- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 'บิ๊กตู่'รู้แล้ว'ปู'อยู่ไหน จะเปิดเผยหลังศาลพิพากษาคดีข้าว
'บิ๊กตู่'รู้แล้ว'ปู'อยู่ไหน จะเปิดเผยหลังศาลพิพากษาคดีข้าว
“ประยุทธ์” เผยรู้ที่“ยิ่งลักษณ์” กบดานแล้ว มีสายลับบอก แต่ขอเปิดเผยหลังศาลตัดสินคดี 27 ก.ย.นี้ วอนสื่ออย่าซัก “ประวิตร” บ่อย ถามซ้ำจนโมโห ขอเวลาสอบ “บิ๊กตำรวจ” พาหนี หากเจตนาช่วย เจอโทษวินัย-อาญา ไม่ปฏิเสธนั่งนายกฯ ต่อ 5 ปี หลังเลือกตั้ง บอกจะมาแบบไหนไม่รู้
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ก่อนการตัดสินคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า สถานการณ์ในวันที่ 27 ก.ย. ตนไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก ถ้าเรามองว่าวันพรุ่งนี้เหมือนกันวันอื่นๆ เหมือนวันที่มีการตัดสินคดีทุกคดี ซึ่งมีคดีมาตลอดเวลาทั้งคดีเล็กและคดีใหญ่ เราไปให้ความสำคัญมากเกินไปหรือไม่ ถือเป็นพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และทุกคนก็ทราบดีถึงความเป็นมา ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน มีผู้พิพากษาตั้งหลายท่าน และการตัดสินก็ยังไม่รู้ล่วงหน้า เพราะผู้พิพากษาทั้งหมดจะมาเจอกันในตอนเช้าเพื่อเรียบเรียงคำตัดสินใหม่ เพื่อรวบรวมสรุปเป็นคำตัดสินของคณะผู้พิพากษา
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีนี้ ที่ทุกคนซักถามทั้งรองนายกฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาตลอด ผมคิดว่าเรื่องเส้นทางอะไรต่างๆ ก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าเอามาพันกัน เรื่องนั้นเป็นกระบวนการสอบสวนสืบสวนจะดำเนินการ ผมยังไม่อาจกล่าวว่าใครผิดใครถูก จะบอกว่าผิดหรือไม่ก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าถูกก็ไม่ใช่ ทั้งนี้ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นหลังวันที่ 27 ก.ย.ไปแล้ว ผมมีข้อมูลแต่ยังพูดอะไรไม่ได้ ฉะนั้นอย่าไปถามท่านอีกเลย เห็นใจบ้าง บางทีก็อึดอัด แต่ก็ไม่อยากให้ทุกอย่างออกมามะรุมมะตุ้มก่อนวันที่ 27 ก.ย. จนทุกอย่างสับสนอลหม่านไปหมด เพราะต้องดูกฎหมายที่มีหลายฉบับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า สื่ออย่าไปถามรองนายกฯ บ่อยนักเลย ได้ยินเสียงสื่อที่ถามไม่กี่คน ตนฟังอยู่ก็จำได้ รองนายกฯ ตอบจบแล้วก็ถามใหม่ ถามจนโมโห
ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมสงสัยตำรวจที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์หนี เหตุใดจึงไม่มีความผิด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ใช่ ต้องดูมันมี 2 กรณี เขาอาจจะพูดเหมารวมหรือไม่ ผมไม่รู้และไม่ได้แก้ตัว ประเด็นแรก คือ การใช้รถผิดมันผิดหรือไม่ เขาก็ชี้แจงว่ามารถได้ทีหลัง ทางกล้องเห็นชัดเจนแต่ไม่เห็นหน้า ตรงนี้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญที่เขียนไปในเรื่องกฎหมาย ป.วิอาญา เขียนไว้ว่าหากตรวจสอบแล้วรถคันนี้ผิดกฎหมาย คราวนี้จะผิดในเรื่องของการใช้รถ แต่หากหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ ซึ่ง ม.29 เขียนไว้มองทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าจะไปช่วย มันช่วยไม่ได้หรอก ประเด็นที่ 2 คือ การพาออก ต้องดูว่าผิดกฎหมาย ป.วิอาญาตรงไหน ถ้าพาออกไปจริง พาออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีหมายจับเมื่อไหร่ อะไรทำนองนี้ โทษทางวินัยก็มีอยู่ด้วย ถ้าไปช่วยเหลือจริงๆ ก็จะมีคดีอาญาด้วย ก็ให้เวลาหน่อย เดี๋ยวถ้ารู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้ก็พอรู้ แต่ผมยังพูดไม่ได้ ขอให้พ้นวันที่ 27 ก.ย.ไปก่อน”
เมื่อถามว่า ต้องดูที่เจตนาของตำรวจที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องดูด้วย เจตนาถ้าไปจริงก็ช่วยเขาแน่นอน เจตนามันไม่ต้องแปลอย่างอื่น เมื่อถามว่า แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ติดคำสั่งศาลห้ามออกนอกประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูกันอีกที อย่าเพิ่งเอากฎหมายมาสู้กัน เราก็ไม่ได้รู้กฎหมายกันทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นเอาความรู้สึกไปตัดสินคนทั้งหมด ก็จะวุ่นวายไปกันใหญ่ อีกหน่อยจะเป็นตัวอย่างให้คดีอื่น แล้วจะทำอะไรกันไม่ได้ เดี่ยวก็คลี่คลายขอให้ใจเย็นๆ
เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้ทราบความคืบหน้าของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “บอกแล้วว่ารู้ แต่ยังไม่บอก หลังวันที่ 27 ก.ย.ผมถึงจะบอกว่าอยู่ไหน” เมื่อถามว่า ทราบแล้วหรือไม่ว่าใครเป็นผู้สั่งการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อนำเสนอนาย ก. นาย ข. แล้วมันใครกัน คงไม่เรียกว่าสั่ง แต่คงอยู่จักใครก็ไปฝากคนนี้คนนั้นช่วยกัน อาจเป็นลูกน้องเก่าหรือเปล่าที่เขามาขอให้ทำ มันก็แค่นั้น
เมื่อถามว่า แสดงว่าประเทศปลายทางแจ้งกลับมาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยัง เขาจะแจ้งอะไร มีใครเขาจะแจ้ง แต่สายลับตนก็มี เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอลี้ภัยไปประเทศใด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มี จะไปลี้ภัยเรื่องอะไร ภัยอะไร ภัยการเมือง การเมืองที่ไหน คดีอยู่ในศาล ตอนนี้ยังไม่รู้ เพราะเขายังไม่ได้ลี้ภัยเลย สื่อก็เขียนกันเองว่าเขาจะลี้ภัย มันจะลี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้พอรู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์พำนักอยู่ประเทศไหน แต่ต้องขอให้เขายืนยันอีกสักหน่อย อย่าเพิ่งไปพูดก่อนเลย
เมื่อถามว่า ถ้าประเทศใดยืนยันมาจะขอให้ส่งตัวกลับมาเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องดูด้วยว่ามีสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แล้วเขาเลยส่งหรือไม่ และเราเคยขอไปกี่คนแล้ว ซึ่งประเทศที่เราเคยขอตัวก็มีสัญญาทุกประเทศ ขณะเดียวกัน ต่างประเทศเขาก็มีกับเรา แต่บางคนเราให้เขาไม่ได้ เพราะเราต้องดำเนินคดีในประเทศของเรา ซึ่งเป็นเรื่องแต่ละประเทศเขา จะไปบังคับอะไรเขาได้มากมาย
เมื่อถามว่า ดูทิศทางจะซ้ำรอยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ คนไปไม่ค่อยมีปัญหา คนอยู่ซวยทั้งปี วันนี้ทุกอย่างมันก็ชัดเจน คดีความเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มันไม่ดีกว่าไม่มีอะไรหรือ ต้องการแบบนั้นหรือ วันนี้ทุกคดีก็ออกมาหมด ขึ้นอยู่กับศาลที่จะตัดสิน รู้จักคำว่าศาลหรือไม่ รู้จักกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ อย่ามาเถียงกันเอง
