2 หลาน‘เสนาะ’รอด! กกต.ตีตกปมกล่าวหาใช้ผู้ช่วยหาเสียงเกิน-ควักเงินซื้อเสียง

หลาน ‘เสนาะ เทียนทอง’ 2 รายรอดหมด! กกต.ตีตกปม ‘ฐานิสร์’ ใช้ผู้ช่วยหาเสียงเกินกำหนด ‘สนธิเดช’ ถูกกล่าวหาแจกเงินซื้อเสียง แต่พยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิด

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยที่ 186/2562 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า นายฐานิสร์ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายสนธิเดช เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สระแก้ว พรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) โดยทั้ง 2 รายเป็นหลานของนายเสนาะ เทียนทอง อดีตนักการเมืองชื่อดัง พรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ข้อ 15 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1)

โดยรายนายฐานิสร์ ถูกกล่าวหาว่า ไปหาเสียงเลือกตั้งที่ตลาดนัด ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และใช้บุคลากรประมาณ 100 คนถือป้ายโฆษณาหาเสียง ซึ่งเกินกว่าที่ กกต. กำหนด และกรณีไปหาเสียงเลือกตั้งที่ตลาดนักบ้านโคกอีหลง ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ใช้บุคคลประมาณ 100 คน ถือป้ายโฆษณาหาเสียง ซึ่งเกินกว่าที่ กกต. กำหนด จากการสอบปากคำพยานของนายฐานิสร์ และพยานที่ประกอบอยู่ในเหตุการณ์ ต่างให้ถ้อยคำตรงกันว่า บุคคลจำนวนประมาณ 100 คนดังกล่าว เป็นประชาชนที่มาให้กำลังใจ และรับเอกสารหาเสียงจากทีมงานของนายฐานิสร์ แต่ไม่มีพฤติการณ์ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่านายฐานิสร์กระทำการตามข้อกล่าวหา

ส่วนรายนายสนธิเดช ถูกกล่าวหาว่า จัดการปราศรัยหาเสียงบริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองสระแก้ว และให้เงินแก่ผู้มาฟังการปราศรัยคนละ 200 บาท เจ้าของรถยนต์ที่รับส่งผู้มาฟังการปราศรัยคันละ 500 บาท และประธานชุมชนคนละ 3,000 บาท แม้ผู้ร้องจะมีคลิปเสียงที่อ้างว่าเกี่ยวกับการให้เงินเป็นหลักฐานประกอบ แต่ผู้ร้องให้ถ้อยคำรับว่า ไม่สามารถถอดข้อความในคลิปเสียงได้ เพราะเสียงไม่ชัดเจน และจับประเด็นการพูดคุยไม่ได้ จากการสอบปากคำพยานที่เป็นประธานชุมชนต่างให้ถ้อยคำทำนองเดียวกันว่า ไม่เคยได้รับเงินจากนายสนธิเดช และไม่เคยนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปฟังการปราศรัย พยานหลักฐานจึงฟังไม่ได้ว่ากระทำตามข้อกล่าวหา

ส่วนกรณีก่อนวันเลือกตั้งประมาณ 4-5 วัน ผู้ร้องได้รับฟังจากการบอกเล่าของบุคคลไม่ทราบชื่อว่า มีกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้หัวคะแนนไปจดรายชื่อและรวบรวมบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อเตรียมแจกเงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สระแก้ว แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใด พร้อมมอบเอกสารรายชื่อ 68 ราย ระบุถึงรายชื่อเก็บบัตรประชาชน อย่างไรก็ดีจากการสอบปากคำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ม.4 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ให้ถ้อยคำทำนองเดียวกันว่า ไม่มีการช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ใดในการจดรายชื่อและบัตรประชาชนเพื่อแจกเงินซื้อเสียง พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำการตามข้อกล่าวหา จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม : https://www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20191203150854.pdf

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/