ตลท.สั่ง‘เอคิว’แจงปมเพิ่มทุน 1.5 แสนล. ใช้หนี้คดีกรุงไทย-ยันถ้าไม่ทำล้มละลาย

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 01 กรกฎาคม 2560 เวลา 14:04 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) | คดีกรุงไทยปล่อยกู้ | ตลท.

ตลท. สั่ง ‘เอคิว’ แจงปมเพิ่มทุน 1.5 แสนล้าน เอาไปใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล้าน หลังพบนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นปลายเดือน มิ.ย. 2560 รับที่ดินยังขายไม่ได้ ติดจำนองกับแบงก์ หากไม่เพิ่มทุนแล้วถูกบังคับคดียึดทรัพย์ อาจทำล้มละลายได้

PIC aqaq 1 7 60 1

จากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ร.ท.สุชาย เชาว์วิลัย อดีตกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมบรรดาผู้บริหาร คณะกรรมการสินเชื่อ เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือกฤษดามหานคร (ปัจจุบันคือบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)) กรณีปล่อยสินเชื่อธนาคารกรุงไทยโดยทุจริต มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท และศาลมีคำสั่งให้ชดใช้เงินดังกล่าวนั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิม บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด ชี้แจงความเห็นคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เกี่ยวกับการทางเลือกเพิ่มทุนเกือบ 1.5 แสนล้านบาท ประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับ และการชำระหนี้ตามคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วงเงิน 10,004 ล้านบาท สรุปได้ว่า

ตลท. ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2560 ที่ประชุมบอร์ดเอคิว มีมติให้จัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 มิ.ย. 2560 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจาก 6,337 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 153,256 ล้านบาท และกำหนดเป็นวาระให้ผู้ถือหุ้นเลือก 2 แบบ คือ แบบแรกเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ก่อนการจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) หรือแบบสอง เพิ่มทุนให้ PP ก่อนการจัดสรรให้ RO โดยวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อชำระหนี้ธนาคารตามคำพิพากษาศาลฎีกา 10,004 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีเอคิวยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนเพื่อประกอบการตัดสินใจอนุมัติการเข้าทำรายการ ตลท. ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ ข้อกำหนดของ ตลท. กำหนดให้บริษัทเปิดเผยความเห็นของบอร์ดเมื่อมีการเพิ่มทุน แต่กรณีของบริษัทเป็นการให้ข้อมูลข้อดี-ข้อเสียของการเพิ่มทุนในแต่ละแบบ จึงขอให้เอคิวเปิดเผยความเห็นของบอร์ดว่า มีมติเห็นชอบการเพิ่มทุนแบบใด พร้อมเหตุผลสนับสนุน

ส่วนกรณีที่เอคิวจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนส่วนใหญ่ไปชำระหนี้ธนาคาร แต่จากคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ให้เอคิวร่วมกับจำเลยรายอื่นคืนเงินให้กับธนาคาร ประกอบกับที่ประชุมบอร์ดเอคิวอนุมัติให้เข้าทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งปันผลประโยชน์เพื่อให้เอคิวเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการประนอมหนี้ รวมถึงการบริหารจัดการขายที่ดินที่เป็นหลักประกัน จึงขอให้ชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า

1.ความเห็นของบอร์ดถึงประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจากการเพิ่มทุน

2.ภาระหนี้ในส่วนของเอคิวที่ต้องรับผิดชอบตามคำสั่งศาลฎีกาฯ ในฐานะจำเลยร่วม ภาระหนี้ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อฐานการเงินและผลการดำเนินงานของเอคิวหรือไม่

3.ขั้นตอนและความคืบหน้าการขายที่ดินเพื่อนำมาชดใช้ตามคำพิพากษาดังกล่าว (อ่านข้อสังเกต ตลท. ฉบับเต็ม ที่นี่)

ต่อมา เอคิว ได้ทำคำชี้แจงต่อ ตลท. หลายครั้ง (ส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขถ้อยคำเพิ่มเติม ซึ่ง ตลท. ไม่ได้ให้ชี้แจงเพิ่มอีก) โดยคำชี้แจงล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา สรุปได้ว่า กรณีการเพิ่มทุนเพื่อไปชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯนั้น สรุปได้ว่า เอคิวได้รับหนังสือจากธนาคารลงวันที่ 5 เม.ย. 2560 แจ้งให้ชำระหนี้ภายในเดือน มิ.ย. 2560 มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ต่อมาผู้บริหารเอคิวเข้าพบกับผู้บริหารธนาคารเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 เพื่อชี้แจงให้ทราบว่า เอคิวอยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มทุน หากไม่มีข้อขัดข้องใด ๆ เชื่อว่าจะสามารถระดมได้เพียงพอที่จะชำระหนี้แก่ธนาคาร โดยชั้นนี้ธนาคารรับทราบและสนับสนุนการเพิ่มทุนของเอคิว

