- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- คองเกรสสหรัฐยุติ "ชัตดาวน์" รัฐบาลทรัมป์
คองเกรสสหรัฐยุติ "ชัตดาวน์" รัฐบาลทรัมป์
ภาวะชัตดาวน์ครั้งแรกในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สิ้นสุดภายในเวลา 3 วัน หลังแกนนำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสบรรลุ "ข้อตกลงชั่วคราว" อนุมัติงบประมาณให้รัฐบาลกลางถึงต้นเดือนหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ม.ค.วุฒิสภาสหรัฐมีมติเสียงข้างมากในการประชุมเมื่อวันจันทร์ 81 ต่อ 18 เสียง และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมาก 266 ต่อ 150 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวให้รัฐบาลกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีเงินพอใช้จ่ายถึงวันที่ 8 ก.พ. นี้ หมายความว่าหน่วยงานทุกแห่งภายใต้สังกัดรัฐบาลกลางจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารที่ 23 ม.ค. นี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังหน่วยงานส่วนใหญ่ต้องระงับการปฏิงานหรือให้บริการตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากวุฒิสภาไม่สามารถลงมติผ่านร่างกฎหมายได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งแน่นอนว่าสร้างความโล่งใจให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐราว 3.5 ล้านคนทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นการชัตดาวน์ด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่าการชัตดาวน์ครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งกินเวลาระหว่างวันที่ 1-17 ต.ค. 2556 ในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เกิดขึ้นหลังนายชัค ชูเมอร์ แกนนำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงกับนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ในการการันตี "ความคุ้มครองเบื้องต้น" ให้กับผู้อพยพเกือบ 800,000 คน ในโครงการ "ดาก้า" ( DACA ) หรือ "ดรีมเมอร์ส" ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 5 มี.ค.นี้ และการเตรียมหาทางขยายระยะเวลาของกฎหมายประกันสุขภาพผู้เยาว์ หรือ "ชิป" ( CHIP ) เพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินของครอบครัวที่มีฐานะยากจน
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแสดงความยินดีที่แกนนำของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และเขาพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการลงนามรับรองกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม การลงมติในครั้งนี้ดูแล้วเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเพียงระยะสั้นเท่านั้น เมื่อผู้นำสหรัฐกล่าวเป็นนัยว่า "ในระยะยาว" เขาต้องการข้อตกลงปฏิรูปผู้อพยพที่ "สร้างสรรค์และครอบคลุม" และย้ำว่าพรรคเดโมแครตต้องเห็นชอบการจ่ายงบประมาณล่วงหน้าให้กับโครงการก่อสร้าง "กำแพงอันสวยงาม" ทอดยาวตลอดแนวพรมแดนติดกับเม็กซิโก ที่เขาจะไปเรียกเก็บเงินจากรัฐบาลเม็กซิโกในภายหลัง.