รับโอนมา17แห่งไม่ได้ใช้ปย.เพียบ! สตง.ชี้ปัญหาสถานีสูบน้ำไฟฟ้า อปท.สุราษฎร์ฯ 111 ล.

เปิดผลสอบ สตง. ชี้งานบริหารจัดการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า อปท.สุราษฎร์ธานี วงเงินกว่า 111 ล้าน หลังรับถ่ายโอนภารกิจจากกรมชลประทาน  17 แห่ง ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพียบ แถมสภาพอุปกรณ์เครื่องมือส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายหมดแล้ว ชี้สาเหตุบางพื้นที่ไม่มีความประสงค์ดำเนินการแล้ว ชงผู้ว่าฯ หาทางแก้ไขปัญหาด่วน

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยแพร่รายงานผลตรวจสอบการบริหารจัดการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ภายหลังจากที่ กรมชลประทาน ได้ถ่ายโอนภารกิจงานสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 17 สถานี (ข้อมูลจากโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ) รวมงบประมาณที่ใช้ในการจัดตั้งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว เป็นจำนวนเงินกว่า 111 ล้านบาท จากการสำรวจพบว่า สถานีบางแห่งไม่เคยได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด และจากการสังเกตการณ์สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2560 พบว่า มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบันเพียงจำนวน 9 สถานีเท่านั้นหรือคิดเป็นร้อยละ 52.94 ของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ได้ถ่ายโอนทั้งหมด

ส่วนสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่เหลืออีกจำนวน 8 สถานี คิดเป็นร้อยละ 47.06 หรือประมาณครึ่งหนึ่งของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ได้ถ่ายโอนทั้งหมดไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่แพสูบน้ำมอเตอร์สูบน้ำ อาคารควบคุมระบบไฟฟ้า บ้านพักพนักงานสูบน้ำ และคลองส่งน้ำดาดคอนกรีต ฯลฯ มีสภาพชำรุดเสียหายโดยสิ้นเชิงใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

สตง. ระบุว่า จากการสอบถามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งรับผิดชอบสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทั้ง 8 แห่ง พบว่า ได้รับการถ่ายโอนมาจากกรมชลประทานเมื่อปีงบประมาณ 2546 ซึ่งสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง แต่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจำนวน 7 สถานีหมดความจำเป็นต้องใช้งานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีความประสงค์ที่จะดำเนินการสถานีสูบน้ำด้วย ไฟฟ้าดังกล่าวอีกต่อไป มีเพียง 1 สถานีเท่านั้น ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์

สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ยังมีการใช้งานทั้ง 9 สถานี พบว่า ในปัจจุบันประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันกับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ได้หยุดดำเนินการไปแล้ว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการบรรลุถึงผลสำเร็จของการถ่ายโอนภารกิจหรือมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าวได้อย่างคุ้มค่าซึ่งอาจนำไปสู่การหยุดดำเนินการได้ในอนาคต

นอกจากนี้ ยังพบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้รับผิดชอบสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ยังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันบางแห่งขาดการเอาใจใส่ ดูแล บำรุงรักษาระบบส่งน้ำอย่างเหมาะสมตามแนวทางของกรมชลประทานทำให้การส่งน้ำไม่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามภารกิจงานบำรุงรักษาคลองส่งน้ำดาดคอนกรีตทั้งสายหลักและสายซอยที่ได้รับการถ่ายโอนจากกรมชลประทานตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งพื้นที่โครงการสถานีสูบน้ำบางแห่งทับซ้อนกับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง เป็นต้น

เบื้องต้น สตง. ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับจังหวัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาการดำเนินงานที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบด้วย