- Home
- Isranews
- ข่าว
- ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรฯยันไร้ปัญหาพระต่างชาติลักลอบอยู่ไทย-บัตรปชช.พระเสร็จ30ก.ย.นี้
ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรฯยันไร้ปัญหาพระต่างชาติลักลอบอยู่ไทย-บัตรปชช.พระเสร็จ30ก.ย.นี้
'สิปป์บวร แก้วงาม' ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรฯ ยันปัญหาพระต่างชาติ แอบอ้างลงทะเบียนเรียนต่อแต่อยู่ยาวหรือใช้เป็นฐานเดินทางต่อประเทศที่ 3 ปัจจุบันเกิดยาก เหตุไม่มีลงทะเบียนแล้ว แถม 2 มหาวิทยาลัยสงฆ์ระเบียบรัดกุมเข้มงวด เผยนโยบายจัดทำสมาร์ทการ์ดขึ้นทะเบียนพระทั่วปท. แล้วเสร็จ 30 ก.ย. นี้
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหากรณีพระภิกษุสงฆ์ต่างชาติทำเรื่องเดินทางเข้ามาศึกษาต่อมหาวิทยาลัยสงฆ์ในประเทศไทย แต่มิได้เข้าศึกษาต่อจริงและใช้โอกาสนี้ในการพำนักในประเทศไทยถาวร หรือเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ตามข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำฐานข้อมูล พระภิกษุสงฆ์ต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเพื่อศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงฆ์ในประเทศไทย จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) นั้น(อ่านประกอบ : พศ.จี้2มหาลัยสงฆ์ เปิดข้อมูลพระต่างด้าวลงทะเบียนเรียน สกัดช่องโหว่ทุจริตลักลอบอยู่ไทย)
เมื่อเร็วๆ นี้ นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ปัญหาพระต่างชาติใช้ช่องทางการเข้ามาพำนักในประเทศไทยผ่านการลงทะเบียนการศึกษาดังกล่าวนั้น ในอดีตอาจจะมีปัญหานี้ได้ถ้ามีนักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่ศูนย์วิทยบริการ หรือศูนย์การเรียนที่เป็นของ มจร หรือ มมร. เช่น อาจจะไปเปิดห้องเรียนในต่างจังหวัดที่อยู่ใกล้ชายแดน เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ต่างแดนเข้ามาเรียนด้วย อาจเป็นช่องทางให้เกิดปัญหาเหล่านี้ซึ่งเป็นไปได้ในอดีต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพระต่างชาติที่เข้ามาเรียนตามหลักสูตรนั้นไม่มี แต่ถ้าไปแอบอ้างอย่างอื่นตนไม่ทราบ และสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งมีระเบียบในการรับนักศึกษาค่อนข้างที่จะรัดกุม
นายสิปป์บวร ยังระบุด้วยว่า ในด้านการเรียนการสอนของพระต่างชาติ จะมีอาจารย์โฮมรูม อาจารย์ที่ปรึกษาคอยดูพฤติกรรมของนักศึกษา ในกรณีที่ไม่มาเรียนต้องตามไปดูที่วัดที่นักศึกษาพำนักอยู่ ว่าเหตุใดนักศึกษาถึงไม่มาเรียน ในส่วนของวัดที่พระเหล่านี้มาพำนัก เจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครองผู้มีอำนาจจะต้องดูแลสอดส่องพฤติกรรมให้เป็นไปตามแนวทางของคณะสงฆ์ไทย และเมื่อหนังสือเดินทางจะหมดอายุลง มีหลักเกณฑ์กำหนด จะต้องไปยื่นต่ออายุหนังสือเดินทางต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในการที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ และทางจังหวัดอำนวยความสะดวกในการต่ออายุหนังสือเดินทางหรือวีซ่าไปยื่นต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยสาระสำคัญในหนังสือที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดออกให้ต้องได้รับคำรับรองจากเจ้าคณะผู้ปกครอง มิเช่นนั้นทางจังหวัดก็จะไม่ดำเนินการในเรื่องที่จะต่อหนังสือเดินทางหรือวีซ่าให้
เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทย เคยแจ้งต่อที่ประชุม ครม. ว่า ปัจจุบัน พศ. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลพระภิกษุสงฆ์ต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเพื่อศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสงฆ์ในประเทศไทย โดยอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของ มจร และ มมร. อยู่
นายสิปป์บวร กล่าวว่า ทาง พศ. มีมติมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการจัดทำฐานข้อมูลของพระภิกษุสงฆ์ที่พำนักพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดทั้งพระไทยและพระต่างชาติ จะทำข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นปัจจุบัน ขณะนี้กำลังขับเคลื่อนในการทำฐานข้อมูลอย่างละเอียด ทางเจ้าคณะผู้ปกครองแต่ละระดับกำลังสำรวจข้อมูล โดยดำเนินการพร้อมกันทั้งหมดทุกภาคของคณะสงฆ์ เมื่อจัดทำแล้วจะประสานกับกระทรวงมหาดไทย ให้พระได้จัดทำบัตรประชาชนพระหรือสมาร์ทการ์ดพระ เชื่อมโยงข้อมูลสงฆ์กับข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ผ่านเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เป็นฐานข้อมูล วางเป้าหมายไว้วันที่ 30 ก.ย. 2561 จะแล้วเสร็จ (ดูเอกสารประกอบ)
“ในกรณีพระต่างชาติต้องดูตามหนังสือเดินทาง และให้เจ้าคณะผู้ปกครอง เจ้าอาวาสที่พระเหล่านั้นสังกัดอยู่ ทำหนังสือรับรอง ทำบัตร ทำข้อมูลของสงฆ์ ดูตามข้อมูลกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยเป็นเกณฑ์ และพระต่างชาติที่เข้ามาเรียนในประเทศไทยมีวัดสังกัดทั้งหมด เราไม่จำเป็นต้องเอาข้อมูลกับทางมหาวิทยาลัย เราเอาข้อมูลจากวัดที่สังกัดอยู่ เพราะมันจะต้องมีการรับรองข้อมูลจาก เจ้าคณะผู้ปกครอง หรือเจ้าอาวาสวัด” นายสิปป์บวร แก้วงามระบุ