- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 'ฟิล์ม-รัฐภูมิ'ซบเพื่อไทยทางการ ลั่นพรรคเก่าไม่ตอบโจทย์
'ฟิล์ม-รัฐภูมิ'ซบเพื่อไทยทางการ ลั่นพรรคเก่าไม่ตอบโจทย์
19 สิงหาคม 2562 นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) อดีตรองโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัฒน์ อดีตเลขาธิการพรรคภาคีเครือข่ายไทย และ นายณัฐพงษ์ รอบคอบ อดีตสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย เดินทางเข้าสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมี โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการ, นายสุรชาติ เทียนทอง รองเลขาธิการ, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองเลขาธิการ, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยพลัส ให้การต้อนรับ
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวต้อนรับ และขอบคุณทั้ง 3 คน ที่เล็งเห็นว่า พรรคเพื่อไทย เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งฟิล์มและคณะจะได้ใช้แนวคิดที่อยากจะพัฒนาชาติบ้านเมืองผ่านทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งนอกจากด้านมีเดียแล้ว ฟิล์มและสมาชิกยังมีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ที่เป็นหนทางในการทำมาหากินในอนาคต ดังนั้น ความสามารถเหล่านี้จะเข้ามาเติมพลังนโยบายการทำงานของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งร่วมกับพรรคในการเชื่อมพื้นฐานที่แข็งแกร่งของโลกไปสู่อนาคต และขอให้ผนึกกำลังทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มองฟิล์มในด้านนการสื่อสารอย่างเดียว เพราะจากการคุยกัน ได้รู้ว่าฟิล์มมีความคิดตรงกัน ว่า การเป็นบุคคลสาธารณะของฟิล์ม ได้เห็นความเหลื่อมล้ำของคนทั้งประเทศ และด้วยอาชีพที่เป็นศิลปินมาก่อน เป็นอาชีพที่คล้ายกับนักการเมือง คือ มีหัวใจคือประชาชน
ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดเผย อุดมการณ์ของตนเองคือการเห็นประเทศไทยพัฒนาขึ้น ครั้งหนึ่งเคยได้เข้าไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ได้เจอตัวตนของตัวเอง และได้เจอการแก้ไขปัญหาประเทศชาติที่แท้จริง การเป็นสื่อเล็กๆ ในโซเชียล ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ อุดมการณ์ที่เสนอไม่ได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ ซึ่งกลับมามองว่า พรรคการเมืองใดที่มีระบบการแก้ปัญหาที่แท้จริง ทำให้เจอบ้านใหม่ ที่เป็นมืออาชีพของจริง ไม่ได้ใช้เวลานานในการคิด เพราะพรรคเพื่อไทย มีข้อดีในการบริหารงาน 3 รุ่น นโยบายใดที่ดีอยู่แล้ว ก็ส่งเสริมให้ดีขึ้นไป ส่วนอะไรใหม่ๆ ก็เปิดรับและพัฒนาให้เท่าเทียม
ทั้งนี้ ฟิล์ม ยังยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ค่อนข้างกังวล เกี่ยวกับอาชีพ ชื่อเสียงด้านการเเสดง แต่ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ได้เห็นความเหลื่อมล้ำของประชาชนทั้งประเทศ จึงมองว่า วันนี้ หมดยุคแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย เพราะทุกคนรอแค่ว่าจะมีพรรคไหนที่จะเข้ามาแก้ปัญหา ได้เร็ว และทำได้จริง ขณะนี้ จึงไม่มีความกังวล ว่า การเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทย จะถูกหยิบยกไปเกี่ยวโยงกับเรื่องอื่นๆ
โดยฟิล์ม ยืนยันว่า จุดยืนของตนเองนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปมา เพราะจุดยืนคือ การแสวงหาประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทย เพราะสำนึกอยู่ตลอดคือประชาชนที่สนับสนุนทำให้ตนเองมีทุกวันนี้ ซึ่งมองว่าไม่จำเป็นว่าการเข้าสู่การเมืองต้องอยู่ในพรรคใหญ่ แต่อยากสื่อสารว่า คนรุ่นใหม่ไม่ต้องกลัวการเมือง
ส่วนพรรครวมพลังท้องถิ่นไท นั้น ส่วนตัวยังเคารพและรักผู้บริหารพรรคทุกคน ยังเป็นครอบครัวเหมือนเดิม แต่เนื่องจากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และวันนี้ต้องแสดงจุดยืนชัดเจนโดยเฉพาะจุดยืนด้านประชาธิปไตย