ทั้งนี้เอคิวจำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อนำเงินมาแก้ไขปัญหาการชำระค่าเสียหาย 10,004 ล้านบาท ตามคำพิพากษา แม้ว่าหนี้ดังกล่าวเอคิวมีฐานะเป็นหนี้ร่วมและเป็นมูลหนี้เดียวกับที่ธนาคารฟ้องคดีแพ่งต่อบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี่ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (บริษัทลูกเอคิว) มูลหนี้รวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่มีที่ดิน 4,300 ไร่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โกลเด้นฯ เป็นประกัน ในส่วนนี้ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา อยู่ระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ทำให้ที่ดินส่วนนี้ติดหลักประกันคดีแพ่งอยู่ ส่วนการบังคับคดีธนาคารเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกบังคับจากหลักประกันที่ดินติดจำนองนั้นก่อน หรือบังคับจากจำเลยในคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ

หากเอคิวไม่ติดต่อธนาคารและตกลงที่จะชำระหนี้ ธนาคารมีโอกาสเลือกบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ก่อนที่จะบังคับจากหลักประกันที่อยู่กับธนาคาร เนื่องจากปัจจุบันคดีแพ่งยังไม่ได้ตัดสิน ซึ่งโดยข้อกฎหมายแล้ว ธนาคารมีสิทธิที่จะบังคับจากทรัพย์ของบริษัทได้ตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาแล้ว แต่เนื่องจากจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบุคคลในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงกรุณาไม่ดำเนินการกับทรัพย์สินใด ๆ ของเอคิวจนถึงปัจจุบัน แต่หากเอคิวยังไม่ดำเนินการใด ๆ ภายในเดือน มิ.ย. 2560 ธนาคารจะดำเนินการตามกฎหมาย อาจถูกบังคับยึดทรัพย์ได้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลเสียร้ายแรงแก่เอคิวเป็นอย่างมาก และแม้ว่าจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมดขายทอดตลาดแล้ว ก็ยังไม่ได้จำนวนเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ เนื่องจากทรัพย์สินของเอคิว เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2559 มีจำนวน 5,973.68 ล้านบาท แม้ถูกบังคับขายก็ไม่เพียงพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯได้ และย่อมต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการหรือล้มละลาย ย่อมทำให้ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเสียหาย

แต่ถ้าเอคิวสามารถเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้ได้ เอคิวและธนาคารอาจร่วมกันเจรจาไกล่เกลี่ยรวมหนี้คดีแพ่งและคดีอาญา อาจทำให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรือธนาคารจะพิจารณาให้เอคิววางแผนการชำระ และอาจอนุญาตให้นำที่ดินหลักประกันออกขายได้ อันช่วยให้มูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นดีขึ้นตามลำดับ

ส่วนการขายที่ดินปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า เอคิวยังไม่สามารถตกลงกับผู้ซื้อที่ดินรายใดได้ เนื่องจากธนาคารในฐานะเจ้าหนี้จำนองเท่านั้นที่จะเป็นผู้มีสิทธิกำหนดเงื่อนไขของการขายที่ดินดังกล่าว ปัจจุบันเอคิวอยู่ระหว่างการหารือแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้กับธนาคาร โดยยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งธนาคารกำหนดเงื่อนไขว่า ต้องการความชัดเจนในเรื่องแหล่งเงินทุนที่เพียงพอในการชำระค่าเสียหายก่อนที่จะเสนอเข้าบอร์ดของธนาคาร ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เอคิวจำเป็นต้องเพิ่มทุนในคราวนี้ (อ่านคำชี้แจงฉบับเต็ม ที่นี่)

อ่านประกอบ :

‘กรุงไทย’ขู่‘เอคิวฯ’ถ้าไม่วางเงินประกันพันล.คดีแพ่ง ชง ป.ป.ช.-สตง.-ขู่บังคับคดี

แค่ขายที่ดินปัญหาก็จบ! ‘เอคิว’เร่งติดต่อนักลงทุนซื้อ-ใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.

ชำแหละสถานะ‘เอคิว’ ความพยายามผู้บริหารใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.?

ตลท.ห้าม‘เอคิว’ลูกหนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.ซื้อขายหลักทรัพย์-ยังขายที่ดินใช้หนี้ไม่ได้

ขาดทุนล่าสุด 2.2 พันล.! ล้วงเหตุผล ‘เอคิว’ลูกหนี้กรุงไทยหมื่นล.ทำไมยังไม่ชดใช้?

เปิดรายงานผู้สอบบัญชี! จับท่าทีผู้บริหาร‘เอคิว’ใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.

พิพากษาจำคุก “ร.ท.สุชาย-วิโรจน์” 18 ปี ทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย ชดใช้หมื่นล.

จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”

ดีเอสไอนัดถกจ่อสรุปคนพันคดีฟอกเงินกรุงไทย-‘โอ๊ค-เลขาฯพจมาน’ แจงแล้ว

‘พานทองแท้’ให้ถ้อยคำคดีฟอกเงินกรุงไทยแล้ว-‘กาญจนาภา’ขอเลื่อน

‘แม่-สามีกาญจนาภา’รับได้เงิน‘เสี่ยวิชัย’จริง! ดีเอสไอเรียก‘โอ๊ค’แจง 4 มี.ค.