ทางม้าลาย 3 มิติ กับการปรับพฤติกรรมคนเมือง
ตามหลักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม มองว่า การประยุกต์ทางม้าลาย 3 มิตินั้นถือเป็นมาตรการที่ช่วยปรับพฤติกรรมผ่านการรับรู้ (perception) ด้วยการทำให้เห็นภาพลวงตา (illusion)
'ยุวดี คาดการณ์ไกล' ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษามหานครและเมือง ชี้ให้เห็นถึงมาตรการที่นำมาใช้ในการพัฒนาเมืองในขณะนี้ว่า หลายเมืองมีความน่าสนใจ แต่หลายเมืองอาจจะทำตามอย่างกัน โดยขาดความเข้าใจและขาดการตระหนักถึงความเหมาะสมในการนำไปใช้
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของคนข้ามถนนบนทางม้าลาย จึงมีการคิดค้นนำทางม้าลาย 3 มิติมาใช้เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในเมือง ทั้งนี้ มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของทางม้าลาย 3 มิติว่า ได้ผลจริงหรือไม่ แต่ก่อนที่จะไปถึงคำถามนั้น เราควรทำความเข้าใจก่อนว่า เพราะเหตุใดจึงมีการนำทางม้าลาย 3 มิติมาใช้ในการลดอุบัติเหตุในเมือง
นโยบายรัฐมักแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เนื่องจาก นโยบายภาครัฐที่ผ่านมา มักเน้นการบังคับใช้กฎหมายและบทลงโทษ เช่น การปรับเงิน การจับเข้าคุก เป็นต้น ซึ่งเป็นการมุ่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ขาดความเข้มงวดของการบังคับใช้ และมีต้นทุนในการตรวจจับผู้กระทำผิดสูง ทำให้กฎหมายข้อบังคับเป็นเสมือนเสือกระดาษ ไม่มีคนปฏิบัติตาม พฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนเมืองจึงเต็มเป็นไปด้วยความประมาทเลินเล่อ การเกิดอุบัติเหตุยังอยู่ในอัตราที่สูง
สังเกตได้จากพฤติกรรมการขี่จักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อค การขับรถเร็วเกินกำหนด รวมถึงการไม่ชะลอความเร็วเมื่อเห็นทางม้าลาย สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า แม้รัฐจะออกกฎหมายเข้มงวดเพียงใดก็มิอาจต้านทานพฤติกรรมที่บิดเบี้ยวของมนุษย์ได้
หากจะแก้ปัญหาการข้ามทางม้าลายอย่างปลอดภัยให้กับคนเมือง ภาครัฐต้องใส่ใจที่ต้นเหตุ นั่นคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทั้งผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนนของคนเมืองนั้นเป็นสำคัญ ในงานศึกษาแนวคิดเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมกับการพัฒนานโยบายสาธารณะของเมือง ภายใต้แผนงานนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาอนาคตของเมือง (นพม.) ศูนย์ศึกษามหานครและเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต และสสส. โดยนักวิจัย ดร.สินาด ตรีวรรณไชย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ชี้ให้เห็นว่า โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมมนุษย์มักพึ่งพากฎเกณฑ์หยาบๆ ตัดสินใจตามความรู้สึกหรือความทรงจำที่คลุมเครือ บางครั้งก็ตัดสินใจแบบแห่ตามกัน เช่น ขับรถเร็วโดยไม่สนใจว่ามีทางม้าลายอยู่หรือไม่ เห็นรถข้างหน้าขับผ่านทางม้าลายโดยไม่ชะลอก็เลยทำตาม เป็นต้น
ฉะนั้น หากเข้าใจพฤติกรรมคนเมืองในการใช้ถนนแล้ว การออกแบบนโยบายหรือมาตรการที่มุ่งไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนน ก็จะเป็นนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ผลโดยใช้ต้นทุนน้อย
เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมเป็นตัวช่วยปรับพฤติกรรมคนเมือง
ในกรณีนี้คือ พฤติกรรมของคนเมืองที่ประกอบด้วยผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนน ตามหลักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม มองว่า การประยุกต์ทางม้าลาย 3 มิตินั้นถือเป็นมาตรการที่ช่วยปรับพฤติกรรมผ่านการรับรู้ (perception) ด้วยการทำให้เห็นภาพลวงตา (illusion) ซึ่งส่งผลกระทบในสองทาง คือ ทางที่หนึ่ง พฤติกรรมของผู้ขับขี่ กล่าวคือ ทางม้าลาย 3 มิติส่งผลให้ผู้ขับขี่จะมองเห็นทางม้าลายเด่นชัดขึ้นและถูกกระตุ้นให้ลดความเร็วลงโดยอัตโนมัติ ส่วนหนึ่งเพราะเขาได้รับสัญญาณล่วงหน้าว่า ข้างหน้ามีทางม้าลายและต้องระวังคนข้ามถนน และทางที่สอง พฤติกรรมของผู้ข้ามถนน ในทำนองเดียวกัน ทางม้าลาย 3 มิติส่งผลให้ผู้ข้ามเห็นทางข้ามได้ง่ายขึ้น อีกทั้งทางม้าลาย 3 มิติยังสร้างความมั่นใจและความดึงดูดใจให้กับผู้ข้ามถนนด้วยว่า ผู้ขับขี่น่าจะเห็นทางม้าลายได้ชัดเจนขึ้นและน่าจะหยุดรถให้คนข้ามมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางม้าลาย 3 มิติจะใช้ไม่ได้ผลกับผู้ขับขี่ที่ขาดสามัญสำนึกในการชะลอรถให้คนข้าม รวมถึงจะไม่ได้ผลกับผู้ข้ามที่ไม่สนใจจะข้ามทางม้าลายตั้งแต่แรกแล้วด้วย
ฉะนั้น การกำหนดนโยบายหรือมาตรการใดๆสำหรับคนในเมืองหนึ่งๆ ภาครัฐควรศึกษาพฤติกรรมคนในเมืองนั้น เพื่อไม่ให้ผลกระทบของนโยบายมีผลเพียงแค่ในระยะสั้นเท่านั้น และพึงตระหนักเสมอว่า ไม่ใช่นโยบายและมาตรการหนึ่งๆจะใช้ได้ผลเหมือนกันในทุกพื้นที่