- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- "วราวุธ"เตรียมสั่งกรมบาดาล-กรมน้ำ จัดหาแหล่งกักเก็บน้ำ
"วราวุธ"เตรียมสั่งกรมบาดาล-กรมน้ำ จัดหาแหล่งกักเก็บน้ำ
“วราวุธ”อัญเชิญหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์เข้าทส.เป็นวันแรก ชี้เคยฝันอยากทำงานด้านสิ่งแวดล้อม เผยหลังแถลงนโยบายลงพื้นที่ร้อยเอ็ด3-4 ส.ค.เตรียมสั่งการกรมบาดาล- กรมน้ำ จัดหาแหล่งกักเก็บน้ำเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เดินทางเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ อย่างเป็นทางการในวันแรก เมื่อเดินทางมาถึงได้สักการะพระพุทธสยัมภู พระประจำกระทรวง และศาลพระภูมิเจ้าที่ และได้ปลูกต้นรวงผึ้งบริเวณด้านหน้ากระทรวง
จากนั้นนายวราวุธ เดินทางไปยังห้องทำงาน ชั้น 20 ในเวลา 09.39 น. โดยนำพระพุทธรูป หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ มาไว้ประจำห้องทำงานเพื่อบูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและการทำงาน ทั้งนี้ได้มีนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงพร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง
โดยนายวราวุธ ได้กล่าวกับผู้บริหารระดับสูงว่า วันนี้ยังไม่มอบนโยบายใดๆ เพราะรัฐบาลยังไม่ประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามตนดีใจที่ได้มาทำงานที่กระทรวงทรัพยากรฯ เพราะเคยฝันว่าอยากทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งครอบครัวศิลปอาชาให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก และหากมีเวลาตนจะเดินไปเยี่ยมทุกชั้นทุกห้องของกระทรวง
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ในเรื่องของป่าไม้ อาจยังไม่ใช่การเพิ่มพื้นที่ป่าแต่เป็นการรักษาป่าที่มีอยู่ให้อุดมสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์เสียก่อน ในเรื่องน้ำซึ่งตามพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้ว่า เราไม่เคยกักเก็บน้ำไว้ได้ ดังนั้นเราต้องหาวิธีในรูปแบบต่างๆ ถึงเทคนิค กลไก ที่ถูกต้อง หัวใจสำคัญคือในการรักษาต้นน้ำและกักเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด ต่อมาในเรื่องขยะ เป็นประเด็นสำคัญของทั่วโลก วันนี้ต้องประหยัดในการใช้ทรัพยากร และงดปริมาณขยะ โดยเฉพาะพลาสติก ต้องร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักให้กับประชาชนเพื่อรักษาโลกใบนี้
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภัยแล้งว่า ตนได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล เพื่อช่วยให้มีน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคอีสาน รวมทั้งจังหวัดที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่าในขณะนี้ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะภาคเกษตรกร นอกจากนี้ได้ยังการให้กรมทรัพยากรน้ำไปสำรวจแหล่งน้ำเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง และหาแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ นอกจากนั้นเร็วๆ นี้ตนจะลงพื้นที่ทางภาคอีสาน เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง โดยจะเดินทางไปจ.ร้อยเอ็ดในวันที่ 3-4 ส.ค.นี้ิ
เมื่อถามว่า ปัญหาภัยแล้งในระยะเร่งด่วนจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อน 17 แห่งอยู่ในขั้นวิกฤติ นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ตามกฎหมายตนไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลก่อน จึงจะมีอำนาจดำเนินการได้ทุกเรื่อง
เมื่อถามว่าแม้จะยังไม่ได้แถลงนโยบาย แต่ได้เข้าทำกิจกรรมกับข้าราชการกระทรวงหลายๆ กรมแล้ว มองเห็นอะไรภายในกระทรวงบ้าง นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นกระทรวงที่มีคุณภาพและจะมีปัญหาอยู่ที่ข้อกฎหมายที่ยังไม่สามารถควบคุมดูแลได้เต็มที่ อย่างเช่น ปัญหามลพิษ กรมควบคุมมลพิษมีอำนาจเพียงแค่ดูแลควบคุม แต่อำนาจทางกฎหมายยังเป็นของหน่วยงานอื่น ซึ่งการแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลานาน แต่ยืนยันว่ารัฐมนตรีคนนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ใครที่เคยมีปัญหาอยากบอกอยากเล่า อยากให้ช่วยแก้ไข แต่ไม่เคยมีใครเคยฟัง ฟังมาบอกกับรัฐมนตรีคนนี้ได้ นอกจากจะรับฟังแล้วจะนำไปแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
เมื่อถามถึงความพร้อมในการแถลงนโยบายว่า รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่า เรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในหัวข้อใหญ่ที่ได้บรรจุไว้นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ โดยตนได้เตรียมข้อมูลและข้าราชการ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
เมื่อถามว่ากลัวว่าจะมีเรื่องซักฟอกหรือไม่นายวราวุธ กล่าวว่า คงไม่กลัวเรื่องซักฟอก เพราะตนเพิ่งจะเข้ามาทำงาน และพร้อมจะตอบได้ทุกเรื่อง
ทั้งนี้นายสมัคร ดอนนาปี อดีตผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายวราวุธ เรื่อง การร้องเรียนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กรณีเปลี่ยนแปลงงบประมาณในโครงการเพาะชำกล้าไม้ และการขึ้นเงินเดือน 6 เปอร์เซ็นให้กับภรรยา โดยนายวราวุธ ชี้แจงว่าจะรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย.