ยักษ์ล้ม! “ทะกะตะ” ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยล้มละลาย สะเทือนทั่วญี่ปุ่น

บริษัททะกะตะ ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยของญี่ปุ่น ยื่นล้มละลายหลังจากเผชิญปัญหาเรียกคืนถุงลมนิรภัยจากค่ายรถยนต์ทั่วโลก ถือเป็นการล้มละลายที่มีหนี้สินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และส่งผลกระทบต่อค่ายรถยนต์และบริษัทที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก

บริษัททะกะตะ ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยของญี่ปุ่น ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะผู้ล้มละลายต่อศาลแขวงโตเกียว หลังจากคณะกรรมการของบริษัทตัดสินใจเรื่องนี้ในการประชุมเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน มูลค่าหนี้สินของบริษัทสูงกว่า 1.7 ล้านล้านเยน ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนถุงลมนิรภัยของบริษัท ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถยนต์แบกรับภาระนี้ไว้ก่อน

ถุงลมนิรภัยของบริษัททะกะตะถูกพบว่ามีความบกพร่อง ทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัวขึ้นอย่างรุนแรงเกินไปคล้ายการระเบิด และดันเอาชิ้นส่วนต่างๆให้กระเด็นพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้รถยนต์จนเป็นอันตราย เจ้าหน้าที่ด้านขนส่งสหรัฐระบุว่าถุงลมนิรภัยของทะกะตะเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย ทำให้ต้องมีการเรียกคืนรถยนต์ถึง 100 ล้านคันทั่วโลกที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยของทาคาตะ ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ใช้ในสหรัฐฯ 70 ล้านคัน

ตัดใจขายธุรกิจให้บริษัทจีนในราคาสุดถูก

ทะกะตะได้ตัดสินใจขายกิจการของตนให้แก่ บริษัทคีย์ เซฟตี้ ซิสเต็มส์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของสหรัฐ ซึ่งมีบริษัท Ningbo Joyson Electronic Corp. ของจีนเป็นเจ้าของตัวจริง โดยเป็นการขายด้วยราคาเพียง 175,000 ล้านเยน เทียบไม่ได้กับหนี้สินที่ล้นพ้นตัวมากกว่า 1ล้านล้านเยน

ส่วนมูลหนี้ที่เหลือจะต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้าง ซึ่งธนาคารสุมิโตโมะ มิตซุย จะให้เงินสนับสนุนราว 25,000 ล้านเยน

ผลจากการล้มละลายทำให้ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้ตัดสินใจเพิกถอนหุ้นของบริษัททะกะตะออกจากตลาดหลักทรัพย์

นายฮิโระชิเงะ เซะโก รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวว่า การที่บริษัททะกะตะล้มละลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ทางธุรกิจที่ย่ำแย่ของบริษัท พร้อมระบุว่าควรมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือบรรดาหุ้นส่วนของบริษัทและบริษัทขนาดเล็กอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการยื่นขอล้มละลายนี้ โตโยต้า, ฮอนด้าเสี่ยงหนี้สูญ ผู้ผลิตรายย่อยรับผลกระทบเป็นลูกโซ่

บริษัททะกะตะอาจไม่เป็นที่คุ้นหูของชาวบ้านทั่วไป แต่ทะกะตะเป็นผู้ผลิตถุงลมนิรภัยให้กับค่ายรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลกมากถึง 19 ยี่ห้อ การล้มละลายของมะกะตะจึงหมายความว่าค่ายรถยนต์ต่างๆที่รับภาระค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนรถยนต์ไปก่อนหน้านี้ อาจเรียกเก็บหนี้จากทะกะตะไม่ได้

โตโยต้า มอเตอร์ ระบุว่า มีหนี้สิน 570,000 ล้านเยนที่ต้องเรียกเก็บจากทะกะตะ ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ ก็มีหนี้สิน 556,000 ล้านเยน ทั้งสองค่ายรถยนต์ใหญ่ของญี่ปุ่นระบุว่า หนี้ดังกล่าวอาจเสี่ยงเป็นหนี้สูญ

การล้มละลายของทะกะยะยังส่งผลกระทบต่อบริษัทผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วญี่ปุ่น โดยมีบริษัทมากกว่า 130 แห่งที่เป็นซัพพลายเออร์ขั้นที่ 1 ให้กับทะกะตะ และยังมีบริษัทย่อยๆอื่นอีกมากมายที่รับงานต่อไปเป็นช่วงๆ เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา

ทะกะตะ เริ่มต้นจากธุรกิจในครอบครัวที่ก่อตั้งเมื่อปี 1933 เพื่อร่มชูชีพและเส้นใย ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตถุงลมนิรภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่นและของโลก มีฐานการผลิตใน 4 ทวีป โดยในเยอรมนีมีโรงงานถึง 9แห่ง

ในยุครุ่งโรจน์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จนถึงบริษัทวัตถุดิบรายกลางรายเล็กต่างต้องการทำธุรกิจกับทะกะตะ แต่หลังจากทะกะตะเผชิญปัญหาความปลอดภัยของถุงลมนิรภัยจนต้องเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ ขณะที่ซัพพลายเออร์ที่เคยติดต่อด้วยก็ไม่อยากจะส่งวัตถุดิบให้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรดาลูกจ้างและพนักงานที่โดดเรือหนีตายกันถ้วนหน้า จนผู้บริหารของทะกะตะยอมรับว่า ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากยื่นขอล้มละลาย

นายชิเงะฮิซะ ทะกะดะ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดของบริษัท กล่าวว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของบริษัท และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหนี้ทุกรายที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือกับบริษัทของตน