- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- บิ๊กไบค์"เบนซ์ เรซซิ่ง"โดนประมูลแล้ว ถูกกว่าตลาด 1 แสน
บิ๊กไบค์"เบนซ์ เรซซิ่ง"โดนประมูลแล้ว ถูกกว่าตลาด 1 แสน
ป.ป.ส. นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับคดียาเสพติดที่สิ้นสุดแล้วขายทอดตลาด กว่า 156 รายการ อาทิ รถซุปเปอร์คาร์-บิ๊กไบค์ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ด้านหนุ่มเจ้าของร้านอาหาร ยกป้ายประมูลจยย.บีเอ็ม สีดำ รับสนใจเพราะราคาถูกกว่าท้องตลาด 1 แสนบาท อึ้งไม่รู้ว่าเป็นรถของ"เบนซ์ เรซซิ่ง" ส่วนลัมโบกีนี่หรู ราคาเริ่มต้นที่ 12 ล้านบาท
วันนี้(26มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดงานขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดประเภทที่ไม่เหมาะสมกับการเก็บรักษา และประเภทที่ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประกอบด้วยรถยนต์หรู เช่น LAMBORGHINI BENZ รถเก๋ง รถกระบะ เจ็ทสกี จักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) จักรยานยนต์ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ อัญมณี เครื่องประดับ และอื่นๆ รวม 156 รายการ รวมราคาประเมินทรัพย์สินประมาณ 39,767,000 บาท
การขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด ในปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 - 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้จัดให้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดียาเสพติดประเภทต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องทุกเดือน รวม 54 ครั้ง จำนวนทรัพย์สินรวม 4,242 รายการ รวมมูลค่าในการขายทอดตลาดทั้งสิ้น 117,392,484 บาท โดยมีทรัพย์สินที่ยึดไว้ระหว่างดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมในการเก็บรักษา และทรัพย์สินที่ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ดังนี้
- ส่วนกลาง ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 1 ภาค 7 และ กทม. ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สิน โดยสำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด จำนวน 22 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 2,310 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 38,526,914 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 2 จำนวน 6 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 284 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 17,579,060 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 3 จำนวน 4 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 233 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 5,482,570 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 4 จำนวน 2 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 41 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 3,182,500 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 5 จำนวน 6 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 514 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 22,676,600 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 6 จำนวน 4 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 197 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 4,524,900 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 8 จำนวน 6 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 310 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 16,097,560 บาท
- สำนักงาน ปปส. ภาค 9 จำนวน 4 ครั้ง จำนวนทรัพย์สิน 353 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 9,382,380 บาท
โดยการขายทอดตลาดทรัพย์สินในครั้งนี้ เป็นการนำทรัพย์สินที่ยึดไว้ระหว่างดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพไม่เหมาะสมในการเก็บรักษา หรือเก็บไว้จะเป็นภาระแก่ทางราชการ หรือหน่วงช้าไว้จะเสี่ยงต่อความเสียหายหรือค่าเสียหายจะเกินส่วนแห่งค่าของทรัพย์สิน และทรัพย์สินที่ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประกอบด้วย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทองรูปพรรณ อัญมณี เครื่องประดับ และอื่นๆ รวม 156 รายการ มูลค่าประเมินเบื้องต้น จำนวน 39,767,000 บาท
ทรัพย์สินคดียาเสพติดที่นำมาขายทอดตลาดรายการสำคัญในวันนี้ ประกอบด้วย
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ LAMBORGHINI เริ่มประมูลที่ราคา 12,000,000 บาท
2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BENZ E200 COUPE เริ่มประมูลที่ราคา 2,300,000 บาท
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BENZ E300 HYBRID DIESAL เริ่มประมูลที่ราคา 1,900,000 บาท
4. รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ KTM 1290 SUPERDUKE R เริ่มประมูลที่ราคา 1,000,000 บาท
5. รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ BMW เริ่มประมูลที่ราคา 650,000 บาท
6. รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ DUCATI เริ่มประมูลที่ราคา 480,000 บาท
นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า การขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย ตามยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติดของรัฐบาล โดยมุ่งทำลายเครือข่ายการค้าและเส้นทางการเงินของนักค้ายาเสพติดที่มักนำเงินจากการค้ายาเสพติดเปลี่ยนเป็นทรัพย์สิน เพื่อให้ยากต่อการติดตามและตรวจสอบ โดยทรัพย์สินต่างๆ ที่นำมาขายทอดตลาดเป็นการรวบรวมจากการยึดอายัดทรัพย์สินจากหลายๆ คดี นอกจากนั้นทรัพย์สินบางส่วนเป็นทรัพย์สินที่ยึดอายัดได้จากการดำเนินยุทธการขยายผลตัดวงจรการเงินเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการบังคับใช้ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ในคดียาเสพติดตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วรวม 8,575 ราย มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3,829 ล้านบาท สำหรับกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้น ตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และใช้สนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ
ด้านนายศิรินทร์ยา กล่าวอีกด้วยว่าว่า การยึดทรัพย์ผู้ต้องหาและเครือข่ายบาเสพติดเป็นหนึ่งในมาตรการการปราบปรามยาเสพติด โดยได้นำทรัพย์สินมาประมูลขายทอดตลาด มีทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทองคำแท่ง เครื่องประดับ ฯลฯ ส่วนรถยนต์ลัมโบร์กินีนั้นเป็นการดำเนินการตามระเบียบของ ป.ป.ส. หากทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้รายการใด ติดภาระเช่าซื้อ และมีค่าเสื่อมสภาพ แม้คดียังไม่ถึงที่สุด จะต้องนำทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด จัดอยู่ในข่ายประเภททรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมที่จะเก็บรักษาไว้ ประกอบกับรถคันดังกล่าว ยังอยู่ในกรรมสิทธิ์ของบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ ซึ่งระเบียบกำหนดว่าทรัพย์สินใดที่ผิดภาระเช่าซื้อให้ป.ป.ส.นำขายทอดตลาดเพื่อนำเงินไปชดใช้คืนแก่บริษัทผู้ให้เช่าซื้อ ขณะที่ส่วนต่างที่เหลือก็จะเก็บเข้าเป็นของรัฐ
อย่างไรก็ตามหากคดีถึงที่สุดและศาลพิพากษาให้ผู้ต้องหาไม่มีความผิดป.ป.ส.จะคืนเงินให้ผู้ต้องหาพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ส่วนรถจยย.อีก 2 คันเป็นกรรมสิทธิ์ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถ ซึ่งทางเจ้าพนักงานได้สอบถามกับนายอัครกิตต์แล้วยินยอมให้นำขายทอดตลาดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนำทรัพย์สินขายทอดตลาดของป.ป.ส. ว่ามีประชาชนจำนวนมาก สนใจมาประมูลทรัพย์สินคดียาเสพติดที่นำมาขายทอดตลาด โดยรายการสำคัญ เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ LAMBORGHINI เริ่มประมูลที่ราคา 12,000,000 บาท และรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ KTM 1290 SUPERDUKE R เริ่มประมูลที่ราคา 1,000,000 บาทซึ่งการประมูลในรอบแรกยังไม่มีผู้สนใจประมูลรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BENZ E200 COUPE เริ่มประมูลที่ราคา 2,300,000 บาท ไม่มีผู้สนใจประมูลเช่นกัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BENZ E300 HYBRID DIESAL เริ่มประมูลที่ราคา 1,900,000 บาท มีผู้ประมูลได้ในราคา 1,940,000 บาท รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ยี่ห้อ BMW เริ่มประมูลที่ราคา 650,000 บาท มีผู้ประมูลได้ในราคา 694,000 บาท
ด้านนายปิยะวัฒน์ จันทร อายุ 22 ปี อาชีพประกอบธุรกิจร้านอาหาร ผู้ยกป้ายประมูลรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ BMW สีดำ ได้ในราคา 694,000 บาท กล่าวว่า ตนยกป้ายประมูลรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวให้กับพี่ชาย ซึ่งพี่ชายมีความสนใจรถรุ่นนี้เป็นพิเศษ ราคาที่ประมูลได้ถูกกว่าราคาในท้องตลาดประมาณ 100,000 บาท ดูรถในภาพรวมและสภาพรถยังใหม่อยู่ แม้เลขไมล์จะอยู่ที่ 9,000 กิโลเมตร ก็ยังถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาที่ประมูลไป ทั้งนี้ตนไม่รู้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถ เมื่อทราบก็อึ้งเหมือนกัน ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นรถของนายอัครกิตต์ รู้จักจากข่าวที่ปรากฎก่อนหน้านี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่ได้รู้สึกกลัวหรือรู้สึกอะไร เพราะตนประมูลด้วยความอยากได้และราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกด้วยว่า สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ LAMBORGHINI เริ่มประมูลที่ราคา 12,000,000 บาท มีผู้ที่สนใจจะประมูล แต่เนื่องด้วยเงื่อนไขที่จะต้องวางเงินมัดจำ 25 % หรือเป็นเงินประมาณ 3 ล้านบาท นั้น มีไม่เพียงพอ หลังจากเปิดประมูลทรัพย์สินทุกรายการเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะนำรถคันดังกล่าวกลับมาประมูลใหม่อีกครั้ง หากไม่มีผู้ใดประมูล ก็จะนำรถคันดังกล่าว รวมกับทรัพย์สินที่จะเปิดประมูลในครั้งต่อไป