- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- "บิ๊กตู่'นำแม่น้ำ5สาย ถกพรรคการเมืองเคาะลต.
"บิ๊กตู่'นำแม่น้ำ5สาย ถกพรรคการเมืองเคาะลต.
วันที่ 7 ธ.ค. 2561ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป โดยมีสมาชิกคสช. ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
รวมถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อาทิ นายศุภชัย ยาวะประภาษ นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงผู้แทนพรรคการเมือง โดยในวันนี้มีพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 75 พรรคการเมือง จากทั้งหมด 105 พรรคการเมืองที่กกต.ทำหนังสือเชิญ
อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังชล พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย พรรคเกียน พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเสรีรวมไทย ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมหารือด้วย
สำหรับการจัดประชุมชี้แจงหารือของแม่น้ำ 5 สายในครั้งนี้เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของคสช.ที่ได้กำหนดไว้แล้วในคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 เรื่อง “การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง” ในข้อ 8 ซึ่งระบุให้คสช. ประชุมส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งอันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง พร้อมร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ซึ่งมีการตรวจรถทุกคันที่จะเข้ามาภายในสโมสรทหารบก ทั้งนี้การหารือดังกล่าวห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ว่าที่หัวหน้าพรรคเกียน สวมชุดโจรสลัด ถือป้ายระบุข้อความว่า “ปลดล็อกประชาธิปไตย” พร้อมกับกล่าวก่อนเข้าร่วมหารือว่า แม้ว่าพรรคของตนจะไม่ได้รับเชิญให้มาร่วมหารือ แต่ตนก็ขอมาร่วมรับฟังด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็อนุญาต ทั้งนี้สิ่งที่จะนำเสนอในที่ประชุมนั้น คือจะเรียกร้องให้คสช.แยกบทบาทหน้าที่ออกจากกกต. เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของกกต. เพราะตอนนี้บทบาทของคสช.และกกต.ทับซ้อนกัน เพื่อให้กกต.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อีกทั้งขอให้คสช.ประกาศยกเลิกการควบคุมพรรคการเมือง รวมถึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกการจัดรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทุกวันศุกร์ นอกจากนี้ขอให้ยกเลิกการอายัดบัญชีธนาคารของตนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนนครบาล 2 ได้เข้ามาเชิญตัวนายสมบัติออกจากพื้นที่ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคว่า พรรคภูมิใจไทยยังไม่คิดเรื่องการจับขั้ว ซึ่งพรรคเพียงต้องการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน การที่สมาชิกได้เข้าไปในสภา ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว คำว่าผู้แทนราษฎรมีความยิ่งใหญ่ เพราะนี่คือตัวแทนของประชาชน ส่วนตำแหน่งหลังจากนั้น ล้วนเป็นเรื่องของอนาคต เราไม่สามารถกำหนดอะไรได้ทั้งสิ้น เลือกตั้ง ปี 2554 เราเคยจับมือกับพรรคหนึ่งว่าจะไปด้วยกัน แต่พอหลังเลือกตั้งเขาเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่เราเป็นฝ่ายค้าน
“ผมทำงานการเมือง ผมมีศักดิ์ศรี ที่ผ่านมามีคนบอกว่าผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีตาอยู่ ผมบอกเลย ตาอิน กับตานาเขาแย่งปลากัน แล้วตาอยู่มาคว้าพุงปลาไปกิน ในขณะที่เขาทะเลาะกัน แสดงว่าตาอยู่เป็นคนไม่ดี เพราะแทนที่จะไปไกล่เกลี่ย ดันไปฉวยโอกาส วิถีของตาอยู่ไม่ใช่แนวทางของผม” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หากพรรคภูมิใจไทย มีเสียงเป็นอันดับรอง ตนจะไม่เป็นนายกฯ และไม่ต่อรองขอตำแหน่ง เนื่องจากพรรคอันดับต้นเขารู้แล้วว่าเราไม่ใช่ตัวจริง ตนไม่อยากตกนรก กลับมาที่ปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทยส่งครบทุกจังหวัด แต่อาจจะไม่ครบทุกเขต เพราะเราต้องส่งคนที่เจ๋งที่สุด ตอนนี้เรามีระบบการคัดสรรผู้สมัครที่ไว้ใจได้ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้หวังแค่ได้รับความนิยมในภาคอีสาน แต่หวังเป็นพรรคการเมืองของคนทั้งประเทศ ส่วนที่บอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.เท่านั้นเท่านี้ เป็นการวิเคราะห์จากคะแนนเก่า แต่การเลือกตั้ง 2562 กฎกติกาเปลี่ยนไปแล้ว เราอาจจะได้เพิ่มขึ้น หรือน้อยลง สุดแล้วแต่ประชาชน แต่ตนจะทำงานให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ตนและทีมงานรับฟังปัญหาประชาชน ร่วมคิดกับทีมยุทธศาสตร์ของพรรคตลอด สมาชิกของพรรคก็อยู่ติดพื้นที่ ไม่ห่างชาวบ้าน เราทำอย่างสุดความสามารถ ผลออกมาอย่างไร เราไม่มีคำว่าเสียใจ.