เผย'ปรีชาพล'ไม่กลับบ้าน 3 วันแล้ว ด้าน'เสริมศักดิ์'เชื่อลูกเอาตัวรอดได้
"ปรีชาพล" ล่องหน 3 วันแล้ว ด้าน "เสริมศักดิ์" เชื่อลูกเอาตัวรอดได้
ช่วง 3 วันที่ผ่านปฎิเสธไม่ได้ว่ากระเเสข่าวการเมืองเข้มข้นทุกนาที กระแสที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ว่าตำรวจสันติบาลได้คุมตัว ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ หลังการนำเสนอพระนามของพระบรมวงศ์ษานุวงศ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จนมีพระบรมราชโองการ ว่าการนำสถาบันกษัตริย์มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องมิบังควร และ พระบรมวงศานุวงศ์ ต้องอยู่เหนือการเมือง
แม้ว่าวานนี้(10ก.พ.) นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ทษช. และหลานสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก ขณะกำลังทำบุญไหว้พระร่วมกับ ร.ท.ปรีชาพล และ นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ทำบุญไหว้พระที่วัดหน้าพระเมรุราชิการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
แต่มีผู้ตั้งข้อสังเกตุจำนวนมาก ว่าเป็นภาพเก่า เนื่องจากตั้งแต่ นายปรีชาพล รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ มักสวมเสื้อยืดที่มีตราสัญลักษณ์ พรรคไทยรักษาชาติ ตลอด แต่ครั้งนี้กลับสวมเสื้อโปโลสีขาว อีกทั้งเป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แต่กลับไม่มีกิจกรรมหาเสียงใดๆ เหมือนกับที่ผ่านๆ มา และตามกำหนดการ ที่ทางพรรคแจ้งว่าร้อยโทปรีชาพล จะต้องเข้าประชุมที่ทำการพรรค ในช่วงวายวันนี้ (11ก.พ.) แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ปรากฏตัว
ทีมข่าวเนชั่นทีวี ติดตามสังเกตการณ์ที่หน้าบ้านพักย่าน ถนนโชคชัยสี่ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ก็ไม่พบการปรากฏตัว บรรยากาศที่บ้านพัก ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช รวมถึง นางระเบียบรัตน์ และ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิข อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พ่อ และ แม่ ที่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน มีเพียงคนดูแลบ้านและแม่บ้าน เจ้าหน้าที่สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข
จากการสอบถามแม่บ้าน บอกว่า ร้อยโทปรีชาพล ปกติก็พักอยู่ที่นี่ แต่ไม่ได้กลับมาที่บ้าน 3 วันแล้ว ขณะที่นางระเบียบรัตน์ ออกไปทำภารกิจ นอกบ้าน ทีมข่าวติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง นายเสริมศักด์ พงษ์พานิช ให้สัมภาษณ์ สั้นๆ บอกว่า ร.ท.ปรีชาพล ลูกชายแยกไปนานแล้ว หลังเกิดปัญหา ก็ได้ให้คำแนะนำ ลูกชายโทรมาหาบ้าง ซึ่งได้แนะนำบางประเด็น ยอมรับว่าว่าเป็นห่วงลูกชายมีลูกชายคนเดียว มีลูกสาว 2 คน วันนี้ร้อยโทปรีชาพล ยังไม่ได้ติดต่อมา เชื่อว่าลูกชายยังไม่ถึงขั้นถูกตำรวจสันติบาลคุมตัว ตามที่มีข่าว เพราะยังไม่มีการความแจ้งความร้องทุกข์ใดใด ยอมรับว่าห่วงลูกชายมาก และไม่มีอะไร อะไรจะฝากถึงลูกชาย เชื่อว่าเอาตัวรอดได้ ก่อนที่นายเสริมศักดิ์ จะขอตัววางโทรศัพท์
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/826729?fbclid=IwAR16SF4g5wJ-RgCtVGj0jkAru33wJzRIZsLe9ZBSSjdx7dUykXbN8R5tlPU
