- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ซาอุฯรับ‘คาช็อกกี’ตายผิดพลาดร้ายแรง-ยัน‘มกุฎราชกุมาร’ไม่เกี่ยวข้อง
ซาอุฯรับ‘คาช็อกกี’ตายผิดพลาดร้ายแรง-ยัน‘มกุฎราชกุมาร’ไม่เกี่ยวข้อง
รอยเตอร์ - รัฐบาลซาอุดีอาระเบียออกมาแถลงยอมรับเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ว่าการเสียชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ จามาล คาช็อกกี ที่สถานกงสุลในนครอิสตันบูลเป็น ‘ความผิดพลาดครั้งใหญ่และร้ายแรง’ แต่ยังพยายามปกป้ององค์มกุฎราชกุมารให้พ้นจากวิกฤต โดยยืนยันว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่ทรงรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
คำแถลงจากรัฐมนตรีต่างประเทศ อเดล อัล-จูเบร์ ในครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาที่สุดของริยาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกมาเล่ารายละเอียดขัดแย้งกันเองหลายเวอร์ชันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ คาช็อกกี ถูกฆาตกรรม เริ่มจากการปฏิเสธว่านักข่าวผู้นี้ไม่ได้ถูกฆ่า จนสุดท้ายมารับสารภาพว่าตายจริง ซึ่งเรียกเสียงประณามรุนแรงจากนานาประเทศ
“มันคือหนึ่งในปฏิบัติการแหกคอก (rogue operation) เป็นปฏิบัติการของกลุ่มบุคคลที่ทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบที่มี” จูเบร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ของสหรัฐฯ
“พวกเขาทำผิดพลาดที่ฆ่า จามาล คาช็อกกี ภายในสถานกงสุล และพยายามปกปิดเรื่องราวทั้งหมด”
ตลอด 2 สัปดาห์ที่รัฐบาลซาอุฯ ปฏิเสธการตายของคาช็อกกี รวมถึงข้อครหาของเจ้าหน้าที่ตุรกีที่ยังขาดพยานหลักฐานรองรับ ส่งผลร้ายแรงต่อความเชื่อมั่นและสายสัมพันธ์ที่ทั่วโลกมีต่อราชอาณาจักรที่รุ่มรวยน้ำมันแห่งนี้
สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ว่า การที่ซาอุฯ ยอมรับว่าคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ถูกสังหารเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ระหว่างเกิดการทะเลาะวิวาทในสถานกงสุล “เป็นก้าวแรกที่ดี แต่ยังไม่พอ” และตนเห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะหารือเรื่องมาตรการแซงก์ชั่นริยาด
เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส เรียกร้องให้รัฐบาลซาอุฯ แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ถึงกับขู่ว่าเยอรมนีจะไม่ส่งออกอาวุธให้ซาอุฯ ตราบใดที่ชะตากรรมของคาช็อกกี ยังไม่กระจ่าง
ล่าสุด สำนักข่าว SPA ของทางการซาอุฯ รายงานเมื่อค่ำวานนี้ (21) ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานและเจ้าชายโมฮัมเหม็ดได้ทรงโทรศัพท์ไปแสดงความเสียพระทัยต่อ ซาลาห์ บุตรชายของคาช็อกกี
รัฐมนตรีต่างประเทศ จูเบร์ ก็ได้ติดต่อไปยังครอบครัวของ คาช็อกกี เช่นกัน โดยเขาบอกกับฟ็อกซ์ว่า “น่าเสียดายที่เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้น แต่ผมบอกให้พวกเขาสบายใจได้ว่า คนที่มีส่วนรับผิดชอบจะต้องได้รับโทษ”
จูเบร์ ย้ำว่า รัฐบาลซาอุฯ ไม่ทราบจริงๆ ว่า คาช็อกกี ซึ่งเป็นพลเมืองที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ถูกสังหารด้วยวิธีใด และถูกนำศพไปทิ้งที่ไหน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด
คาช็อกกี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังเข้าไปที่สถานกงสุลในนครอิสตันบูลเพื่อทำเรื่องขอจดทะเบียนสมรสกับแฟนสาว
รัฐบาลซาอุฯ ยอมรับเมื่อวันเสาร์ (20) ว่า นักข่าววัย 59 ปีผู้วิพากษ์วิจารณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ดเสียๆ หายๆ ถูกฆ่าขณะเกิดการต่อสู้ภายในสถานกงสุล และอีก 1 ชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ก็แถลงเพิ่มเติมว่า เขาถูกรัดคอจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตุรกีเชื่อว่า คาช็อกกีน่าจะถูกคนของซาอุฯ ฆ่าและหั่นศพเป็นชิ้นๆ ขณะที่แหล่งข่าวอ้างว่าทางการตุรกีมีเทปบันทึกเสียงตอนที่เขาถูกสังหารด้วย
ขณะกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอาทิตย์ (21) ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี ได้พูดเป็นนัยๆ ว่าพร้อมจะเปิดเผยข้อมูลบางอย่างจากทีมสืบสวน และจะเฉลยให้ทราบตอนประชุมสมาชิกพรรครัฐบาล AKP ในวันอังคารที่จะถึงนี้ (23)
สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานเช้าวันนี้ (22) ว่า แอร์โดอันได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับ ‘ทุกๆ แง่มุม’ ในคดีนี้ที่จำเป็นต้องสะสาง