รับน้องใหม่ มธ.’60 กองสันฯ อย่างสร้างสรรค์ ไม่ยั่ว อนาจาร
เปิดเทอมใหม่ รับน้องเฟรชชี่ ปี 60 ชวนคุยกับต้นตำรับ 'กองสันฯ' ไทย พี่น้องชาว มธ. สันทนาการอย่างสร้างสรรค์ ไม่เต้นย่ัว ลามกอนาจาร
มะหมี่ มะหมี่ มะหมี่ขูดมะพร้าว ทำกับข้าว อยู่ในครัว มะหมี่ไม่รู้ตัว ถูกคนชั่วลากตัวไป เอาไม้แหย่รู ถู ๆ ไถ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ มัน ๆ ปนกันไป เอาออกก็ไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยเอาออกที (ซ้ำ)
‘มะหมี่’ หนึ่งในเพลงฮิตที่นักศึกษารุ่นพี่นิยมขับร้องในกิจกรรมรับน้องมหาวิทยาลัย เพื่อหวังสร้างความสนุกสนาน ผ่อนคลายระหว่างทำกิจกรรม เราเรียกพวกเขาว่า ‘พี่สัน’ หรือ กองสันทนาการ
เปิดเทอมใหม่...เพลงเหล่านี้ยังคงถูกนำมาใช้สร้างความสนุก ปลุกจังหวะฮึกเหิมด้วยเสียงกลองที่เร่งเร้า มีลีลาการเต้น บางครั้งมีท่าทางยั่วยวน ชวนหัวเราะ สร้างรอยยิ้มและความประทับให้แก่เฟรชชี่วัยใส
หากกลับถูกตั้งคำถามจากสังคมว่า ท่าเต้นเหมาะสมหรือไม่?
ไขคำตอบกับกองสันทนาการในตำนาน ‘ม.ธรรมศาสตร์’ ต้นแบบการทำกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์ ก่อตั้งโดยนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบัน คือ อาจารย์ชัยยุทธ ถาวรานุรักษ์ รองคณบดีฝ่ายการนักศึกษา วิทยาลัยสหวิทยาการ ม.ธรรมศาสตร์
โดยเริ่มแรกนั้นการจัดตั้งกองสันทนาการอยู่ในรูปแบบกลุ่มอิสระสันทนาการธรรมศาสตร์ จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นชุมชนสันทนาการของมหาวิทยาลัย มีสัญลักษณ์ คือ ‘ดอกทานตะวัน’ ซึ่งเปรียบได้กับความเบ่งบานที่รับกับแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดความรู้สึกยิ้มแย้มเบิกบานตลอดเวลา
ทั้งนี้ แต่ละรุ่นของกองสันทนาการแห่งม.ธรรมศาสตร์จะมีความแตกต่างกัน และแต่ละรุ่นจะตั้งชื่อสัตว์ในวรรณคดี เช่น รุ่นแรก พญาราชสีห์ รุ่นที่ 2 พญาอินทรีย์ จนถึงปัจจุบันรุ่นที่ 15 พญาระมาด โดยมี นายธิติ วิมลอนุพงษ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้ากองสันทนาการ
‘ศิวลักษณ์ ทรัพย์สิน’ หัวหน้ากองสันทนาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 11 พญาคาวี ไม่ปฏิเสธกระแสสังคมบางกลุ่มที่เห็นว่า ลีลาการเต้นของกองสันทนาการในบางเพลงสื่อออกไปในทางลามกอนาจาร แต่สำหรับกองสันทนาการ ม.ธรรมศาสตร์ ยืนยันไม่มีเจตนาให้สื่อความหมายไปในทิศทางนั้น เพียงแค่อยากสร้างความสัมพันธ์ ความสนุกสนานให้แก่เฟรชชี่ที่เข้าร่วมกิจกรรม ไม่เฉพาะการรับน้อง แต่ทุก ๆ กิจกรรมที่จัดขึ้น
“กองสันทนาการ ม.ธรรมศาสตร์ อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนได้มีรอยยิ้มและรับความสุขจากเราไป”
หัวหน้ากองสันฯ รุ่นที่ 11 ยกตัวอย่างเพลงยายมีขายหอย ยายมอยขายหมี เพลงมัดหมี่ และเพลงเมียงู เพลงเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อสร้างความสุข สร้างความสัมพันธ์ และสร้างรอยยิ้มเท่านั้น เรื่องของความหมายในเชิงสองแง่สองง่าม จึงมักถูกตัดทอนมองข้ามไปค่อนข้างเยอะ ประกอบกับน้อง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้นก็ไม่ได้มองให้ส่วนนั้น แต่จะให้ความสำคัญกับการแสดงและส่งความสุขให้กันและกันมากกว่า
เพลงอาจฟังแล้วสองแง่สองง่าม แต่ในเรื่องการเต้นนั้น ตัวแทนกองสันฯ ม.ธรรมศาสตร์ ใช้วิธีดัดแปลงจากท่าเต้นมาเป็นการเล่นเสต็ปมือแทน ด้วยเหตุนี้ น้อง ๆ จึงมองข้ามในเรื่องเนื้อหา การดัดแปลงท่าเต้นจึงช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้ดีเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเต้นยั่วยวนเสมอไป
หรือเพลงมะหมี่ ซึ่งหลายสถาบันนิยมนำไปใช้ในกิจกรรมรับน้อง แน่นอนว่า มีวิธีการคิดท่าเต้นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งพวกเขายอมรับว่า ม.ธรรมศาสตร์มี 2 เวอร์ชั่น จะเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรม อย่างงานภายในอาจจะไม่ถึงขั้นหวือหวามากขนาดนั้น
“องค์กรของกองสันทนาการ ม.ธรรมศาสตร์ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายหลักในเรื่องของเนื้อหาที่เป็นสองแง่สองง่าม เพราะถ้าอย่างนั้นจะออกมาให้เห็นถึงความทะลึ่งตึงตัง ไม่ใช่แค่เนื้อเพลง แต่ท่าเต้นในการออกแบบ ดังนั้นถ้าเราตั้งใจที่จะสื่อออกมาแบบนั้น มันก็จะเป็นไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม”
พวกเขาจึงยืนยันว่า กองสันนทนาการ ม.ธรรมศาสตร์ มีเจตนาทำกิจกรรมแสดงทุกครั้ง เพื่อให้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความบันเทิงและความสุข
สลิลวสุ เที่ยงธรรม ผู้นำกองสันทนาการ ม.ธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 14 พญาไก่ฟ้า จึงไม่อยากให้สังคมมองว่า การสันทนาการไม่จำเป็นต้องมีท่าทางยั่วยวนเสมอไป และอยากให้เห็นใจ เพราะกว่าจะแสดงได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกซ้อมจริงจัง ต้องผ่านความรู้สึก เหน็ดเหนื่อย ท้อแท้
อย่างไรก็ตามวิชาสันทนาการถือเป็นวัฒนธรรมร่วม ที่ใครๆ ล้วนสามารถหยิบจับได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกเพลง แล้วการนำเสนอให้รูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละของมหาวิทยาลัย
กองสันทนาการไม่เฉพาะ ม.ธรรมศาสตร์ แต่ทุกสถาบัน ล้วนต่างมุ่งเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องให้รู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้น ท่าเต้น ลีลายั่วยวน จึงอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เท่ากับกิจกรรมที่ทำนั้นสร้างประโยชน์มากแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่า ยังมีกิจกรรมที่มากมายที่กองสันทนาการทำ ทั้งจัดค่าย เปิดหมวก บริการสังคม กองสันทนาการจึงไม่ใช่แค่เต้นยั่ว ลามก ให้เฟรชชี่ดูไปวัน ๆ อย่างที่เข้าใจ.