- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ส่งมอบกัญชา 1 ตัน ผลิตน้ำมันกัญชา ตำรับหมอยาพื้นบ้าน 6.6 แสนขวด
ส่งมอบกัญชา 1 ตัน ผลิตน้ำมันกัญชา ตำรับหมอยาพื้นบ้าน 6.6 แสนขวด
เลขาธิการ ป.ป.ส. ส่งมอบของกลางกัญชากว่า 1 ตัน ให้อธ.การแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย ก่อนกระจายให้กับสถานพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 12 แห่ง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับผู้ป่วย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ส.ค.62 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ย่านดินแดง กรุงเทพฯ นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ทำพิธีส่งมอบกัญชาของกลางที่ยึดมาจากคดีต่างๆ และได้รับการอนุญาตครอบครองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวม 1,005 กิโลกรัม ให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมี นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และ นายอรัญ ทนันขัติ ผอ.สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้รับมอบ
นายนิยม กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาเพื่อประโยชน์ โดยเป็นไปตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญในการนำกัญชาไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้รักษา เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งในครั้งนี้มี 2 หน่วยงานที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติรับมอบนำไปใช้ ได้แก่ 1.กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ขอรับสนับสนุนของกลางกัญชา 1,000 กิโลกรัม เพื่อใช้ผลิตน้ำมันกัญชาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน ขนาด 5 ซีซี จำนวนประมาณ 660,000 ขวด ให้มีปริมาณน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย และ 2.สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอรับสนับสนุนของกลางกัญชา 5 กิโลกรัม เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
"มี 5 หน่วยงาน คือ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ รพ.พระอาจารย์ฝั้นอาจาโร คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก และสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมของกลางรวม 1,684 กิโลกรัม เพื่อขอนำกัญชาของกลางไปใช้ประโยชน์เพื่อประชาชน และยังมีอีก 11 หน่วยงานที่รอการพิจารณาขอรับสนับสนุนกัญชาของกลางเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และวิจัย ขณะนี้สำนักงาน ป.ป.ส.เก็บรักษากัญชาของกลางประมาณ 20 ตัน และส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจหาสารปนเปื้อนโลหะหนักและสารเคมีว่าสามารถใช้ได้จำนวนเท่าใด รวมทั้งยังมีของกลางทยอยเข้ามาใหม่อีก 3-4 ตันเพื่อการตรวจหาสารปนเปื้อนต่อไป
ขอย้ำว่า กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติด ถ้าผู้ป่วยรายใดจำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษา ขอให้ปรึกษาแพทย์ เพราะปัจจุบันมียาและสถานพยาบาลรองรับเพียงพอแล้ว" นายนิยม กล่าว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ส.ค.62 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ย่านดินแดง กรุงเทพฯ นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ทำพิธีส่งมอบกัญชาของกลางที่ยึดมาจากคดีต่างๆ และได้รับการอนุญาตครอบครองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวม 1,005 กิโลกรัม ให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมี นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และ นายอรัญ ทนันขัติ ผอ.สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้รับมอบ
นายนิยม กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาเพื่อประโยชน์ โดยเป็นไปตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญในการนำกัญชาไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้รักษา เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งในครั้งนี้มี 2 หน่วยงานที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติรับมอบนำไปใช้ ได้แก่ 1.กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ขอรับสนับสนุนของกลางกัญชา 1,000 กิโลกรัม เพื่อใช้ผลิตน้ำมันกัญชาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน ขนาด 5 ซีซี จำนวนประมาณ 660,000 ขวด ให้มีปริมาณน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย และ 2.สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอรับสนับสนุนของกลางกัญชา 5 กิโลกรัม เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
"มี 5 หน่วยงาน คือ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ รพ.พระอาจารย์ฝั้นอาจาโร คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก และสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมของกลางรวม 1,684 กิโลกรัม เพื่อขอนำกัญชาของกลางไปใช้ประโยชน์เพื่อประชาชน และยังมีอีก 11 หน่วยงานที่รอการพิจารณาขอรับสนับสนุนกัญชาของกลางเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และวิจัย ขณะนี้สำนักงาน ป.ป.ส.เก็บรักษากัญชาของกลางประมาณ 20 ตัน และส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจหาสารปนเปื้อนโลหะหนักและสารเคมีว่าสามารถใช้ได้จำนวนเท่าใด รวมทั้งยังมีของกลางทยอยเข้ามาใหม่อีก 3-4 ตันเพื่อการตรวจหาสารปนเปื้อนต่อไป
ขอย้ำว่า กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติด ถ้าผู้ป่วยรายใดจำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษา ขอให้ปรึกษาแพทย์ เพราะปัจจุบันมียาและสถานพยาบาลรองรับเพียงพอแล้ว" นายนิยม กล่าว