คุก6เดือน‘ผจก.-บ.ซีท๊อปฯ’คดีค้าน้ำมัน 'หนีประกัน'ศาลออกหมายจับ
ศาลจังหวัดชลบุรี พิพากษา ‘บ.ซีท๊อปฯ’ ผู้ค้าน้ำมัน สั่งปรับภาษี 5 เท่ากว่าร้อยล้าน เบ็ดเสร็จ 149.9 ล. ส่วน ‘กก.ผจก.’ โดนจำคุก 6 เดือน ‘พ.ต.ท.’ เผยทิ้งอุทธรณ์ ไม่จ่ายค่าปรับ อยู่ระหว่างหลบหนี
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงมติชี้มูลความผิด พ.ต.อ.เลิศชาย ถิ่นรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ กองบังคับการตำรวจน้ำ และ พ.ต.ท.พิเภก ชูวา กรณีกล่าวหาเรียกรับเงินจากผู้ประกอบกิจการผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อช่วยเหลือไม่ดำเนินคดี และอายัดสินค้าโดยมิชอบ (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ฟัน "รองผบก.ตำรวจน้ำ" ผิดวินัยร้ายแรง! เรียกเงินเอกชนแลกช่วยคดี)
ขณะที่ พ.ต.ท.พิเภก ชูวา เจ้าหน้าที่ประจำชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 สังกัดตำรวจน้ำ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ บ.91/2559 ขอให้ศาลปกครองกลางพิจาณาเพิกถอนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา (อ่านประกอบ : 'พ.ต.ท.' ฟ้องศาล ปค. ถอนมติ ป.ป.ช. คดีถูกชี้มูลเรียกเงินจับน้ำมันเถื่อน )
ล่าสุด พ.ต.ท.พิเภก ชูวา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดชลบุรี ออกหมายจับ ที่ 21/2560 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 5727/2559 หมายเลขแดงที่ 2670/2559 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ บริษัท ซีท๊อป กรีนกรุ๊ป จำกัด จำเลยที่ 1 และ นายชยันต์ กีรติภัทรกุล จำเลยที่ 2 โดยศาลพิพากษามีความผิดตาม พรบ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 มาตรา 162(2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 1 ปรับ 5 เท่าของภาษีที่ต้องเสียเป็นเงิน 62,478,000 บาท และจำเลยที่ 2 จำคุก 6 เดือน และปรับ 5 เท่าของภาษีที่ต้องเสียเช่นกัน แต่ไม่ชำระค่าปรับ ทิ้งอุทธรณ์ และอยู่ระหว่างการหลบหนี
“นายชยันต์ ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ และขอขยายระยะเวลาการชำระค่าปรับตามคำพิพากษา แต่ไม่ได้ชำระภายในกำหนด ต่อมาได้ขอขยายระยะเวลาการอุทธรณ์ และขอแก้ไขอุทธรณ์พร้อมยื่น แต่ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ฉบับใหม่ภายในกำหนด ศาลจึงมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองทิ้งอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 (นายชยันต์ฯ) ผิดสัญญาประกัน ให้ปรับเต็มตามสัญญา และไม่ชำระค่าปรับภายใน 30 วัน จึงออกหมายบังคับคดียึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยทั้งสอง เพื่อนำมาชำระค่าปรับ ตามประมลกฎหมายอาญามาตรา 29/1” พ.ต.ท.พิเภก ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลของคำพิพากษาข้างต้น ทำให้บริษัท ซีทอปฯ ต้องชำระค่าปรับกรณีผิดข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตจำนวน 2 เท่าของค่าภาษีที่ต้องเสียอีกเป็นเงิน 24,991,200 บาท รวมแล้วบริษัทฯ และนายชยันต์ กรรมการผู้จัดการ ต้องเสียค่าปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 149,947,200 บาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.พิเภก ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่ออธิบดีกรมสรรพสามิต ให้เปรียบเทียบปรับ บริษัท ซีทอปฯ และนายชยันต์ กรณีผิดข้อตกลงกับกรมฯ แต่กรมฯ ไม่ดำเนินการ จึงได้ฟ้องกรมฯ ในคดีหมายเลขดำที่ 1551/2556 ให้กรมฯ เปรียบเทียบปรับทางแพ่งกับ บริษัท ซีทอปฯ และกรรมการผู้จัดการในปริมาณสารละลายไฮโดรคาร์บอน จำนวน 3,471,000 ลิตร ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา