- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- วิจัยสุขภาพปี’54 ชี้คนไทยอายุยืน แต่ยังเผชิญโรคเรื้อรัง-อุบัติเหตุ
วิจัยสุขภาพปี’54 ชี้คนไทยอายุยืน แต่ยังเผชิญโรคเรื้อรัง-อุบัติเหตุ
รศ.ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะบรรณาธิการหนังสือรายงานสุขภาพคนไทย 2554 เปิดเผยผลการจัดทำรายงานสุขภาพคนไทยปี 2554 ว่าโดยรวมแนวโน้มคนไทยมีสุขภาพดีขึ้น แต่ยังมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะอ้วนร้อยละ 34.7 และอ้วนลงพุงร้อยละ 32.1 ขณะที่สัดส่วนแม่วัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า จากร้อยละ 5.6 ในปี 2501 เพิ่มเป็นร้อยละ 15.5 ในปี 2551 โดยเฉพาะกลุ่มแม่วัยรุ่น 10-14 ปี มีอัตราการคลอดบุตรเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
“ส่วนด้านสุขภาพจิตพบว่า คะแนนเฉลี่ยสุขภาพจิตและความสุขในการดำรงชีวิตสูงขึ้น เห็นได้จากอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จลดลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากร้อยละ 8.6 ต่อประชากรแสนคน ลดเหลือร้อยละ 5.7 ต่อประชากรแสนคน สำหรับด้านความมั่นคงของสังคมตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถือว่าช่องว่างทางเศรษฐกิจคนไทยอยู่ในระดับสูง และไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง โดยกลุ่มคนรวย มีรายได้คิดเป็นร้อยละ 54-59 ของรายได้รวมทั้งประเทศ ในขณะที่กลุ่มคนจน มีรายได้รวมน้อยกว่าร้อยละ 5 ทำให้กลุ่มคนรวยที่สุดจึงมีรายได้เฉลี่ยมากกว่ากลุ่มคนจนที่สุดถึง 11.3 เท่า” รศ.ชื่นฤทัย กล่าว
ด้าน ทพ.ญ.กณิษฐา บุญธรรมเจริญ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ในปี 2554 คนไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น เพศชายเฉลี่ย 69.5 ปี เพศหญิงเฉลี่ย 76.3 ปี สอดคล้องกับอัตราการเสียชีวิตของวัยแรงงานที่มีแนวโน้มลดลง เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ต่อประชากรพันคน จาก 10 ปีที่แล้ว ร้อยละ 4.1 สาเหตุที่คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น เพราะมีสุขภาพดีขึ้น เข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุยังมีอัตราสูง ดังนั้น ต้องเร่งหามาตรการป้องกันและแก้ไขต่อไป
นพ.ถาวร สกุลพาณิชย์ สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวว่า คนไทยมีรายจ่ายด้านสุขภาพเพียงร้อยละ 3.5-4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อพิจารณาเรื่องความเป็นธรรมและการเข้าถึงบริการสุขภาพ พบว่าการที่ประเทศไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ในระดับหนึ่ง โดยมีจำนวนครัวเรือนที่ยากจนจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลดลงจาก 280,000 ครอบครัว ในปี 2543 เหลือเพียง 88,000 ครัวเรือน ในปี 2551 และลดลงในทุกภาคของประเทศ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลงมากที่สุด ขณะที่การวิเคราะห์คุณภาพและประสิทธิภาพของระบบบริการสุขภาพ พบว่าการรักษาโรคให้ผู้ป่วยในมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่การรักษาโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกยังด้อยประสิทธิภาพ เห็นได้จากการมีผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลด้วยสาเหตุโรคแทรกซ้อนเฉียบพลันจากโรคเรื้อรังที่รักษาแบบผู้ป่วยนอกมากขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจวาย หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ลมชัก เป็นต้น ทั้งๆที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยมากขึ้น แต่การดูแลควบคุมโรคเรื้อรังไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนกลับทำได้ต่ำ
ที่มาจาก :