- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- เร่งตรวจสอบหาสาเหตุพะยูนลอยตายกลางทะเลกระบี่
เร่งตรวจสอบหาสาเหตุพะยูนลอยตายกลางทะเลกระบี่
สำนักข่าวไทย 14 ก.ค. - กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตรวจสอบหาสาเหตุการตายของพะยูน ขณะที่ "ดร.ธรณ์" โพสต์ไม่ควรตัดประเด็นลักลอบล่าเอาเขี้ยวพะยูน
ล่าสุดเช้าวันนี้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานเกาะไม้ไผ่ พบซากพะยูน ตัวโตเต็มวัย ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร ลอยอยู่กลางทะเลระหว่าง เกาะปู ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง และเกาะไม้ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นับเป็นซากพะยูนตัวที่ 2 ที่พบในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งหากนับรวมที่พบซากในจุดอื่นในช่วงที่ผ่านมา นับเป็นตัวที่ 5 แล้ว
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการเจ้าหน้าที่ และทีมสัตวแพทย์ ลงตรวจสอบหาสาเหตุการตายของพะยูนทั้งหมด เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง โดยเฉพาะทำไมจึงเกิดขึ้นที่กระบี่มากกว่าจุดอื่น โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้ตรวจสอบหาสาเหตุอย่างเร่งด่วน รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนบริหารจัดการเฝ้าระวังป้องกัน ดูแลพะยูน และสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นอย่างเหมาะสม รวมทั้งการลาดตระเวนที่อาจจะต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น โดยวันอังคารที่ 16 กรกฎาคมนี้ กรมทรัพยากรทางทะเล จะร่วมประชุมกับจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน และการวางมาตรการแก้ไขปัญหาทางทรัพยากรที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากรายงานโดยเจ้าหน้าที่ พะยูนมีสภาพขึ้นอืด ลักษณะโตเต็มวัย จากร่องรอยต่างๆ ไม่พบว่ามีลักษณะของการถูกทำร้ายโดยตรง จึงไม่อาจชี้ชัดได้ว่าเป็นการล่าหรือไม่ ส่วนเขี้ยวที่หายไปเป็นไปได้ว่าอาจถูกถอดไปภายหลังจากการตาย ซึ่งผู้ครอบครองซากหรือชิ้นส่วนสัตว์ป่าสงวน มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นใดออกไป ทั้งการตายโดยธรรมชาติ หรือการถูกล่า
ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญทะเลไทย โพสต์เฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตการตายของพะยูนที่เกิดขึ้นมากผิดปกติ โดยระบุว่า "ผมเชื่อว่า กระแสมาเรียม/ยามีล ทำให้คนไทยหันมาสนใจพะยูนอย่างเยอะ แต่การสนใจหากจบแค่น่ารักดี มันก็คงไม่ใช่ ความสนใจต้องทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ต้องทำให้พะยูนอื่นๆ ในทะเลได้รับการดูแลอย่างดี ผมทราบดีว่า ทุกหน่วยงานกำลังทำเต็มที่ ท่านอธิบดีกรมทะเลก็ออกมาประกาศเฝ้าระวัง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจมีหลายกรณี เช่น การตายเพราะติดอวน ฯลฯ ก่อนโดนลักลอบเอาเขี้ยวไปภายหลัง อย่างไรก็ตาม ก็คงยังไม่สามารถตัดประเด็นการลักลอบล่า เพื่อเอาเขี้ยวไปเป็นของขลัง ไม่ว่ากรณีใด อยากเตือนว่า การครอบครองเขี้ยวพะยูน มีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.สงวนคุ้มครอง (2562) รุนแรงกว่าก่อนอย่างมาก ยังอยากเสนอว่า ในเมื่อมีพะยูนตายผิดปรกติ การเฝ้าระวังบริหารจัดการด้วยเทคนิคเดิมๆ อาจไม่พอเพียง แน่นอนว่าของเดิมมีทุกฝ่ายช่วยกันเต็มที่ แต่หากมีโอกาสทำให้ได้ดีกว่านั้น ก็ย่อมเป็นเรื่องเหมาะสม เราอาจต้องลงทุนมากขึ้น ยกระดับจำนวนเจ้าหน้าที่ เครือข่าย ดูแลเรื่องเขตการอนุรักษ์ จำกัดเครื่องมือประมง อุปกรณ์ เทคโนโลยี ฯลฯ ทำระบบให้สมบูรณ์แบบ โดยครอบ
คลุมพื้นที่ทั้งตรัง กระบี่ พังงา เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลอย่างเดียว แต่คงต้องขอแรงจากทุกฝ่ายมาช่วยกันวางระบบตรวจตราดูแล นำเทคโนโลยีมาใช้ VMS โดรน เรดาห์ชายฝั่ง เครือข่าย เรือตรวจการณ์ ฯลฯ จัดหนักจัดเต็มให้สมบูรณ์ เป็นพื้นที่โมเดลสำหรับอนุรักษ์สัตว์หายาก ดูจากกระแสสังคมแล้ว ผมคิดว่านี่คือจังหวะดีที่สุดที่เราจะทำได้ งบไม่พอ ของบกลางเพิ่ม จะระดมจัดกิจกรรมและการบริจาคเพื่อการมีส่วนร่วมก็ยิ่งดี ต้นเรื่องก็พอมี ในแผนปฏิรูปประเทศมีเรื่องเกี่ยวข้องกับส่วนนี้อยู่บ้าง ประกาศเป็นกม.แล้วด้วยทราบว่าท่านอธิบดีกรมทะเลจะลงไปพื้นที่อย่างด่วน จึงอยากเสนอท่านไว้ ยังอยากฝากความหวังไว้กับท่านรมต. ท่านบอกว่ากระทรวงทรัพยากรฯ คือกระทรวงดูแลอนาคต พะยูนคืออนาคตของอันดามันจัดหนักจัดเต็มเลยครับ"
ทั้งนี้จากข้อมูลกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่า 4 เดือนที่ผ่านมา มีพะยูนเกยตื้นตายรวม 5 ตัว โดยมีลูกพะยูนเกยตื้นแล้วรอดตาย 2 ตัว คือ มาเรียม ซึ่งได้รับการดูแลที่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ส่วนยามีล ถูกนำไปอนุบาลที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ภูเก็ต .-สำนักข่าวไทย
ที่มา : https://tna.mcot.net/view/OnaaPsd