เมื่อถามว่า ต้องให้ตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล เข้ามาช่วยด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า เขาก็ร่วมมือกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้าถึงเวลาเขาผิดแล้วเขาหนี ก็ต้องเอาตำรวจสากลมา เมื่อตำรวจสากลติดต่อไป เขาไม่ให้มา ตำรวจสากลจะไปทำอะไร ก็ติดต่อไปทุกที่ แล้วเป็นอย่างไร ตำรวจสากลแจ้งคดีไป 129 ประเทศ เขาให้มาหรือยัง
เมื่อถามว่า ในแง่การดำเนินการเรื่องพาสปอร์ตจะมีแนวทางอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องดูว่าผิดถูกหรือไม่ก่อน ศาลตัดสินว่าอย่างไร ถ้าตัดสินผิดก็เป็นผู้ต้องหา ถ้าเป็นผู้ต้องหาก็ทำได้ เป็นเรื่องหลักเกณฑ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ทุกอย่างมีกติกาหมด อย่าไปผลีผลามทำส่งเดชตามใจชอบ มันไม่ได้ นี่คือการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน ถ้าทำเร็วไปก็บอกว่าใจร้าย อีกพวกก็บอกว่ารัฐบาลซ้ำเติม ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง มันมีคนอยู่หลายประเภท ต้องใช่กฎหมายเป็นเครื่องชี้วัดว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป แล้ววันนี้บ้านเมืองสงบสุขกันหรือไม่
เมื่อถามว่า หลังวันที่ 27 ก.ย. รัฐบาลเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเรื่องเหล่านี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมพร้อมตามคำร้องขอของศาลอยู่แล้ว และก็เป็นพื้นที่ของศาล จะต้องคุ้มครองศาลอย่างไร เขาเตรียมมาตรการและมีแผน มีการตัดสินคดีมากี่ครั้ง ครั้งก่อนก็เตรียมเก้อไปรอบหนึ่ง เมื่อถามว่า หลังวันที่ 27 ก.ย. นายกฯ จะมาแถลงที่พำนักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยตนเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ต้องแถลงเอง ให้เขาชี้แจงว่าอยู่ที่ไหน ทำไมตนต้องมายืนแถลงด้วย เรื่องนี้จะเปิดเผยผ่านใครก็ได้ โฆษกตนก็มี ไม่เช่นนั้นนายกฯ เป็นโฆษกเอง เป็นมันทุกเรื่อง เป็นลูกไล่ทุกเรื่อง ลูกไล่สื่อไง เราไม่ใช่ลูกไล่หรือลูกไม่ไล่ แต่เราเป็นเพื่อนกัน เราทำเพื่อประเทศชาติไม่ใช่หรือ ฉะนั้นอย่าหาจำเลยให้มากขึ้นเลย วันนี้จำเลยมีเยอะกันพอสมควรแล้ว จะเอานายกฯ เป็นจำเลยอีกเรื่องมันไม่ไหว แล้วถ้าตนไปตกอยู่ในฐานะนั้นแล้วจะทำงานได้หรือไม่
“เห็นใจผมบ้าง ตั้งแต่เช้าปวดหัวหลายเรื่องเพราะประชุมเยอะ เดี๋ยวก็ต้องประชุมอีก นี่คืออดีต เป็นเรื่องที่เกิดในอดีตกำลังแก้ปัญหาอยู่ แต่กำลังจะไปประชุมอนาคต 20 ปี ยุทธศาสตร์อีก นายกฯ ต้องปรับเปลี่ยนธรรมดา แต่ไม่ต้องมาเห็นใจเราหรอก ใช้มันให้ตายไปเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าจะทำงานต่ออีก 5 ปี ไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะให้เป็นอะไรหรือ เมื่อถามว่า หากประชาชนต้องการให้เป็นนายกฯ ต่ออีก 5 ปี ท่านจะเอาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แล้วจะต้องมาเป็นได้อย่างไร รัฐบาลต้องมาจากการเลือกตั้งไม่ใช่หรือ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ เมื่อถามว่า ท่านจะลงเลือกตั้งด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ลง” จากนั้นผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าไม่ลงเลือกตั้งแล้วจะมาแบบไม่เลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่รู้”