โผล่อีก! เหยื่อแชร์ผ่านแอปฯ ไลน์ คราวนี้ล้มวันเดียว 50 วง รวมกันสูญเงินนับแสน

ผู้เสียหายร้อง ‘อิศรา’ เพิ่ม เล่นแชร์ผ่านแอปฯ ไลน์ ถูกเชิดเงินหนี คราวนี้ล้ม 50 วง พร้อมกันวันเดียว ก่อนบล็อกไลน์ หายเข้ากลีบเมฆ ยอมรับทำอะไรไม่ได้ เหตุ ตร.ไม่ติดตาม เผยปัจจุบันเปลี่ยนโปรไฟล์ใหม่เป็น ขรก.หลอกคนต่อ

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวผู้เสียหายรายหนึ่งอ้างว่า ถูก น.ส.บี (นามสมมติ) โกงเงินมูลค่า 90,000 บาท จากการลงหุ้นเล่นแชร์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และเชื่อว่าการตั้งวงแชร์ทำเป็นขบวนการ ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า ไม่มีเจตนาโกง แต่สาเหตุไม่มีเงินจ่ายคืนนั้น เนื่องจากโดนวงแชร์อื่นที่นำเงินทั้งหมดลงหุ้นโกงอีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่หลบหนีและจะหาเงินมาชดใช้โดยเร็ว (อ่านประกอบ:หลอกให้ย่ามใจ! เหยื่อร้อง ‘อิศรา’ เล่นแชร์ผ่านแอปฯ ไลน์ โดนเชิดเงินหนี)

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้เสียหายอีกรายหนึ่งร้องเรียนเพิ่มเติม แต่คราวนี้เป็นกลุ่มใหม่ ซึ่งอ้างว่า ชื่อกลุ่มทราย โดยเป็นวงแชร์ระยะสั้น จบในเวลา 1 สัปดาห์ มีผู้ลงหุ้นประมาณ 50 คน ช่วงแรกจะให้หน้าม้า 3 คน ได้รับเงินมือที่ 1-3 จากเจ้าของวงแชร์ นำไปหมุนและส่งเงินกลับคืน แต่เมื่อทั้ง 3 คนได้รับเงินแล้วก็จะบล็อกไลน์หายไป เหมือนวางแผนไว้แล้ว เมื่อทุกคนโดนโกงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ผู้เสียหาย ยังระบุว่า วงแชร์ทราย มิได้ตั้งเพียงวงเดียว แต่ตั้งหลายเพจ แต่ละเพจมีประมาณ 50 วงแชร์ และล้มวงพร้อมกันในวันเดียวกัน นั่นคือ วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองสูญเสียเงินทั้งหมด 1.2 หมื่นบาท บางรายเสีย 1.5 หมื่นบาท แต่เมื่อรวมกันทุกคนแล้วเกิน 1 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ได้เก็บหลักฐานการโอน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของวงแชร์ แจ้งความดำเนินคดี แต่ตำรวจกลับไม่รับเรื่อง เพราะมองว่าเป็นการเล่นแชร์ แต่บางท้องที่ก็รับดำเนินคดีแล้ว

(ผู้เสียหายอ้างว่า เป็นไลน์ใหม่ของ 'ทราย' ในชุดข้าราชการ เปิดเพื่อตั้งวงเเชร์ใหม่ หลังจากเชิดเงินหนี)

“ปัจจุบันมีไลน์ของเจ้าของวงแชร์อยู่ แต่เมื่อทักไปกลับไม่ได้รับคำตอบ เขาไม่สนใจ และเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่ ซึ่งก๊อปปี้จากแหล่งต่าง ๆ เพื่อตั้งวงแชร์เหมือนเดิม โดยปัจจุบันเป็นรูปข้าราชการ แต่ยืนยันบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของวงแชร์นั้นคือตัวจริง เพราะให้น้องทำงานสำนักงานเทศบาลตรวจสอบให้แล้ว” ผู้เสียหายรายนี้ กล่าว และพบว่า ผู้หญิงคนนี้เดิมอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะย้ายมา จ.นนทบุรี พร้อมยายคนหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบบ้านเลขที่ของเธอและหน้าม้า กลับตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 1 หลัง ในพื้นที่เดียวกัน นั่นเเสดงว่า พวกเขายังหลอกคนเหมือนเดิมโดยไม่เกรงกลัวอะไร

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น ได้มีการล้มวงแชร์มาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะนั้นมีเงินลงหุ้นทั้งสิ้น 3 ล้านบาท และก็หายเข้ากลีบเมฆ ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะตำรวจไม่ยอมติดตาม และเชื่อว่า กรณีนี้ทำเป็นขบวนการ เนื่องจากเมื่อส่งรูปหน้าบัญชีธนาคารจะปิดบังสาขาไว้ ส่งเฉพาะตัวเลขบัญชีเท่านั้น และจะเปิดธนาคารเดียว คือ กสิกรไทย โดยมีการจ้างคนเปิดบัญชีให้ด้วย .