- Home
- Isranews
- ข่าว
- ลงโทษก่อนผลชี้มูลร้ายแรงออก! ปากเกร็ดยันไม่แก้มติป.ป.ช.ช่วยอดีตผอ.สำนักการช่างเชียงใหม่
ลงโทษก่อนผลชี้มูลร้ายแรงออก! ปากเกร็ดยันไม่แก้มติป.ป.ช.ช่วยอดีตผอ.สำนักการช่างเชียงใหม่
ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด ยัน อิศรา ไม่มีการแก้มติลดโทษช่วยเหลือ อดีตผอ.สำนักการช่างแต่อย่างใด เนื่องจากออกคำสั่งตามรายงานการสอบสวน สตง. ก่อนผลชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงป.ป.ช.จะออกมา เผยเหตุลงโทษได้เพียงเล็กน้อยแค่หักเงินเดือน 5% 2 เดือน พยานหลักฐานไม่เพียงพอ พิษณุโลกต้นสังกัดเดิมไม่ส่งข้อมูลให้ ส่วนอบจ.เชียงใหม่ ดำเนินการอย่างไรต่อไม่ทราบเรื่องด้วย
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ได้ลงนามในหนังสือลงวันที่ 27 ต.ค.2560 แจ้งถึง นายกองค์การบริหารสวนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เพื่อขอให้พิจารณาลงโทษทางวินัย นายสมศักดิ์ ลาภอดิศร ผู้ถูกกล่าวหา ในฐานะเป็นคณะกรรมการกำหนดราคากลางโครงการงานจ้างก่อสร้างปรับปรุงตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ระยะที่ 3 พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝังตะวันตก ตามสัญญาจ้างเลขที่ 16/2546 ลงวันที่ 20 มี.ค.2546 ของเทศบาลนครพิษณุโลก หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง และแจ้งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารประกอบให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย ตามสำเนาหนังสือ ป.ป.ช.ลงวันที่ 10 ต.ค.2560
ขณะที่ในปัจจุบัน นายสมศักดิ์ เกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2560 ที่ผ่านมา โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุ คือ ผู้อำนวยการสำนักการช่าง อบจ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา อบจ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศว่าจ้าง นายสมศักดิ์ ให้ทำงานต่อในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านวิศวกรรมโยธา และเข้ามาทำงานที่อบจ.เชียงใหม่ตามปกติ
ล่าสุด นายสุทร บุญสิริชูโต ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการสอบสวนวินัย นายสมศักดิ์ ลาภอดิศรกับสำนักข่าวอิศรา ว่า เทศบาลนครปากเกร็ด ไม่ได้มีการแก้มติการชี้มูลความผิดทางวินัยของป.ป.ช หรือแก้มติเพื่อช่วยเหลือนายสมศักดิ์แต่อย่างใด เนื่องจากการลงโทษของเทศบาลนครปากเกร็ดเกิดขึ้นก่อนที่ ป.ป.ช. จะมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรงออกมา ส่วนเหตุผลที่ลงโทษนายสมศักดิ์ ได้เท่านั้น เป็นเพราะพยานหลักฐานในการสอบสวนไม่เพียงพอ เนื่องจากทางเทศบาลนครพิษณุโลกไม่ส่งข้อมูลมาให้ แม้ว่าจะมีการส่งหนังสือทวงถาม พร้อมขยายเวลาสอบสวนไปอีก 30 วันแล้วก็ตาม
นายสุทร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การออกคำสั่งลงโทษนายสมศักดิ์ ของเทศบาลนครปากเกร็ด นั้น เริ่มต้นจากได้รับแจ้งเรื่องมาจากเทศบาลนครพิษณุโลกให้ทำการสอบสวนนายสมศักดิ์ ตามการชี้มูลความผิดของ สตง. ในช่วงประมาณปี 2558
"เมื่อเราได้รับเรื่องมาแล้ว ก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายสมศักดิ์ โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้มีมติให้ขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจาก สตง.ภาค 10 และเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งทางสตง.ภาค 10 ได้ส่งเอกสารข้อมูลการตรวจสอบให้ แต่ทางเทศบาลนครพิษณุโลกไม่ได้ส่งมาให้ ซึ่งก็มีการทวงถามข้อมูลไปหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ส่งมา จนกระทั่งในวันที่ 22 ธ.ค. 2558 คณะกรรมการสอบสวน จึงได้มีมติในที่ประชุมลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง นายสมศักดิ์ โดยหักเงินเดือน 5% เป็นระยะเวลา 2 เดือน ออกคำสั่งลงโทษ ตามหนังสือ ที่ 1517/2558 ลงวันที่ 28 ธ.ค. 2558 และนายสมศักดิ์ ลาภอดิศร ก็เซ็นชื่อรับทราบคำสั่งนี้แล้วด้วย และก็มีการส่งคำสั่งลงโทษทางวินัยนายสมศักดิ์ ไปให้ อบจ.เชียงใหม่รับทราบด้วย เนื่องจาก นายสมศักดิ์ ย้ายไปที่ อบจ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2559"
นายสุทร ชี้แจงต่อว่า ส่วนการชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงของ ป.ป.ช. นั้น อยู่ในช่วงกลางเดือนต.ค.2560 หลังจากที่เทศบาลนครปาดเกร็ดได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนและออกคำสั่งลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง (วันที่ 28 ธ.ค. 2558) ไปแล้ว ส่วนการดำเนินการของอบจ.เชียงใหม่หลังจากนั้น เป็นอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่อบจ.เชียงใหม่ เคยส่งหนังสือ ที่ ชม 51029.2/3 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2559 มาที่เทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อขอรายงานเอกสารหลักฐานการตรวจสอบ ซึ่งเทศบาลนครปากเกร็ดได้ส่งหนังสือตอบกลับ ชี้แจงว่า ไม่มีเอกสารดังกล่าว ให้ไปขอที่เทศบาลนครพิษณุโลกอีกครั้ง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ได้ลงนามในหนังสือลงวันที่ 27 ต.ค.2560 แจ้งถึง นายกองค์การบริหารสวนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เพื่อให้ลงโทษทางวินัยนายสมศักดิ์ ที่ถูกป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ นายสมศักดิ์ ย้ายไปที่ อบจ.เชียงใหม่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2559 ตามขั้นตอนกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา และส่งเรื่องไปให้หน่วยงานต้นสังกัดพิจารณาโทษ หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องพิจารณาลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ตามมติป.ป.ช. ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนซ้ำ และแก้ไขเปลี่ยนแปลงมติชี้มูลของ ป.ป.ช. ได้ กรอบระยะเวลาดำเนินการประมาณ 45 วัน นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็เคยมีคำวินิจฉัยทางข้อกฎหมายชี้ชัดว่า ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดวินัยผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ถูกกล่าวหา ไม่สามารถที่จะตั้งกรรมการสอบใหม่ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกโทษตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้วไม่ได้ แม้ในภายหลังที่คดีถูกส่งเข้าไปพิจารณาในชั้นศาลจะมีการยกฟ้องก็ตาม เนื่องจากกฏหมาย ป.ป.ช.ถือเป็นกรณีเฉพาะ
อย่างไรก็ดี นายสมศักดิ์ ลาภอดิศร ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศราทางโทรศัพท์ ว่า เกี่ยวกับคดีที่ตนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงนั้น เป็นผลมาจากการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ชี้มูลความผิดเพราะเข้าใจผิดเรื่องราคากลางในการดำเนินงานว่ามีปัญหา แต่ก่อนหน้าที่ ป.ป.ช. จะส่งเรื่องแจ้งผลการชี้มูลความผิดมานั้น ตนได้ย้ายออกมาจากเทศบาลนครพิษณุโลก ไปอยู่เทศบาลนครปากเกร็ด และย้ายต่อมาอยู่ที่อบจ.เชียงใหม่ จึงไม่มีโอกาสไปชี้แจงกับทาง ป.ป.ช.
โดยในส่วนการดำเนินงานของเทศบาลนครปากเกร็ด นั้น ได้มีการตั้งกรรมการลงโทษตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อปี 2558 และตนได้เข้าไปชี้แจง ซึ่งกรรมการก็เห็นว่า ไม่ได้มีความผิดร้ายแรง ตามที่เห็นว่าผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างตามมติ ครม. และเมื่อตนย้ายไปที่ อบจ.เชียงใหม่ เทศบาลนครปากเกร็ด จึงส่งมติลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงไปที่ อบจ.เชียงใหม่ และกรรมการ อบจ.เชียงใหม่ ก็เรียกตนเข้าชี้แจง และมีมติยืนการลงโทษวินัยไม่ร้ายแรงตามเทศบาลนครปากเกร็ด หักเงินเดือน 15% เพราะไม่ทำตามติ ครม.
ส่วนประเด็นที่ได้รับการว่าจ้างจากอบจ.เชียงใหม่ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านวิศวกรรมโยธา หลังเกษียณอายุราชการนั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า เป็นเพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนในการรับตำแหน่งนี้
อ่านประกอบ :
ขมวด 2 ปมร้อน อิศราลุยตรวจอบจ.เชียงใหม่ กับข้อมูลลับกลุ่มดิเอเวนเจอร์ส&จุดนัดพบร้านกาแฟ?
พบ อบจ.เชียงใหม่ จ้างอดีตผอ.สำนักการช่างทำงานต่อ ทั้งที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง
โชว์หลักฐานอบจ.เชียงใหม่จ้างอดีตผอ.สำนักการช่างทำงานต่อ-เมินป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง?
ปากเกร็ดแก้มติลดโทษป.ป.ช.ให้! อดีตผอ.สำนักการช่าง แจงอบจ.เชียงใหม่ สั่งหักเงินด.15%แล้ว
ผู้ว่าฯประจักษ์ ข้องใจอดีตผอ.สำนักการช่าง อ้างสตง.เข้าใจผิดชี้มูลราคากลาง-สั่งจนท.สอบด่วน
พบบริษัทป้ายแดง ตั้งใหม่แค่ 6 เดือน คว้าสัญญาขายชุดซ่อมถนนลาดยาง อบจ.เชียงใหม่ 64ล.(1)
แจ้งวัตถุประสงค์ทำธุรกิจเพิ่มก่อนซื้อซอง19วัน! ข้อมูลใหม่บ.ป้ายแดงคู่สัญญาอบจ.เชียงใหม่64ล.(2)
สาวลึก!อบจ.เชียงใหม่ซื้อชุดซ่อมถนนลาดยาง2ครั้งติด-บ.กลุ่มเดิมคว้าอีก ยอดพุ่ง128ล.(3)