- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- อดีตแกนนำ พธม.ไม่เสียใจร่วมสู้-ตั้งกองทุนฯชดใช้ชุมนุมสนามบิน522ล.
อดีตแกนนำ พธม.ไม่เสียใจร่วมสู้-ตั้งกองทุนฯชดใช้ชุมนุมสนามบิน522ล.
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ลั่นไม่เคยเสียใจร่วมต่อสู้รัฐบาลฉ้อฉล พร้อมถูกฟ้องล้มละลาย ยันทำเพื่อปกป้องประโยชน์ชาติ ถ้า ทอท.เจรจาแทนที่จะบังคับคดีก็ยินดี หนุนตั้งกองทุนพิทักษ์คุณธรรม ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ด้าน "สุริยะใส" คาดคงนัดคุยกันเร็วๆ นี้ ยันชุมนุมไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ล่นไม่เสียใจคำพิพากษา แต่จะเสียใจถ้าไม่ได้ร่วมต่อสู้
วันนี้่ (22 ก.ย.) น.ส.มาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขียนข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก Maleerat Kaewka ถึงกรณีที่ศาลยกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาคดีแพ่ง ชดใช้ ทอท.เหตุนำมวลชนชุมนุมที่สนามบินราว 522 ล้านบาทว่า ตัดสินมาแล้ว ถูก ผิด ก็อยู่ในใจ ทรรศนะส่วนตัว ไม่เคยเสียใจที่ได้ร่วมขบวนการต่อสู้กับรัฐบาลฉ้อฉล เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องทำทุจริต ดังนั้น จากนี้ไปพร้อมสู้ทุกรูปแบบ ตามเงื่อนไขอำนวย คือ 1.พร้อมที่จะถูกบังคับคดี และนำไปสู่การถูกฟ้องล้มละลาย ตามกฎหมาย 2. เราไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว แต่การกระทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ดังนั้น หากการท่าฯ ก็เป็นหน่วยงานภาครัฐ จะเจรจา แทนที่จะบังคับคดีทันที ก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการ 3.หากคนที่เคยร่วมสู้ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการไปใช้ชานชลาสนามบินชุมนุมไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงน้ำใจ รวมพลังจะตั้งกองทุนพิทักษ์คุณธรรม ถือว่า เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประชาชนพร้อมรวมพลัง สู้กับสิ่งไม่ถูกต้อง พร้อมจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันในยามยากลำบาก ไม่ปล่อย 13 คนให้โดดเดี่ยว ขอบคุณในการแสดงเจตนารมณ์
"หากข้อ 3 เกิดขึ้น ดีในแง่สัญลักษณ์ แสดงว่า พลังภาคประชาชนยังเข้มแข็ง พร้อมร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นการแสดงจริยธรรมสูงสุด และเหมือนพี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์เขียนไว้ แสดงเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างจริยธรรมกับความยุติธรรมไม่ว่าจะเลือกเดินแบบไหน ทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ส่วนตัวพร้อมยืนหยัดร่วมสู้กับอธรรมทุกรูปแบบ ตามเงื่อนไขที่สามารถยืนหยัดได้ ขอบคุณเพื่อนมิตร ขอบคุณทุกกำลังใจ"น.ส.มาลีรัตน์ กล่าว
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เขียนข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก สุริยะใส กตะศิลา วานนี้ (21 ก.ย.)ว่า ตนทราบคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีแพ่งกรณีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สนามบินปี 2551 แล้ว ซึ่งวันนี้ศาลฎีกายกคำร้องฝ่ายจำเลย 13 คน ขอให้ขยายฎีกา แต่ศาลท่านไม่ขยาย มีผลให้จำเลยทั้ง 13 คน ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับการท่าอากาศยานฯ (ทอท.) กว่า 522 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี แน่นอน จุดยืนพวกเราน้อมรับคำพิพากษาของศาล แม้จะมีแง่มุมที่เห็นต่าง แต่เราต้องยอมรับ และต้องรับผลที่จะเกิดกับเราทุกอย่างต่อจากนี้ ซึ่งคงได้นัดหมายคุยกันพร้อมหน้าจำเลยทุกคนรวมทั้งทนายทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเจรจากับโจทย์ (ทอท.) การบังคับคดี หรือการฟ้องล้มละลายในอนาคต ซึ่งยังคงมีเวลาอีกนับปี
"ส่วนตัวผมยังยืนยันสิ่งที่เราได้กระทำลงไปเพื่อประโยชน์สาธารณะและต่อต้านรัฐบาลที่ฉ้อฉล ทรราชย์ในตอนนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือทำไปเพราะแรงจูงใจแห่งผลประโยชน์ส่วนตนแต่ประการใด ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณพี่น้องที่เสียสละและต่อสู้ร่วมกันมา ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธาในการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมต่อไป ริ้วรอยในกายบอกได้แค่อายุขัย แต่ถ้าเราไม่ยืนหยัดในคุณธรรม ริ้วรอยจะปรากฎในใจเราตราบนิรันดร์ อย่าท้อถอย ผมไม่เสียใจกับคำพิพากษาวันนี้ แต่ผมจะเสียใจมาก ถ้าผมไม่อยู่ร่วมสู้กับพี่น้องในวันนั้น วันนึ้ผมยังมีแรงสู้ และยังคิดว่ามีอะไรให้ต้องสู้อีกมากมายเพื่อบ้านนี้เมืองนี้ ที่ดีและน่าอยู่กว่านี้เพื่อส่งมอบให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป" นายสุริยะใส ระบุ