อนุฯ กมธ.ป้องกันทุจริต วุฒิสภา เล็งเรียก "อธิบดีสรรพากร" แจงปมคืนภาษี 4.2 พันล.
อนุฯ กมธ.ป้องกันทุจริต วุฒิสภา เตรียมเรียกตัว อธิบดีกรมสรรพากร ให้ข้อมูล ปมคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.2 พันล้าน หลัง กมธ. ชุดใหญ่ รับเรื่องไว้ตรวจสอบเป็นทางการ - "รสนา" ข้องใจคืนเงินให้เอกชนง่ายผิดปกติ
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ที่ประชุมกมธ.ฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้รับคดีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับบริษัทเอกชนจำนวนหลายสิบแห่ง วงเงินหลายพันล้าน ของกรมสรรพากร ไว้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ
โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการป้องกันการทุจริต และตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน รับผิดชอบการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้
คาดว่าในสัปดาห์หน้านี้ จะมีการเรียกประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวนครั้งแรก รวมถึงการระบุตัวผู้เกี่ยวข้องที่จะเชิญตัวมาให้ข้อมูลด้วย
น.ส.รสนา กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ตนทราบการขอคืนเงินภาษีของกรมสรรพากรเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก ทั้งในส่วนของบริษัทเอกชน รวมถึงบุคคล แต่กรณีนี้ทราบว่ามีการคืนภาษีให้เร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก
“ปกติการคืนภาษีของกรมสรรพากรจะมีความเข้มงวดมาก มูลนิธิเล็กบางแห่ง ไปทำเรื่องขอคืน ยังยากเลย แต่ทำไมบริษัทเอกชนเหล่านี้ ซึ่งมีการตรวจพบข้อมูลว่าเป็นบริษัทห้องเช่าไม่ได้มีการทำธุรกิจจริงๆ ทำไมสรรพากร ถึงคืนภาษีให้ง่ายนัก”
ส่วนกรณีที่กรมสรรพากรอ้างว่าหากมีการคืนภาษีให้เอกชนล่าช้า อาจจะถูกฟ้องร้องได้ น.ส.รสนา กล่าวว่า เห็นด้วยที่การคืนภาษีจะต้องทำด้วยความรวดเร็ว แต่ความรวดเร็วต้องมาพร้อมความรอบคอบ ไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง ยิ่งเป็นเงินภาษีของประชาชนด้วย
“ที่ผ่านมากรณีการตั้งบริษัทกำมะลอ เพื่อมาหลอกคืนภาษี เคยมีการตรวจพบและจับกุมไปหลายครั้งในอดีต คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมยังมีปัญหาเกิดขึ้นซ้ำอีก และครั้งนี้ถือว่ามีความเสียหายมาก เพราะวงเงินภาษีที่คืนไปมีมูลค่าหลายพันล้านบาท”
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมาธิการป้องกันการทุจริตฯ เปิดเผยว่า คณะอนุฯ กมธ.จะเรียกประชุมกำหนดแนวทางการตรวจสอบคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นทางการในช่วงต้นสัปดาห์หน้านี้
โดยบุคคลที่อยู่ในข่ายจะถูกเชิญตัวมาให้ข้อมูล ได้แก่ นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร