- Home
- Isranews
- ข่าว
- สมาคม นสพ.ภาคใต้ฯจี้สางปม"ทหารคุกคามสื่อ" หิ้วปีกนักข่าวพ้นห้องประชุม – แม่ทัพรับเรื่องเร่งสอบข้อเท็จจริง
สมาคม นสพ.ภาคใต้ฯจี้สางปม"ทหารคุกคามสื่อ" หิ้วปีกนักข่าวพ้นห้องประชุม – แม่ทัพรับเรื่องเร่งสอบข้อเท็จจริง
สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์จี้ กอ.รมน.ภาค 4 สอบสวนกรณีผู้สื่อข่าวถูกทหารยศ “พันเอก” คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ สั่งลูกน้องหิ้วปีกออกจากห้องประชุม ผบ.ทบ.ทั้งที่การประชุมยังไม่เริ่ม อ้างเป็นความลับราชการ แถมยึดกล้อง-บัตรนักข่าว แต่พอเปิดดูไม่พบภาพลับ ยังสำทับจะเรียกตัวไปซักถามอีก ด้านโฆษกแม่ทัพภาค 4 แจง “พล.ท.อุดมชัย” สั่งสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยันที่ผ่านมาไม่เคยปิดกั้นหรือมีปัญหากับการทำงานร่วมกับสื่อ
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมฯเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.2554 เรียกร้องให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ตรวจสอบพฤติกรรมคุกคามและลิดรอดสิทธิเสรีภาพสื่อสารมวลชนของนายทหารยศ “พันเอก” นายหนึ่ง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอะหมัด รามันห์สิริวงศ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ประจำจังหวัดยะลา และเป็นสมาชิกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปทำหน้าที่รายงานข่าวการเดินทางไปปฏิบัติราชการของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ค.2554 ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของผู้สื่อข่าว และนายอะหมัดก็เป็นผู้สื่อข่าวมานานกว่า 6 ปี โดยทำข่าวของกองทัพมาโดยตลอด จนเป็นที่รู้จักของเจ้าหน้าที่ในกองทัพเป็นอย่างดี
แต่ในวันนั้น ขณะที่นายอะหมัดกำลังบันทึกภาพในห้องประชุมก่อนที่จะมีการประชุม ได้มีนายทหารยศ “พันเอก” นายหนึ่ง สั่งการให้สารวัตรทหาร 2 นายเข้าล็อคตัวนายอะหมัด โดยจับแขนซ้าย-ขวา แล้วนำตัวไปยังอาคารหน่วยข่าวเพื่อตรวจสอบกล้องถ่ายรูป ยึดบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว และบัตรประชาชนไปถ่ายเอกสาร พร้อมทั้งแจ้งว่านายอะหมัดเข้าไปถ่ายภาพที่เป็นความลับราชการ และจะมีการสอบสวนว่ามีเจตนาอย่างไร ต้องการนำภาพไปใช้ที่ไหน
อย่างไรก็ดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพถ่ายในกล้องภาพนิ่งและกล้องวิดีโอแล้ว ปรากฏว่าไม่พบภาพที่เป็นความลับของทางราชการแต่อย่างใด เป็นเพียงภาพบรรยากาศภายในห้องประชุมเพื่อใช้ประกอบข่าวทีวีและหนังสือพิมพ์ตามปกติ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวนายอะหมัดไป โดยกล่าวว่าหากมีข้อสงสัยเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวไปซักถามอีกครั้ง
หลังเกิดเหตุ นายอะหมัดได้ทำหนังสือร้องเรียนมายังสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เพราะเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นการลิดรอดสิทธิและเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเข้าข่าย “คุกคามสื่อ”
สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เห็นว่า การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าข่ายการ “คุกคามสื่อ” เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เป็นการข่มขู่คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอประณามการกระทำดังกล่าว และขอให้กองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ทำการสืบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กระทำการ “คุกคามสื่อ” ในครั้งนี้โดยเร็ว
พร้อมกันนี้ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ทั้งจะได้ทำหนังสือส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่คุกคามสื่ออีกด้วย
แม่ทัพภาค 4 รับเรื่องแล้ว-เร่งสอบข้อเท็จจริง
พ.อ.ปริญญา ฉายดิลก โฆษกประจำตัวแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า พล.ท.อุดมชัย และผู้บังคับบัญชาใน กอ.รมน.ภาค 4 ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อน เมื่อได้ทราบแล้วก็รู้สึกตกใจและประหลาดใจว่าเหตุการณ์ตามที่มีการร้องเรียนเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากนโยบายของแม่ทัพในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 เน้นความโปร่งใส เปิดให้สื่อมวลชนทำงานได้อย่างเต็มที่ตลอดมา ประกอบกับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็เดินทางลงมาประชุมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวเองก็ติดตามเข้ามาทำข่าวกันบ่อยๆ และรับทราบแนวทางการปฏิบัติระหว่างกันเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการร้องเรียนและทางสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์และตามข่าวระบุว่าจะทำหนังสือตามมา ทางแม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งจะแจ้งความคืบหน้าและทำความเข้าใจกับตัวผู้สื่อข่าวที่ร้องเรียน และสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยด้วย
รัวอาวุธสงครามถล่มรถขนผลไม้-พ่อค้าหวิดดับ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ช่วงสุดสัปดาห์ เมื่อเวลา 11.45 น.วันเสาร์ที่ 23 ก.ค. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้า เอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ยิง นายอภินันท์ เพชรสังข์ อายุ 52 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 128 ถนนบำรุงราษฎร์ หมู่ 2 ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ขณะกำลังขับรถบรรทุกออกจากร้านจำหน่ายผลไม้ เลขที่ 5 ถนนท่าเสด็จ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 จังหวะกลับรถบริเวณจุดกลับรถบ้านมะนังดาลำ หมู่ 1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี ทำให้นายอภินันท์ได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงสกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณจุดยุทธศาสตร์มะนังดาลำ เพื่อป้องกันไม่ให้ออกติดตามกลุ่มคนร้ายด้วย แต่โชคดีไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ประกบยิงหนุ่มช่างซ่อมรถที่ปัตตานี-ทิ้งใบปลิวโจมตี จนท.
เวลา 13.05 น.วันเดียวกัน มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอรุณ อินทร์ช่วย อายุ 46 ปี เป็นช่างซ่อมรถยนต์อู่มานิตการช่าง อยู่บ้านเลขที่ 79/11 ซอยน้ำใส ถนนยะรัง ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี กระสุนปืนเข้าอวัยวะสำคัญหลายนัด เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายอรุณกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน บนทางหลวงหมายเลข 42 หน้าโรงเรียนบ้านเกาะปะการัง บ้านตะลุโบะ หมู่ 1 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์ของนายอรุณไปด้วย ทั้งยังทิ้งใบปลิวโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 3 แผ่นระบุว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อแก้แค้นให้กับคนที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันศุกร์ที่ 22 ก.ค. มีข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 รายงานผลการปฏิบัติเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่า ขณะจัดชุดปฏิบัติการร่วมกับ สภ.เมืองยะลา ออกลาดตระเวนเส้นทางและตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณสี่แยกตลาดเมืองใหม่ ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา พบชายวัยรุ่นต้องสงสัย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงเรียกตรวจค้น และทราบว่าหนึ่งในนั้นคือ นายอามือรัง ซิมะกาเร็ง อายุ 26 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดยะลาในคดีก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ในท้องที่ สภ.โกตาบารู อ.รามัน และ สภ.รามัน จ.ยะลา จึงควบคุมตัวส่งสอบสวนขยายผลต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : 1-2 การประชุมที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน ในวันเกิดเหตุที่อ้างว่ามีการคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อ