ใครเป็นใครในวิกฤตต้มยำกุ้ง ช่วงรบ. จิ๋ว–ทักษิณ
ช่วงนี้ ดูจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องวิกฤตการเงินช่วงปี 2540 ที่เรียกกันทั่วโลกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” มีเหตุการณ์เลวร้ายต่อประเทศชาติอย่างมากจนเกือบถึงขั้นล้มละลาย คล้ายๆที่ชาวโลกกำลังกังวลต่อสถานการณ์ในอิตาลี และยุโรปในช่วงปัจจุบัน
สาเหตุใหญ่ๆมาจากเรื่อง การปกป้องค่าเงิน ทำให้มีการขายดอลลาร์ ทั้งตลาดเงินสด และตลาดล่วงหน้าในอัตราประมาณ 26 บาท/เหรียญ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องขาดทุนมหาศาลเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็นถึง 40-50 บาท/เหรียญ จนกองทุนสำรองระหว่างประเทศเหลือสุทธิเพียง 7 พันล้านเหรียญ โดยมีข่าวมากมายว่า กองทุนลับบางกองของนักการเมืองไทย (ตอนนั้นเป็นไทย) ซื้อไว้เพื่อทำกำไรได้กันเป็นเท่าๆตัว และนี่กระมังที่นายเสนาะ เทียนทองเคยเปิดโปงว่า “ผมคิดว่าคนๆ นี้รวยแล้วกลับใจ แต่จริงๆ แล้ว เพราะรวยจากโกงชาติ กล้าทำแม้เผาบ้านเผาเมืองเพื่อเอาประกัน มีการไตร่ตรองและวางแผนไว้ก่อนทุกขั้นทุกตอนไอ้หมอนี่คิดเป็นจ๊อบๆ”
กับอีกเรื่องก็คือรัฐบาลในยุคนั้น ได้ตัดสินใจเข้าไปรับหนี้สถาบันการเงินที่มีปัญหามาเป็นภาระหนี้ของภาครัฐเป็นแสนๆล้านบาท เป็นหนี้ที่ด้อยคุณภาพ ที่เรียกว่า Non-Performing Loan (NPL) จำนวนมาก ประเทศจึงถึงขั้นวิกฤต เงินดอลลาร์ที่หน้าตักเหลือเพียง 7 พันล้านเหรียญ แทบไม่พอชำระหนี้ หรือซื้อน้ำมัน ทำให้ประเทศต้องตัดสินใจขายทรัพย์สินโดย ปรส. ออกไปในสถานการณ์ที่ลำบาก
มีความพยายามอย่างมาก ที่ทำให้คนเชื่อว่า ความเสียหายทั้งหมด ก็เพราะ ปรส.ไปขายหนี้ ทำให้สินทรัพย์กกว่า 7 แสนล้านบาท ขายได้เพียง 2 แสนกว่าบาท จริงๆแล้ว เท่าที่จับตาดู เราก็จะขายได้ประมาณ 30%-40% กว่าๆ
ซึ่งก็เป็นกรณีคล้ายๆกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่อเมริกาและยุโรป ตั้งแต่ช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ สถาบันใหญ่อย่างเช่นเมอริลลินช์ ก็สินทรัพย์ได้เพียง 22% เท่านั้น เขาไม่มีใครตำหนิผู้ขาย ซึ่งเราก็ไม่ควรตำหนิ ปรส.เช่นเดียวกัน
เขาตำหนิที่สถาบันไปมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ของมันด้อยคุณภาพ เป็น NPL มูลค่าที่แท้จริงก็ต่ำกว่าครึ่งอยู่แล้ว การขายออกไปได้ตามนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ตอนนี้ถ้าใครอยากมีโอกาสลุ้นกำไรแบบผู้ประมูลซื้อสินทรัพย์เหล่านั้น ก็เชิญได้ครับที่อเมริกา แต่ผลออกมา จะกำไรหรือขาดทุนก็คงต้องลุ้นกันต่อไปครับ
เทคนิคการทำให้คนโกรธ ปรส. ก็ดูไม่แปลก เหมือนความสำเร็จในกรณีบริหารน้ำท่วม ทำให้คนลืมความผิดพลาดในการสะสมน้ำ ในการกันน้ำไปพื้นที่บางจังหวัด แต่กลับมาโทษคน กทม. และบิ๊กแบ็ค ทั้งๆที่ ก่อนหน้านี้ น้ำมาไม่ถึง ก็ไม่ใช่เพราะคน กทม. และ เมื่อมา กทม. ก็เร่งสูบ แต่การเบี่ยงเป้าความโกรธ ก็ช่วยให้ต้นตอของปัญหาก็หลบรอดไป
ช่วงนี้จึงอาจจะมีบางคน สนใจว่า ในช่วงวิกฤต อะไรเกิดขึ้น เกิดในช่วงไหน และ ใครเป็นใครในช่วงนั้น ผมจึงขอรวบรวมมาดังนี้ครับ
1.ยุครัฐบาล นายกฯ ชวน หลีกภัย 23 ก.ย. 35 – 13 ก.ค. 38
1.1รมว. คลัง คุณ ธารินทร์ 29 ก.ย. 35-18 ก.ค. 38
ผู้ว่า ธปท. คุณวิจิตร สุพินิจ 1 ต.ค. 33- 13 ก.ค. 39
•20 ธ.ค. 2537 Mexico Crisis มีการประกาศลดค่าเงินเปโซ 15%
2.ยุครัฐบาล นายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา 13 ก.ค. 38 – 25 พ.ย. 39
2.1รมว. คลัง คุณ บดี 28 พ.ค. 39 – 27 ก.ย. 39 คุณ ชัยวัฒน์ 28 ก.ย. 39 – 28 พ.ย. 39
ผู้ว่า ธปท. คุณเริงชัย กะระกานนท์ 13 ก.ค. 39 - 28 ก.ค. 40
•พ.ย.-ธ.ค. 39 การโจมตีค่าเงินบาทครั้งแรก
3.ยุครัฐบาล พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ 25 พ.ย. 39 – 9 พ.ย. 2540
3.1รมว. คลัง คุณ อำนวย 29 พ.ย. 39 – 19 มิ.ย. 40 คุณ ทนง 21 มิ.ย. 40 – 23 ต.ค. 40
ผู้ว่า ธปท. คุณเริงชัย กะระกานนท์ 13 ก.ค. 39 - 28 ก.ค. 40
ผู้ว่า ธปท. คุณชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ 31 ก.ค. 40 – 4 พ.ค. 41
•27 มิ.ย. 40 ธปท. ประกาศระงับการดำเนินกิจการของ 16 สถาบันการเงิน (ประมาณว่า “จะเอาอยู่”)
•5 ส.ค. 40 (แต่ “เอาไม่อยู่”) กระทรวงการคลังและ ธปท. ประกาศมาตรการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน พร้อมประกาศระงับการดำเนินกิจกรรมของสถาบันการเงินอีก 42 แห่ง รวมเป็น 58 แห่ง
•11 ส.ค. 40 IMF ประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (Rescue Package) จำนวน 1.6 หมื่นล้านเหรียญ ให้แก่ประเทศไทย
•23 ต.ค. 40 ดร. ทนง ลาออก ได้ คุณ โฆษิตดำรงตำแหน่ง รมว. คลัง แทน
•15 ส.ค. 40 ดร. ทักษิณ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี
•8 พ.ย. 40 พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมตรี เป็นผลให้คณะรัฐมนตรี รวมทั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรพ้นจากตำแหน่งไปด้วยกัน
•ทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิคงเหลือสุทธิ ประมาณ 7 พันล้านเหรียญ (เทียบกับก่อนหน้า มียอดประมาณ 3-4 หมื่นล้านเหรียญ และปัจจุบันปี 2554 สะสมใหม่เป็นประมาณ 1.85 แสนล้านเหรียญ)
•ทำให้กองทุนฟื้นฟูต้องรับภาระหนี้เข้ามา โดยออกพันธบัตรนับถึงสิ้น พ.ย. 40 (ก่อนรวมหนี้เพิ่มและดอกเบี้ยทบต้นมาถึงปัจจุบัน) 5.63 แสนล้านบาท
4.ยุครัฐบาล ชวน หลีกภัย 9 พ.ย. 40 - 9 ก.พ. 44
4.1รมว. คลัง คุณ ธารินทร์ 14 พ.ย. 40 - 9 ก.พ. 44
ผู้ว่า ธปท. คุณชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ 31 ก.ค. 40 – 4 พ.ค. 41
ผู้ว่า ธปท. ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล 7 พ.ค. 41 – 30 พ.ค. 44
•7 ธันวาคม 40 รมว. คลัง แถลงรายชื่อสถาบันการเงินที่แผนฟื้นฟูผ่านการพิจารณาของ ปรส.
•ปรส.ขายสินทรัพย์ ในราคาประมาณ 30-40% ของมูลหนี้ (คล้ายๆที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และ ยุโรปในปัจจุบัน)
ก็คงจะเป็นข้อมูลพอสมควรว่าใครเป็นใครในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งที่ผ่านมา และหวังว่า ทุกฝ่ายจะช่วยกัน อย่าให้ประเทศกลับไปสู่วิกฤตอีกครับ
มนตรี ศรไพศาล ([email protected]; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)