คลัง รับลูก สตง. ตั้งกก.สอบหา จนท. เอี่ยวเอื้อปย.ภาษีสรรพสามิต 'ชินคอร์ป' ยุคแม้ว

'ก.คลัง' รับลูก สตง. สั่งตั้งกก.สอบหาตัว 'จนท.' เอี่ยวเอื้อปย.ภาษีสรรพสามิต'ชินคอร์ป' ยุคแม้ว ทำรัฐเสียหาย 3.1 หมื่นล. ส่วนการทบทวนประกาศอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณา

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงต้นเดือนก.ย.2559 ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการออกกฎหมายและประกาศกระทรวงการคลังที่เกี่ยวกับการลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต ตามคำพิพากษาฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ในการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 และ พ.ศ.2546 และการออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 68)  ลงวันที่ 28 ม.ค.2546 โดยให้ลดพิกัดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพาสามิต สำหรับกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากอัตราร้อยละ 50 เหลือ ร้อยละ 10 รวมทั้ง มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นำภาษีสรรพสามิตหักออกจากค่าสัมปทาน ซึ่งเป็นการกีดกันผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายใหม่ เป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทชินคอร์ป จนเป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 31,462,511,204.72 บาท 

พร้อมขอให้มีการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ร่วมดำเนินการในกรณีดังกล่าว จนเป็นเหตุให้รัฐเกิดความเสียหายด้วยหรือไม่นั้น 

(อ่านประกอบ : สตง.จี้ คลัง ยกเลิกกม.เอื้อปย.ภาษีสรรพสามิต'ชินคอร์ป' ยุคแม้ว ทำรัฐเสียหาย 3.1 หมื่นล.)

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือแจ้งตอบผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เข้าไปร่วมดำเนินการกรณีด้วยหรือไม่ ตามที่สตง.แจ้งมาแล้ว ส่วนกรณีที่ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนการออกประกาศกระทรวงการคลังนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ ในหนังสือกระทรวงการคลัง ฉบับดังกล่าวระบุว่า สตง.ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ขอให้พิจารณาทบทวนการออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามติ (ฉบับที่ 68) ลงวันที่ 28 ม.ค.2546 และขอให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ร่วมในการดำเนินการกรณีให้มีการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพาสามิต พ.ศ.2527 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2546 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีสรรพาสามติ พ.ศ.2527 พ.ศ.2546 ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพาสามติ (ฉบับที่ 68) ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ บมจ.ทีโอที ได้รับความเสียหาย และกรณีไม่ดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรียกเลิกพระราชกำหนดทั้งสองฉบับ ประกาศกระทรวงการคลัง และมติรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเหตุให้พระราชกำหนดทั้งสองฉบับ ประกาศกระทรวงการคลัง และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวยังมีผลใช้บังคับ

และหากผลการสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังร่วมกันดำเนินการกรณีให้มีการตราพระราชกำหนดทั้งสอบฉบับ ประกาศกระทรวงการคลัง และมติคณะรัฐมนตรี เป็นเหตุให้รัฐเกิดความเสียหาย หรือกรณีไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ขอให้ดำเนินการทางวินัยทางแพ่งและทางอาญาต่อไปด้วย