที่ฟลัดเวย์มากขึ้นด้านตะวันออกก็เริ่มสายไปแล้ว น้ำสะสมด้านเหนือคือรังสิตมากเกินไป และทำให้ยันน้ำต่อไปได้ยาก
·การจัดลำดับความสำคัญกับประโยชน์พวกพ้อง ? ทั้งการเกี่ยวข้าวพื้นที่ฐานเสียง หรือการรุกล้ำเครื่องมือลดความเสียหายน้ำท่วม ของชุมชนหลายแห่งเช่นกรณี คลองสามวาเป็นตัวอย่าง และนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมอำนาจของกลุ่มฐานเสียง ทั้งที่อาจเป็นปัญหาใหญ่ให้น้ำจำนวนมากลงระบบท่อระบายน้ำของ กทม.ได้ ก็ยังดีที่ต่อมายอมแก้ไข ให้บังคับใช้กฎหมาย และขอให้ทุกคนไม่ทำลายเครื่องมือบริหารน้ำของรัฐ
ปัญหาเหล่านี้ สะท้อนว่า สอบตกตั้งแต่มัธยม ประชาชนไม่ไว้ใจอีกแล้วว่า ท่านจะเข้าใจปัญหา หรือจะรู้วิธีแก้ไขปัญหา แต่กลับจะมาเอางบประมาณ 9 แสนล้านบาท และประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าจะไม่ลงไปในสิ่งที่ไม่ได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด จะไม่โก่งตัวเลขมหาศาลเพื่อไปบานกันที่กระเป๋าส่วนตัวและพวกพ้อง
ไทยทนก็อยากชวนให้คนไทย รักชาติไทย ด้วยใจอดทน แต่ทุกคนก็ต้องร่วมกัน ป้องกันไม่ให้ชาติมีปัญหา ถูกนักการเมืองหาประโยชน์จนต้องวิกฤตหรือวิบัติกันอีกครั้ง
ในเมื่อผู้บริหารสอบผ่านแค่ประถม สอบตกมัธยม ก็ไม่ควรให้งบอุดมศึกษา...ถึง 500 เพราะกลัวจะเป็นอุดมศึกษาแบบ .... 500 เสียมากกว่า !!
ที่มาภาพ : http://www.police-pran43.com/detailnew.php?CodeNew=1525