รัฐต่อ พ.ร.ก.จ่อ 60 ครั้ง! - ใต้ป่วนบึ้มข้างกำแพง-ยิงใกล้โรงเรียน

คนร้ายเปิดปฏิบัติการลอบวางระเบิดข้างรั้วโรงเรียนในหนองจิกช่วงเช้า ตกเย็นยิงใกล้โรงเรียนซ้ำในโคกโพธิ์ ปัตตานี ฝ่ายความมั่นคงชง ครม.ขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รอบที่ 59 

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประปราย โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.63 เวลา 08.35 น. คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณข้างกำแพงหน้าโรงเรียนไผ่มัน ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้กำแพงโรงเรียนได้รับความเสียหาย เป็นช่องขนาดใหญ่มองจากด้านนอกเข้าไปเห็นด้านใน ส่วนครู นักเรียน และเจ้าหน้าที่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และกั้นพื้นที่เกิดเหตุเก็บพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

ยิงชาวบ้านดับใกล้โรงเรียนในโคกโพธิ์

ต่อมาเวลา 16.45 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ นายอาหามะ ดอเลาะ ราษฎรในพื้นที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยจังหวะที่นายอาหามะขับขี่รจักรยานยนต์ผ่านใกล้ๆ โรงเรียนมูฮัมมาดียะห์ ต.นาประดู่ คนร้ายได้รัวกระสุนใส่นายอาหามะหลายนัด กระสุนเจาะเข้าบริเวณลำตัว จนรถเสียหลักล้มลง และนายอาหามะเสียชีวิตคาที่

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และพบว่าคนร้ายดักยิงนายอาหามะระหว่างทางกลับบ้าน เบื้องต้นยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

ชงต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯรอบที่ 59

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 2/2563 ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) โดยมีวาระสำคัญคือพิจารณาการขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน

การประชุมจัดขึ้นที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินได้รับทราบผลการปฏิบัติงานและสถานการณ์การก่อการร้ายจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ในห้วงที่ผ่านมา คือ ระหวางวันที่ 20 ธ.ค.62 ถึงวันที่ 10 ก.พ.63 พบว่ามีแนวโน้มการเกิดเหตุรุนแรงลดลง ประชาชนได้รับการดูแลความปลอดภัยจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่องมากขึ้น ควบคู่กับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโต

เหตุนี้จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้เกิดความสงบสุขของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน คณะกรรมการฯ จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปอีก 3 เดือน คือระหว่างวันที่ 20 มี.ค. ถึง 19 มิ.ย.63 นับเป็นครั้งที่ 59 ที่มีการขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.

นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง โดยเร่งรัด กสทช.ในการควบคุมการลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งแบบเติมเงินและแบบรายเดือน พร้อมส่งไปยังฐานข้อมูลให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมสถานการณ์ และดำเนินคดีให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป

สำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประกาศครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ค.2548 ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร หลังเกิดการณ์ "ดับเมืองยะลา" จากนั้นก็ประกาศขยายเวลาการบังคับใช้คราวละ 3 เดือนมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาเกือบ 15 ปี

-------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : ความเสียหายของรั้วโรงเรียนที่ถูกลอบวางระเบิด

ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยปัตตานี