บริษัทฝรั่งเศส เตรียมทดสอบระบบขนส่ง "ไฮเปอร์ลูป" ที่ตูลูส เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2562 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียมรายงานว่า หลังจากที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท HTT ได้ประกาศว่า ได้เสร็จสิ้นการก่อสร้างท่อที่พร้อมสำหรับทดสอบครั้งแรกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ การทดสอบจะเริ่มในเดือนเมษายนนี้ ใช้แคปซูลที่บรรทุกผู้โดยสาร 20 ถึง 40 คน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เหนี่ยวนำบนบนรางแม่เหล็ก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1200 กม. / ชม. ออกเดินทางทุกๆ สี่สิบวินาที ซึ่งจะทำให้มีผู้โดยสารรวมสูงถึง 164,000 คนต่อวัน
ระบบเทคโนโลยีขนส่งไฮเปอร์ลูป (Hyperloop Transportation Technologies) จะเปิดตัวแคปซูลที่จะมีความเร็วสูงสุดถึง 1,223 กม. ต่อชั่วโมง ด้วยระบบแม่เหล็กลอยตัวที่เรียกว่า Inductrack บริษัท HTT ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในสหรัฐฯ ได้เปิดตัวแคปซูลตัวใหม่ที่จะขับเคลื่อนบนรางแม่เหล็ก โดยเทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการตามจินตนาการของนายอีลอน มัสก์ ทั้งนี้ ระบบขนส่งด้วย Hyperloop เป็นระบบที่เงียบและปลอดมลภาวะเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้ระบบแม่เหล็กแบบแม่เหล็กที่เป็นไปตามประเภทของแม่เหล็ก รวมถึงเครือข่ายของ Halbach ที่อนุญาตให้มีการเคลื่อนที่แบบลอยตัวบนแทร็กที่ไม่ได้ขับเคลื่อน เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า
นอกจากนั้น เพื่อความปลอดภัยของแคปซูล บริษัทจึงได้พัฒนาวัสดุเคลือบผิวใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเหล็กถึงสิบเท่าชื่อว่า Vibranium ในการใช้งานระบบ และแนวคิดของ Hyperloop จะจำลองสภาพบรรยากาศที่มีความสูงในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันต่ำภายในเครือข่ายท่อซึ่งจะดึงดูดอากาศผ่านปั๊มสุญญากาศ ระบบนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ต้องการการตรวจสอบเพียงเล็กน้อยจากผู้ควบคุมเท่านั้น
นายอีลอน มัสก์ เชื่อมั่นว่าจะเป็นการขนส่งแห่งอนาคต และต้องการให้ Hyperloop เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเขาในการพิชิตดาวเคราะห์ดาวอังคาร ทั้งนี้ ความฝันที่จะเป็นจริงนี้ยังคงจำเป็นต้องรอดูผลการทดสอบเดือนเมษายนถึงได้ข้อสรุปสำหรับระบบที่จะวางโครงการใช้จริงบนโลกก่อนที่จะนำไปพัฒนาต่อบนดาวเคราะห์ดวงอื่น
เป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีราคาไม่แพง แต่ในทางปฏิบัติสำหรับการติดตั้งท่อเชื่อมสองเมืองได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีราคาสูงกว่ามาก ในการนำเสนอโครงการ อีลอน มัสก์ ระบุค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง 6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเชื่อมต่อลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโกหรือ 11 ล้านดอลลาร์ต่อกิโลเมตร ข้อมูลจากเอกสาร Hyperloop One (หรือ Virgin Hyperloop One) ระบุจำนวนเงินค่าก่อสร้างประมาณ 52 - 75 ล้านเหรียญสหรัฐต่อกิโลเมตรสำหรับระยะทาง 107 ไมล์ ซึ่งก็ยังคงต่ำกว่าต้นทุนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่วางแผนไว้ระหว่างสองเมืองดังกล่าวข้างต้น
ไฮเปอร์ลูป จะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง หากการเดินทางเชื่อมต่อเมืองหลวงใกล้เคียงต้องใช้เงินนับสิบหรือหลายร้อยยูโรสำหรับซื้อตั๋ว การเดินทางในแคปซูลเชื่อมต่อระหว่างลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโกตั๋วจะมีราคาเพียง 20 เหรียญสหรัฐ อีกทั้งยังเป็นระบบการขนส่งที่ปลอดภัยที่สุด จากการออกแบบ Hyperloop มีการนำเสนอข้อดีของความปลอดภัยที่มีการปกป้องในหลอดแคปซูล ไม่เสี่ยงต่อการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศซึ่งแตกต่างจากวิธีการขนส่งทั่วไป
นอกจากนี้ ระบบเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดของมนุษย์ มีระบบเบรกฉุกเฉินในกรณีที่เกิดปัญหาทางเทคนิค และต้องรักษาระยะห่าง 5 ไมล์ (ประมาณ 8 กิโลเมตร) ระหว่างสองแคปซูลเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบหากมีแคปซูลหนึ่งหยุดลง
ระบบขนส่งไฮเปอร์ลูปยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ขณะนี้การเดินทางโดยเครื่องบินก่อให้เกิดปริมาณคาร์บอนจำนวนมาก ในมุมมองทางนิเวศวิทยา Hyperloop เกิดขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่งกับรถไฟความเร็วสูง เพราะระบบจะทำงานด้วยไฟฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้ นักประดิษฐ์ได้เสนอว่า สามารถติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ด้านบนของท่อ เพื่อจ่ายพลังงานให้กับระบบหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน.
ที่มา:https://www.thairath.co.th/content/1526713
