- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- "ประยุทธ์" ร่ายยาวข้อดี "รถไฟความเร็วสูง" วอนคนต้านนึกถึงประโยชน์ชาติ
"ประยุทธ์" ร่ายยาวข้อดี "รถไฟความเร็วสูง" วอนคนต้านนึกถึงประโยชน์ชาติ
"ประยุทธ์" ร่ายยาวแจงข้อดี "รถไฟความเร็วสูง"ย้ำไทยเป็นผู้พัฒนา 2 ข้างทางเอง มั่นใจไม่ขาดทุน วอนคนต้านนึกถึงประโยชน์ชาติ หวั่นถ้าช้าเกินเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่าพี่น้องประชาชนที่รัก ตนเคยยกเอา 4 คำถามกับ 50 ประเด็น มากล่าวในรายการนั้น ไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในการทำงานของรัฐบาล และ คสช.ในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ในทางกลับกันผมมั่นใจว่า เราทำได้ทุกเรื่องในประเด็นต่างๆ บางประเด็นสำเร็จแล้ว บางอย่างก็ต้องเริ่มต้นทำต่อ บางอย่างต้องอาศัยทั้งเวลา อาศัยความร่วมมือเป็นสำคัญ ติดข้อกฎหมายก็ต้องไปแก้ไขปัญหากัน อยากให้ไปช่วยกันคิดว่า เราจะร่วมมือกันได้อย่างไร ตามบทบาท ตามหน้าที่ ตามศักยภาพของแต่ละคนแต่ละฝ่าย อย่าคิดอะไรที่มันขัดแย้งกันจนเกินไป บ้านเมืองเราจะไปข้างหน้าไม่ได้ ลูกหลานในวันข้างหน้าในอนาคตก็ไม่มีความสุข รัฐบาลนี้ไม่อยากให้ใครไปบิดเบือนว่า รัฐบาลกลัวว่าจะไม่มีผลงาน ไม่กลัวหรอกครับ เพราะผมรู้ดีว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง หลายอย่างอาจจะไม่มีผลมาสู่เป็นรายบุคคล แต่มีผลในส่วนของการทำงานระยะยาวของผู้ร่วมรัฐบาล อย่ามาพูดในเรื่องของสืบทอดอำนาจ หรือต้องการจะเลื่อนการเลือกตั้ง ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย ผมพร้อมน้อมรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ตลอดมา
สำหรับกรณีรถไฟไทย - จีนนั้น ขอให้ทำความเข้าใจอีกที พูดกันหลายครั้ง อย่าสับสนกับข้อมูล เป็นความร่วมมือระหว่างไทย-จีน แบบรัฐบาลต่อรัฐบาล มีการร่วมมือกันมาหลายรัฐบาลแล้ว มีข้อตกลงร่วมกัน เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ก็เอามาสานต่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อจะเป็นการลงทุนในอนาคต พอดีก็มันมีการพัฒนาโครงการนู้นโครงการนี้ของหลายประเทศมหาอำนาจด้วยก็เชื่อมโยงกันได้พอดี เราจำเป็นต้องเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค เชื่อมโยงกับประชาคมโลกอื่นๆ อีกด้วย เพราะฉะนั้นมีประเด็นหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา
เรื่องที่ 1 คือ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง และระบบควบคุมการเดินรถ - อาณัติสัญญาณ คือพูดถึงทั้งระบบทั้งเส้นต้องทำทั้ง 3 อย่าง เพราะฉะนั้นฝ่ายไทยนั้นได้ตัดสินใจจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีกรอบการเจรจาวงเงินประมาณ 1.7 แสนล้านบาท มีการต่อรองมาตลอดมีการเทียบราคาซึ่งกันและกันทั้งต่างประเทศ ทั้งในประเทศ ได้มีการต่อรองราคาอยู่ประมาณนั้น เราจะเป็นการจัดการประมูลในส่วนของการก่อสร้าง ให้บริษัทไทย หรืออาจจะมีการร่วมทุนกับบริษัทสัญชาติไทย ดังนั้นฝ่ายไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ในการบริหารจัดการอื่นๆ ในกรอบดังกล่าว ซึ่งเราเปรียบเทียบมาตลอดในการเจรจาทั้งหมด 18 ครั้ง
เรื่องที่ 2 การร่วมลงทุนของจีนในลักษณะนี้ อาจจะเรียกได้ว่า จีนยังไม่เคยทำกับประเทศใด นอกจากจะใช้ระบบสัมปทานแบ่งปันผลประโยชน์ ทำนองนั้น อันนี้มันเป็นการรับจ้างก่อสร้าง ซึ่งเราพิจารณาแล้วมีความเหมาะสมมากกว่า เพราะฉะนั้นมาตรฐานของจีนนั้นก็ได้รับการยอมรับเนื่องจากได้มีการนำเทคโนโลยีของจีนไปใช้ก่อสร้างในหลายประเทศแล้ว รวมทั้งหลายประเทศในอาเซียนด้วย หลายหมื่นกิโลเมตร ฝ่ายไทยมีโอกาสพิจารณาทั้งการให้สัมปทานและการลงทุนเอง เราได้เลือกที่จะลงทุนเอง ไม่ได้เป็นการกำหนดจากฝ่ายจีนเลย เนื่องจากหากเป็นระบบสัมปทาน ฝ่ายจีนจะเป็นผู้รับผลประโยชน์ทั้งหมด อย่างเช่นที่ทำอยู่ในหลายประเทศ ในปัจจุบันทั้งบนราง สองข้างทางต่างๆ ทั้งหมด เพราะว่าไปชดเชยกับค่าก่อสร้าง วันนี้เราจำเป็นต้องเอาตรงนั้นมาอีกส่วนหนึ่ง เพื่อพิจารณาให้เกิดประโยชน์ทดแทนรายได้ที่จะลดลงในระยะแรก เราอาจจะได้รายได้ในการสัญจรไปมาอาจจะไม่เพียงพอ ก็เหมือนกับทุกประเทศที่เขาทำอยู่
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ 3.หากฝ่ายไทยเป็นเจ้าของ เราก็จะมีกิจการเป็นผู้พัฒนา 2 ข้างทางเอง เพื่อจะดูในการสร้างเมืองใหม่ พัฒนาเป็นพื้นที่ประกอบการทางธุรกิจน้อยใหญ่ ที่พักอาศัยของชุมชน หรืออื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต วันนี้ผมได้สั่งการไปยังกระทรวงคมนาคม สนข.ไปคิดแผนเหล่านี้ออกมาควบคู่ด้วยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ผ่านมาให้แนวทางแล้ว ที่สำคัญ มันก็จะเกิดผลตอบแทนเชิงธุรกิจสูงมากดีกว่าที่จะให้เลือกระบบสัมปทานไปประเทศชาติและลูกหลานของเราในอนาคตจะสูญเสียโอกาส และไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าในอนาคต
เรื่องที่ 4 การแก้กฎหมายนั้น เราจำเป็นต้องไปดูตรงนี้อีก การใช้พื้นที่ของรถไฟไทยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ในเชิงพาณิชย์ เพราะกฎหมายทำไม่ได้ เราต้องทำให้ได้ในลักษณะพีพีพี หรือแบบอื่นด้วยตัวเราเอง จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมานั้น บริเวณเส้นทางรถไฟมันทำอะไรไม่ได้เลย ทางด่วน รถไฟฟ้า มันเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมทั้งหมด มันก็ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ วันนี้ต้องมาดูตรงนี้ เราจะได้ไม่เสียประโยชน์ธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ไปอีกด้วย ขอร่วมมือด้วยในอนาคตเรื่องกฎหมาย
5.เราจำเป็นต้องมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ อันนี้มันจำเป็น เพราะอะไร เพราะว่ามันต้องมีการเชื่อมต่อเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นไทย ลาว จีน ปากีสถาน ยุโรปตะวันออก เขามีการเชื่อมโยงกันแล้วในขณะนี้ เราจำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงไปด้วยคู่ขนานไปกับทางรถยนต์ที่เป็นข้ามทวีป ข้ามประเทศต่างๆ เราต้องทำไปด้วย ทางหลวงต่างๆ เหล่านั้น เราเคยทำมาแล้วทางหลวง วันนี้เราก็เพียงแต่มาทำทางรถไฟ บางคนบอกว่า เอ๊ะทำไมไม่มาทำทางรถไฟไทย ทางคู่อย่างเดียวทั้งหมดก็ต้องคู่ขนานกัน ทางคู่ก็ต้องทำไป ทุกอย่างทั้งหมดปัญหาอยู่ทำได้หรือทำไม่ได้ มันติดคนบุกรุกหรือเปล่า มันติดพื้นที่ป่าหรือไม่ มันติดในเรื่องของการทำประชาพิจารณ์อะไรหรือเปล่า ทั้งหมดคือปัญหาของเรา ถ้าเราปรับได้บ้าง เราเข้าใจกันบ้าง มันจะเกิดได้ มันก็จะได้ไม่เสียเวลา และเราจะได้ตามทันคนอื่นเขาด้วยในกรอบ วันเบลท์วันโรด วันนี้ลาวอยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมไปยังทางเดียวกับเรา เราต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้
เรื่องที่ 6 เราจำเป็นต้องปรับจัดทำกฎหมายหลายฉบับ เพื่อจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่เฉพาะ ไทย-จีน นะครับ รวมทั้งอีก 64 ประเทศในกรอบวันเบลท์วันโรดควบคู่ไปด้วย
