อย่าใช้เรื่อง “ปู @ โฟร์ซีซัน” เป็นเรื่องการดูถูกสตรีเพศ
ในช่วงที่ผ่านมา เรื่องร้อนๆ เรื่องหนึ่งที่สื่อมวลชน และ ประชาชนติดตามกัน ก็คือ เรื่องรหัสลับ แถวๆ โรงแรมโฟร์ซีซัน ที่เกี่ยวพันถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองระดับนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ
หากจะมองว่า สังคมมีความเห็นจากฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ก็ยังมีอีกมิติที่ซ้อนอยู่ คือ กลุ่มนักการเมืองที่ทำหน้าที่ตามบทบาท และกลุ่มความเห็นอิสระของแต่ละฝ่าย
โดยส่วนตัว ผมเห็นว่า เรื่องนี้ หากจะคิดเป็นเรื่องส่วนตัว ชาย-หญิง ก็ออกจะเป็นจินตนาการเกินไป ดูขาดทั้งสาระและความน่าเชื่อถือ และอาจถูกมองว่า เป็นการเล่นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์
ดีที่ฝ่ายค้าน ก็ยกประเด็นเพียงเรื่อง (1) การใช้เวลาที่ควรเข้าประชุมสภา ออกมาพบกับผู้บริหารภาคเอกชน และ(2) การพบกับผู้บริหารเอกชนที่อาจมีประเด็นความเสี่ยงการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์เอกชน ซึ่งคงเป็นเรื่องสมศักดิ์ศรีที่ผู้นำของบ้านเมืองจะได้โอกาสชี้แจงเพื่อปกป้องเกียรติของตนได้ ก็ถือว่าเป็นกรอบประเด็นที่สมควร สร้างสรรค์ และเป็นตามหน้าที่ที่อาสาประชาชนมา
ฝ่ายเสียงข้างมากก็บริหารบ้านเมือง ฝ่ายเสียงข้างน้อยก็ทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของประชาชน
ทุกฝ่ายจึงไม่ควรใช้ความเท็จใส่ร้ายกัน มันเป็นความบาป
...หากจะหาว่า นายกฯ ปู มีความประพฤติกรรมไม่เหมาะทาง “ศีลธรรม” ก็ไม่สมควรยิ่ง กลางวันแสกๆแท้ๆ ถ้าจะคิดว่าเป็นเรื่องทำนองนั้น ก็คงเป็นการใส่ร้ายอย่างไม่สมควรเลย
...หากจะหาว่า ส.ส. ฝ่ายค้าน ใช้เป็นโอกาสข่มเหงสตรีเพศ ก็ไม่สมควรเช่นกัน ด้วยเท่าที่ติดตามประเด็นต่างๆที่หยิบยกมานั้น ก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องประเด็น “ศีลธรรม” อย่างที่กล่าวหา แต่เป็นประเด็น “จริยธรรม” หรือ “ความเสี่ยงเรื่องการเอื้อประโยชน์” มากกว่า
ผมจึงคิดว่า สังคมจะสร้างสรรค์ ถ้าทุกคนจะอยู่ในสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
การ “ใส่ร้าย” ด้วยความเท็จ เป็นความบาปที่เริ่มตั้งแต่ยุคปฐมกาล ซานตาน เป็นจอมมุสา พระเจ้า อนุญาตให้กินผลไม้ได้ทุกต้น ยกเว้น “ผลไม้ต้องห้าม” แต่งูกลับถามเอวาว่า “พระเจ้าตรัสจริงๆหรือว่า เจ้าต้องไม่กินผลไม้จาก ‘ต้นใดๆ’ ในสวนนี้” ... แค่ตั้งคำถาม ก็ใช้คำถามใส่ร้ายด้วยความเท็จแล้ว
ผมจึงคิดว่า คนรอบข้างท่านนายกฯ น่าจะช่วยกันรักษาศักดิ์ศรีของท่านนายกฯด้วย ท่านมีตำแหน่งสูง ประเด็นเรื่อง “ศีลธรรม” นั้น ท่านไม่มีปัญหาอยู่แล้ว และฝ่ายค้านก็ไม่ได้กล่าวหาในประเด็นนี้
จึงไม่ควรพูดให้ประชาชนเข้าใจผิดด้วยความเท็จว่า ฝ่ายค้านมุ่งประเด็น “ศีลธรรม”
ฝ่ายค้านก็ควรระวัง อย่าเล่นประเด็นเลยไปกว่าการตรวจสอบบทบาท นายกฯ ที่ไม่ควรเอื่อธุรกิจเอกชนบางกลุ่มแต่เพียงเท่านั้น อยู่ในกรอบ “จริยธรรม” ของบทบาทและหน้าที่ของนายกฯเช่นนี้ก็ดีแล้ว
ประเทศไทยเรามีวีรสตรีในอดีตมากมาย ทั้ง สมเด็จพระศรีสุริโยทัย หรือ พระสุริโยทัย วีรสตรีไทยสมัยอยุธยา เป็นอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระมหากษัตริย์องค์ที่ 15 ของกรุงศรีอยุธยาแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระสุริโยทัย ตามพงศาวดารหลวงประเสริฐฯ กล่าวเพียงแค่เป็นอัครมเหสีผู้เสียสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องพระราชสวามีในสงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ หรือ ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เป็นวีรสตรีไทยที่ป้องกันเมืองถลางให้พ้นจากข้าศึกได้ในสงครามเก้าทัพ สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
มู่หลาน ก็เป็นวีรสตรีชาวจีน ที่กล้าหาญออกรบแทนพ่อผู้ชรา และช่วยปกป้องจักรพรรดิ์จีนและแผ่นดินจีนให้พ้นจากการคุกคามของชนเผ่าโหรวหรัน
วีรสตรีทั้งหลายในประวัติศาสตร์ มักจะประกอบด้วยความรักชาติ รักแผ่นดิน ความสัตย์ซื่อ จงรักภักดี คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความรักและจริงใจต่อปวงประชา การเอาประโยชน์ของแผ่นดิน และของประชาชน เหนือประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
แต่ละคนเมื่อมีโอกาสอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ ก็ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง
นายกฯยิ่งลักษณ์เป็นผู้ที่กำลังมีโอกาสนั้น ก็ขอให้โอกาสกับท่านอย่างเป็นธรรมในการตอบข้อสงสัยใดๆ
ผมเชื่อว่า สังคมให้ความเคารพท่านในฐานะผู้นำสตรี ที่จะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหญิงเหล็กผู้นำประเทศของเรา และให้ท่านชี้แจงในประเด็นเฉพาะจริยธรรมในฐานะผู้นำ
ประเทศเท่านั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อส่วนรวม ไม่มีการบิดเบือนว่าเป็นประเด็นอื่นให้กระทบต่อศักดิ์ศรีผู้นำของเราไม่ว่าด้วยฝ่ายใดๆครับ
มนตรี ศรไพศาล ([email protected]; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)