- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรงขรก.หื่น หลังสอบพบผิดจริง
ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรงขรก.หื่น หลังสอบพบผิดจริง
ข้าราชการหื่นปัดคุกคามทางเพศลูกจ้างสาว แค่หยอกล้อเกินเลย ฟังไม่ขึ้น สั่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง รู้ผลใน 120 วัน หลังพบพฤติกรรมข่มขู่คุกคามเพียบ ส่วนผู้บังคับบัญชาในสายงานโดยสอบวินัยด้วย เหตุนิ่งเฉย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าผลการสืบสวนกรณีข้าราชการลวนลามลูกจ้างสาว ว่า ข้าราชการที่ถูกกล่าวหายอมรับกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่าได้กระทำการในลักษณะหยอกล้อที่ไม่ค่อยเหมาะสม แต่ไม่ได้เจตนาจะลวนลามเชิงชู้สาวหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งคณะกรรมการฯ สรุปผลว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และยังทำในสถานที่ราชการ อยู่ในเครื่องแบบข้าราชการ ทำให้ผู้ถูกกระทำไม่พอใจ อึดอัด อับอาย แต่ต้องจำยอมฝืนทนไม่กล้าต่อว่า หรือขัดขืนรุนแรง ดังนั้นจึงถือเป็นการคุกคามทางเพศตามกฎของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าด้วยการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ.2553 นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหามักแสดงพฤติกรรมวางอำนาจ ข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชาในกรณีแตกต่างกันไป มักแสดงกิริยาไม่พอใจ อารมณ์เสียเวลาผู้ใต้บังคับบัญชาขัดใจหรือไม่ทำตามสิ่งที่ต้องการ คณะกรรมการฯ จึงมีความเห็นว่ามีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงควรตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง
ส่วนประเด็นเรื่องผู้บังคับบัญชาในสายงานของข้าราชการคนดังกล่าวพบว่าไม่มีการเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่พบว่าผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องที่ลูกจ้างสาวถูกข้าราชการลวนลามมาเป็นระยะเวลาพอสมควร โดยทราบจากบุคคลอื่น ไม่ได้ทราบจากลูกจ้างที่ถูกกระทำโดยตรง แต่ก็ถือว่าทราบเรื่องแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน ถูกต้องตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด คณะกรรมการฯ เห็นว่ามีมูลเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงต่อไป ซึ่งตรงนี้ยังไม่ได้มีการสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น แต่หากมีผลต่อการสอบวินัย ก็อาจจะมีการสั่งย้ายในภายหลังได้ และยืนยันว่าแม้ยังอยู่ในหน้าที่ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณา เรื่องการจ้างงานของลูกจ้างคนดังกล่าวแต่อย่างใด
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การสอบวินัยร้ายแรงจะใช้เวลา 120 วัน โดยเชิญคนนอกที่เกี่ยวข้องมาเป็นกรรมการสอบด้วย จำนวนไม่เกิน 5 คน ซึ่งอาจจะเร็วว่านั้นก็ได้ หากพบว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรงก็จะมีการลงโทษด้วยการปลดออก หรือไล่ออก ในกรณีที่เป็นการปลดออกยังสามารถรับบำเหน็จ บำนาญได้ แต่หากเป็นการไล่ออกจะไม่ได้รับเงินตรงนี้เลย แต่หากผลสอบออกมาว่าไม่ใช่ผิดวินัยร้ายแรงก็จะมีการลงโทษโดยการภาคทัณฑ์ ลดเงินเดือน ลดขั้น เป็นต้น ส่วนกรณีสอบ
ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการพูดคุยดูแลลูกจ้างสาวที่ถูกกระทำพบว่ามีความเครียดปานกลางวิตกกังวลว่า อาจจะถูกทำร้าย ซึ่งตนได้คุยกับญาติของลูกจ้างสาวแล้วว่าในช่วงนี้ให้มารับกลับบ้านในช่วงหลังเลิกงานด้วย พร้อมกันนี้ก็ได้สั่งห้ามข้าราชการที่ถูกกล่าวหา ห้ามเข้ามาบริเวณอาคารสำนักปลัดกระทรวง และห้องทำงานของลูกจ้างสาวด้วย