ผู้สอบบัญชีวัย 83 ปีโวยถูกสวมชื่อจดชำระบัญชีบริษัทเครือข่ายคืนภาษี 4.2 พันล.
ผู้สอบบัญชี วัย 83 ปี โวยถูกแอบอ้างชื่อจดชำระบัญชี บริษัทเครือข่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.2 พันล้าน อ้างถูกไล่ออก 2-3 ปีแล้ว ปูด คนชื่อ พ.เอาชื่อไปใช้ เก็บเงินหลักแสน
กรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นางสาวชิดจันทร์ หังสสูต อายุ 83 ปี ผู้สอบบัญชีเลขทะเบียน 1444 ปรากฏชื่อในเอกสารการยื่นจดทะเบียนว่าเป็นผู้ชำระบัญชีในขั้นตอนจดทะเบียนเลิกกิจการและการชำระบัญชี ของบริษัทในเครือข่าย ที่ได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 4.2 พันล้านบาท จากกรมสรรพากร ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทั้งๆที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตผู้สอบบัญชีตั้งแต่ปี 2554
(อ่านประกอบ:เปิดตัว“ชิดจันทร์”ผู้สอบบัญชีบริษัท“วีรยุทธ” ถูกเพิกถอนใบอนุญาตปี 54)
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 นางสาวชิดจันทร์ หังสสูตให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับการการชำระบัญชี ของกลุ่มบริษัทที่ได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากรแต่อย่างใด ลายมือชื่อของตนที่ปรากฏในเอกสาร เป็นลายมือปลอม
“ฉันอายุ 80 กว่าแล้ว แก่มากแล้ว ไม่ได้สอบบัญชีใครมาหลาย 2-3 ปี แล้ว เพราะถูกเขาไล่ออก ใครจะไปทำอะไรกันฉันไม่รู้เรื่องด้วย ฉันไม่ได้ไปเซ็นเอกสารอะไรให้ใครเลย”
เมื่อถามว่า มีหลักฐานทางเอกสารยืนยันว่า คุณชิดจันทร์ ปรากฏชื่อเป็นผู้ชำระบัญชี ให้กับบริษัทในเครือขายที่ได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากร
นางสาวชิดจันทร์ ตอบว่า “ก็บอกไปแล้วว่า ฉันไม่ได้สอบบัญชีให้ใครมานานแล้ว ฉันโดนไล่ออกมาแล้ว เขาไม่ให้ฉันสอบบัญชีใครแล้ว มีคนเอาชื่อฉันไปอ้าง ตำรวจเขาไปไล่จับอยู่ ไปถามตำรวจที่เชียงใหม่ ดู ขอร้องนะ อย่ามายุ่งอะไรกับฉันเลยฉันแก่แล้ว”
เมื่อถามว่า ถูกใครเอาชื่อไปใช้ นางสาวชิดจันทร์ ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ว่า “คนชื่อ พ. (ขอสงวนชื่อ) อะไรเนี่ยแหละ เขาชอบเอาชื่อฉันไปใช้ ไปอ้างว่า ฉันสอบบัญชีให้ได้ แล้วก็ไปหลอกคนโน่นคนนี่ ไปเก็บเงินจากคนอื่นมารายละหมื่น รายละแสน ตำรวจเข้าเคยไปไล่จับมาแล้ว ไปถามเลย ที่เชียงใหม่นะ ขอร้องอย่ามายุ่งอะไรกับฉัน เลย ฟังฉันหน่อย ฉันแก่แล้วนะ ”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.orgรายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังสำนักงานบัญชีวัชนะการบัญชี ตั้งอยู่เลขที่ 47 ถนนศิริธร ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ ซึ่งปรากฎข้อมูลว่าเป็นสำนักงานบัญชี ที่ นางสาวชิดจันทร์ เคยทำงานให้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกับ นาย พ. ตามข้อมูลของ นางสาวชิดจันทร์
ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ว่า สำนักงานบัญชีฯ อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นาย พ. ในข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สำนักงานบัญชีฯ ได้ถอนแจ้งความดำเนินการนาย พ. ไปแล้ว ครั้งหนึ่ง หลังจากที่นาย พ. ยินยอมจ่ายเช็คจำนวน 2 แสนบาท เพื่อชำระค่าเสียหาย กรณีที่ไม่สามารถจัดหาผู้สอบบัญชีให้สำนักงานฯ ได้ แต่ปรากฏว่าเช็คที่สั่งจ่ายมาเด้งทั้งหมด
เจ้าหน้าที่รายนี้ เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา นายพ. ได้เข้ามาติดต่อที่สำนักงานบัญชี พร้อมระบุว่าสามารถจัดหาผู้สอบบัญชีให้ได้ ในราคาถูก เราก็ตกลงว่าจ้าง และจ่ายเงินไปให้เขาสองแสนบาท ผู้สอบบัญชีที่เขาจัดหามาให้คือ นางสาวชิดจันทร์ แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ได้รับการติดต่อนางสาวชิดจันทร์ เราจึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวชิดจันทร์ ให้ข้อหาฉ้อโกง
“ ตำรวจได้เชิญตัวคุณชิดจันทร์มาให้ปากคำ แกก็บอกว่า ไม่เคยได้รับว่าจ้างงานสอบบัญชีอะไรเลย ถูกแอบอ้างชื่อไปใช้ เราเลยแจ้งความจับ นาย พ. ตำรวจก็ไปติดตามตัวมาได้ ตอนแรกเขาบอกว่าจะยอมจ่ายเงินคืนให้เขาให้เราถอนแจ้งความ เราก็เลยยอม แต่มารู้ตัวอีกที เช็คที่สั่งจ่ายมาเด้งหมด เราจึงเตรียมตัวจะไปแจ้งความตำรวจอีกครั้ง”
เจ้าหน้าที่รายนี้ กล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “ไม่แน่ใจว่า คนที่เอาชื่อคุณชิดจันทร์ไปใช้สอบบัญชีให้กับบริษัทที่ได้รับคืนภาษีเป็นกลุ่มคนๆ เดียวกันหรือไม่ แต่คิดว่า คุณชิดจันทร์ น่าจะถูกนายหน้ากลุ่มเดิม เอาชื่อไปขายให้กับบริษัท อื่นแน่นอน เพราะเท่าที่รู้คุณชิดจันทร์ ตรวจสอบบัญชีให้ใครไม่ได้แล้ว เพราะถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปตั้งแต่ปลายปี 2553 แล้ว”