ปลอมเอกสารลักทรัพย์! ตร.ส่งฟ้องอดีตจนท.ส.นักข่าวศก.ยักยอกเงิน-นัดฟังคำสั่งคดี 24 ธ.ค.นี้

เผยความคืบหน้าคดีอดีตจนท.สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ยักยอกเงินกว่าสิบล. ล่าสุด ตร.ส่งสำนวนสอบสวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่ออัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นทางการแล้ว นัดฟังคำสั่ง 24 ธ.ค.นี้  ระบุฐานความผิด ปลอม-ใช้เอกสารปลอม-ลักทรัพย์นายจ้าง มีโทษตามประมวลกม.อาญา มาตรา 142 จำคุกสามปี ปรับหกหมื่น 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้ากรณีสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ แจ้งความดำเนินคดีอดีตเจ้าหน้าที่สมาคมฯ รายหนึ่ง ที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านบัญชีและเอกสารเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ยักยอกเงินในบัญชีฝากธนาคารสมาคมไปใช้จ่ายส่วนตัว นับตั้งแต่ช่วงปี 2559 เป็นต้นมา เป็นจำนวนเงินรวมนับสิบล้านบาท ในช่วงเดือน มี.ค.2562 ว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้เพื่อสั่งฟ้องผู้ต้องหา ต่อ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นทางการแล้ว โดยอัยการฯ นัดฟังคำสั่งคดี วันที่ 24 ธ.ค.2562 นี้ 

ระบุฐานความผิด ปลอมและใช้เอกสารปลอมฯ และลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 ที่กำหนดไว้ "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน หรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2562 ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง แนวทางการบริหาร การเพิ่มมาตรการกำกับดูแล การเบิกจ่าย ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคม และความคืบหน้าปัญหาที่เกิดขึ้นกับสมาคมฯ ภายหลังเกิดกรณีการสอบสวนเจ้าหน้าที่สมาคมฯ รายหนึ่ง ที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านบัญชีและเอกสารเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ยักยอกเงินในบัญชีฝากธนาคารสมาคมไปใช้จ่ายส่วนตัวดังกล่าว

โดยมาตรการกำกับดูแล สมาคมฯ ระบุว่า ให้ความสำคัญกับแนวทางการเพิ่มมาตรการกำกับดูแล การเบิกจ่ายในกิจกรรมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ป้องกันปัญหาและข้อบกพร่องต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นได้อีกในอนาคต จึงมีแนวทางการบริหารดังต่อไปนี้

1.ดำเนินการว่าจ้าง นางสาวดวงพร หาญชนะ เลขทะเบียน 10132 เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และจ้างบริษัท เอ็น แอนด์ เค การบัญชีและตรวจสอบ มาวางระบบบัญชีและทำบัญชีให้ โดยบริษัท เอ็น แอนด์ เค การบัญชีและตรวจสอบ มีผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีมีประสบการณ์ยาวนานหลายปี และทำหน้าที่ในการวางระบบบัญชีและภาษี เพื่อให้เกิดความถูกต้องในระบบบัญชีและภาษีของสมาคมฯ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการสมาคมฯ

2.สมาคมฯได้ดำเนินการเปิดบัญชีสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจใหม่ กับธนาคารกรุงเทพ สาขา พหลโยธิน จากเดิมที่เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาตึกช้าง โดยผู้มีอำนาจเซ็นต์เบิกเงิน 3 ท่านตามกฏข้อบังคับสมาคมฯคือ นายกฯ เลขาธิการ และเหรัญญิก

3.การปรับระบบการเบิกจ่ายใหม่ โดยให้ผู้จัดการสมาคม ทำเรื่องด้วยตัวเอง และมีการเซ็นกำกับรับรอง เอกสารทุกรายการ ให้ถูกต้อง พร้อมด้วยการแนบเอกสารสำเนาการอับเดทสมุดบัญชีธนาคารล่าสุดทุกครั้ง ที่มีการเบิกจ่ายอย่างรัดกุม

4.เตรียมปรับแนวทางการเบิกจ่ายในแต่ละเดือนได้ 2 ครั้ง คือวันที่ 5 และ 25 ของทุกเดือน เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นระบบ

ส่วนการแก้ไขปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นกับสมาคมฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามคดีและติดตามหนี้ 1 ชุดประกอบด้วยตัวแทนจากคณะกรรมการสมาคมชุดปี 2560, 2561 และ 2562 จำนวน 9 ท่าน และมีทีปรึกษาจากอดีตนายกสมาคมฯอีก 3 ท่าน เพื่อเป็นแกนหลักในการติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี โดยล่าสุดคดีความที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฏหมาย

ในการนี้คณะกรรมการร่วมได้มีมติแต่งตั้ง นายสุนทร พยัคฆ์ อดีตอุปนายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากสำนักงานทนายความ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฏหมาย ขึ้นเป็นตัวแทนในการดำเนินคดี

คณะกรรมการขอตั้งมั่นและยืนยันที่จะบริหารสมาคมฯด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้พร้อมแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงพัฒนาสมาคมให้สนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาวิชาชีพสื่อมวลชนต่อไป จัดหาสวัสดิ์การต่างๆ ให้สมาชิก รวมถึงการร่วมมือช่วยเหลือกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ที่สำคัญที่สุดกรรมการยืนยันว่าจะติดตามคดีและหนี้สิน อย่างเด็ดขาดและให้ถึงที่สุด

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า คณะกรรมการ มีความมุ่งมั่นที่จะบริหารสมาคมฯด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ความโปร่งใส่ ดูแลสมาชิกให้รับสวัสดิการอย่างทั่งถึงและเป็นธรรม รับผิดชอบกับการสนับสนุนของพันธมิตรสมาคมอย่างต่อเนื่อง

อ่านประกอบ :

ไล่ออกแล้ว! ส.ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ยันตามเอาผิดคดีอาญา-แพ่ง จนท.ยักยอกเงินกว่าสิบล.

ร้านสปาหรู-บ้าน2ชั้น! ทรัพย์สินอดีตรอง ผจก. สมาคมนักข่าวศก.ก่อนโดนแจ้งความคดียักยอกนับสิบล.

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/