- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ปธ.สปท.สื่อฯ โต้ร่าง กม.กดหัวสื่อไม่ขัด รธน.
ปธ.สปท.สื่อฯ โต้ร่าง กม.กดหัวสื่อไม่ขัด รธน.
ประธาน สปท.สื่อฯ โต้ร่าง พ.ร.บ.คุมสื่อ ยกเหตุจับสื่อตีตราเพราะคุมกันเองไม่ได้ มั่นใจ สปท.ให้ความเห็นชอบ โวสื่อยังให้การสนับสนุนในชั้นกรรมาธิการ เผยให้อำนาจควบคุมสื่อออนไลน์ได้
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)กล่าวถึงกรณีสปท.เตรียมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนในวันที่ 1 พ.ค.ว่า เชื่อว่า สปท. จะให้ความเห็นชอบอย่างไรก็ตามกระบวนการจัดทำกฎหมายดังกล่าวยังมีหลายขั้นตอน ต้องผ่านรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ยังสามารถปรับแก้ไขเนื้อหาได้ แต่ยืนยันว่า เนื้อหาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเนื่องจากระหว่างจัดทำมีนักกฎหมายคอยดูแลอยู่ แต่หากมีเนื้อหาใดขัดรัฐธรรมนูญ เช่น การออกกฎหมายละเมิดสิทธิเสรีภาพเกินความจำเป็น ก็ปรับแก้ประเด็นที่ขัดได้ ที่ผ่านมาการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ในชั้นอนุกรรมาธิการมีกรรมาธิการที่มาจากสื่อมวลชนสนับสนุนให้มีการออกใบอนุญาตขึ้นทะเบียนสื่อเพราะมองว่ามีเกียรติและศักดิ์ศรีมากกว่าและการมีใบอนุญาตจะทำให้เกิดการกำกับกันเองได้ดีเพราะที่ผ่านมาสื่อมวลชนยังกำกับกันเองได้ไม่ดี ดังนั้นการขอใบอนุญาตตามกฎหมายนี้จึงเป็นการจัดระเบียบสื่อมวลชนเหมือนประเทศสิงคโปร์ที่มีการจัดระเบียบการนำเสนอข่าวสาร ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ มีความเจริญต่างจากประเทศไทย
พล.อ.อ.คณิต กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดนิยามให้ครอบคลุมถึงบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เปิดเว็บเพจ เพจเฟซบุ๊ก เพื่อนำเสนอข่าวสารนั้นเป็นการเขียนกฎหมายเพื่อให้เป็นมาตรฐานสากลไม่ล้าหลัง ที่ผ่านมาการออกกฎหมายถูกมองว่าล้าหลัง ตามไม่ทันเทคโนโลยี อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ต้องการพัฒนาประเทศให้เป็นยุค 4.0 ดังนั้นจึงต้องเขียนกฎหมายฉบับนี้ให้ครอบคลุมถึงสื่อออนไลน์ที่นำเสนอข้อมูลและมีผลกระทบจำนวนมากเช่นกัน โดยสื่อออนไลน์ที่เข้าข่ายกฎหมายนี้ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กรณีมีเฟซบุ๊กหากทำเป็นธุรกิจ มีผลกระทบต่อสาธารณะ ต้องถูกกำกับ