เรื่องที่ 7 การจัดการประมูลในส่วนที่ฝ่ายไทยลงทุนเอง เราจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด การจัดการประมูล การใช้บริษัทก่อสร้างไทย แรงงานไทย วัสดุในท้องถิ่นของไทยให้มากที่สุดก็ใช้แต่วิศวกรจากจีนมาเป็นผู้ออกแบบ ควบคุม แล้วดำเนินการก่อสร้างภายใต้การทำงานของบริษัทก่อสร้างของเรา ซึ่งก็ต้องมีประสิทธิภาพมีมาตรฐานด้วย
เรื่องที่ 8 เรื่องการพิจารณาความคุ้มทุน ทุกคนก็ไม่มองเฉพาะจำนวนผู้โดยสารที่จะใช้บริการเท่านั้น ทุกประเทศที่ผมไปเยี่ยมเยียนมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แรกๆ ขาดทุนทั้งหมด แต่วันนี้มหาศาล เพราะมันเกิด ผลประโยชน์สองข้างทางตามมาโดยทันที เพราะฉะนั้นอยู่ที่เราจะวางแผนอย่างไร เราจะมองผลประโยชน์ตรงนี้อย่างไร ถ้าเราคัดค้านทั้งหมด ธุรกิจเหล่านี้จะเกิดไม่ได้เลย และมันเป็นอย่างที่ทุกคนเป็นห่วงนั่นแหละ เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นผลประโยชน์เหล่านี้มันจะต้องกระจายลงไปยังแต่ละพื้นที่ที่เส้นทางพาดผ่าน ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างที่อยู่อาศัย พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ชุมชนในพื้นที่อีกด้วย
9.ในเรื่องของการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการก่อสร้าง เราจะต้องมีวิศวกรของไทยอยู่ร่วมในการวางแผนก่อสร้าง ควบคุมงาน และอื่นๆ ด้วย อันนี้มันอยู่ในสัญญาที่จะต้องไปพูดคุย ไปเจรจากันต่อไป ซึ่งมีการพูดคุยมาต่อเนื่อง
เรื่องที่ 10 ในส่วนประสบการณ์นั้น แม้เราไม่เคยทำมาก่อน แต่ผมเชื่อมั่นในความศักยภาพของวิศวกรไทยว่า สามารถเปิดรับเทคนิคและประสบการณ์ใหม่ๆ จากเส้นทางนี้ ได้มาก เพราะเรามีความสามารถอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องอะไรใหม่ๆ เราอาจจะต้องดูในระยะแรกไปก่อน ติดตามศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานในเส้นทางอื่นๆ ซึ่งอาจจะต้องทำเองให้มีประสิทธิภาพต่อไป ในเทคโนโลยีนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
เรื่องที่ 11 เส้นทางอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต มีเส้นทางเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง เราต้องเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันจากหลายๆ ประเทศ ที่มีศักยภาพ สนใจอยากมีส่วนร่วม ไม่ใช่ว่า พอทำเส้นนี้แล้วเส้นอื่นจะต้องเป็นแบบนี้ มันใช่หรอกนะครับ มันมีหลายวิธีการ เราต้องทำให้มันเกิดขึ้นก่อนสักเส้นหนึ่งมั้ย แล้วเรามีการพัฒนา มีการประมูล มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี มันจะสามารถที่จะร่วมทุน หรือ ทีพีพี ร่วมกันในโอกาสต่อไปกับทุกประเทศ อย่าเอาอันนี้ไปพันกับอันอื่นเดี๋ยวมันจะมีปัญหาในการทำงานต่อไปอีกด้วย
12. เทคนิคในการก่อสร้าง ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล อย่าไปห่วงกังวลเลย เพราะเรามีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว ที่เรายอมรับได้อยู่แล้ว ระบบอาณัติสัญญาณนั้น เราก็ต้องผูกพันไว้ให้ได้ว่า ต้องสามารถเชื่อมโยงกันได้กับโครงการต่อๆ ไปไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนก็ตาม ต้องเชื่อมต่อกันให้ได้นะครับ อย่ากังวลในเรื่องนั้นนะครับ เพื่อให้การเดินรถมีความปลอดภัย ต่อเนื่อง ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ
13. การกำหนดราคา ก็ได้มีการผ่านการเจรจา ต่อรอง เอารายละเอียดมาดูกัน ราคาค่าก่อสร้าง ราคาวัสดุ อุปกรณ์ มาเทียบกันหมดแล้ว วันนี้ก็ตกลงข้อสรุปกันได้ประมาณ 170,000 ล้านบาทนะครับ ก็ลดจากฝ่ายจีนที่เสนอมา จำนวนมากพอสมควรนะครับ เราได้ศึกษามาอย่างรอบคอบ ข้อมูลการเปรียบเทียบการก่อสร้าง ในลักษณะเดียวกันในประเทศอื่นด้วยในกรอบวงเงินงบประมาณ เพราะฉะนั้น ในการดำเนินการทุกเรื่อง เราจะต้องยึดผลประโยชน์ของชาติมาก่อนเสมอ คำนึงถึงหนี้สาธารณะต่างๆในอนาคตด้วยที่จะต้อง อยู่ในกรอบการเงินการคลังของเราที่มีอยู่
14. การทำพันธสัญญา ความร่วมมือในลักษณะ G2G นั้น ฝ่ายไทยดำเนินการโดยหน่วยงานราชการ กระทรวงคมนาคม การรถไฟไทย ฝ่ายจีนก็เป็นไปตามหลักการทำธุรกิจของจีน คือ ให้หน่วยงานของรัฐรับผิดชอบ ได้แก่ สภาเศรษฐกิจ ในการรับรองบริษัทที่จะมาทำการก่อสร้างกับไทยเท่านั้น ไม่ใช่ว่าบริษัทอะไรก็ได้ ไม่ใช่ เขาต้องรับผิดชอบ รับรองด้วย
15. ผมก็อยากจะขอร้องให้ทุกภาคส่วน ได้มองในภาพกว้าง ไม่ว่าจะประชาชน ประชาสังคม นักวิชาการ วิศวกร ต่างๆ ช่วยกัน กรุณานึกถึงผลประโยชน์ในอนาคตด้วย ความห่วงใยของท่าน ผมเคารพในความคิดเห็นของท่านเสมอ เราจะต้องสรรหารูปแบบต่างๆ ในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนให้เกิดการลงทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ จากการสร้างงาน สร้างรายได้ มีการพัฒนาฝีมือแรงงาน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาการศึกษาของเรา ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เขาต้องการ อย่างเช่นวันนี้ เราต้องการมาก
16. ผมได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการป้องกันการทุจริต ทุกอย่างจะต้องโปร่งใส ทั้งในส่วนราชการ ข้าราชการ บริษัทก่อสร้าง นักธุรกิจไทยก็ต้องทำงานอย่างโปร่งใสมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน
17. เรื่องรถไฟความเร็วสูง เป็นเพียงหนึ่งในความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน มีตั้งหลายโครงการตั้งหลายอย่างที่ร่วมมือกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน กับหลายๆ ประเทศก็เช่นกัน ฉะนั้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การลงทุนร่วมกัน หรือการหาวิธีการแสวงหาความร่วมมือ มันจะช่วยพัฒนาความเชื่อมโยง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืนในระยะยาวได้อีกด้วย และสนับสนุนความร่วมมือรูปแบบต่างๆ ที่จะเพิ่มพูนยิ่งขึ้นในอนาคต ขอให้ทุกคนช่วยกันในการบูรณาการในทุกระดับทั้งรัฐบาล คสช. กระทรวงคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนอีกมากมาย ที่มีส่วนร่วมในการเจรจา จนมีความก้าวหน้า ซึ่งรัฐบาล จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 บ้างเพื่อให้ดำเนินการได้ จากผลการเจรจา ทั้งเกือบ 20 ครั้ง ที่ผ่านมาทั้งหมดมันมีความคืบหน้ามาตามลำดับ แต่มันติดอยู่ 3-4 อันตรงนี้ ก็ไปแก้ไขตรงนี้ ย้อนกลับไปดูซิว่าการเจรจาครั้งสุดท้ายที่เรายอมรับได้มันคืออะไร แล้วก็ทำให้มันได้ตามนั้น ถ้าช้าเกินไปเราก็เสียโอกาส การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เราก็จะสูญเสียไป ก็ขอให้ทุกคนพยายามศึกษาทำความเข้าใจ แล้วก็เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็น รัฐบาลก็ยืนยันทุกอย่าง มีข้อตกลงสัญญาคุณธรรม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีการตรวจสอบได้ ใครทุจริต ก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย โดยทันที ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาชนก็ตาม